พวกเราคงได้ยินกันมาบ้างสำหรับเรื่องราวของ บัตรเงินสดVS บัตรเครดิต บางคนก็คงจะรู้จักกับ 2 สิ่งนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้จักหรือยังแยกระหว่างบัตรเงินสดและบัตรเครดิตไม่ออก ก็มาลองทำความเข้าใจไปพร้อมๆกับน้องปอนด์กันเลย
มินนี่ : อ้าว ปอนด์ไปไหนมา กินข้าวรึยัง มานั่งด้วยกันก่อนไหม
ปอนด์ : ยังเลย เราเพิ่งทำรายงานเสร็จ กำลังจะมาหาอะไรกินเนี่ยแหล่ะ เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
มินนี่ : รายงานอะไรหรอ เราไม่เห็นมีงานอะไรเลย วิชาที่เราไม่ได้เรียนด้วยกันหรอ
ปอนด์ : อืม รายงานการเงินน่ะ ไม่ยากหรอก แค่ตอบคำถามว่าบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตมันต่างกันอย่างไร ไม่มีอะไรมากหรอก
มินนี่ : โหย เก่งอ่ะ เราไม่ถูกโฉลกกับเรื่องพวกนี้อย่างแรงเลย แล้วสรุปว่าบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตมันต่างกันยังไงหรอ นี่เราก็ไม่รู้นะเนี่ยจริงๆ เห็นทั้งคุณแม่คุณป้าก็ใช้กัน เราคิดว่ามันจะเหมือนกันซะอีก
ปอนด์ : บัตรเงินสดกับบัตรเครดิต มันก็คล้ายๆกันนะ แน่นอนแหล่ะอย่างเรื่องอำนวยความสะดวกนี่ใช่เลย เราสามารถเอาบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตมาใช้ได้เวลาที่เราไม่มีเงินสด ทำง่ายแค่เรามีเงินเดือนถึงขั้นที่เขากำหนดไว้ เราก็ทำได้แล้ว แต่ที่แตกต่างกันเลยนะ บัตรเงินสดนี่จะมีวงเงินกำหนดไว้ ซึ่งเราสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้เต็มวงเงินนั้นเลย ในขณะที่บัตรเครดิตนั้นเราสามารถกดเงินสดออกมาได้บางส่วนเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละสถาบันการเงินเขาตั้งเกณฑ์ไว้กี่% ของเงินที่ยังสามารถใช้ได้ในบัตรนั่นแหล่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะไม่นิยมใช้บัตรเครดิตกดเงินสดกันหรอก เห็นว่าค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยแพงมาก โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้รูดซื้อค่าสินค้าเท่านั้น
ถ้าถามว่าบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตอันไหนวงเงินเยอะกว่ากัน มันก็ต้องเป็นบัตรเครดิตอยู่แล้ว ซึ่งก็สัมพันธ์กับเกณฑ์ของคนที่ทำบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตได้ด้วย เพราะบัตรเงินสดจะใช้เงินเดือนเกือบๆหมื่นแต่บัตรเครดิตจะใช้เงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป คือถ้ามีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ก็อดทำบัตรเครดิตไปได้เลย
ส่วนใหญ่แล้วบัตรเครดิตจะมีเรื่องของการสะสมแต้มเข้ามาด้วย ซึ่งหลายๆครั้งเลยที่เรื่องนี้ทำให้หลายๆคนใช้บัตรเครดิตจนเพลิน รู้ตัวอีกทีก็มีหนี้สินเยอะไปหมด แต่บัตรเงินสดที่มีวงเงินต่ำกว่านั้นจะไม่ค่อยพบปัญหานี้เท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนดแล้วล่ะก็บอกเลยว่าทั้งบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตนั้นมีดอกเบี้ยแพงไม่แพ้กันเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่อยากทำบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตนั้นต้องมีวินัยทางการเงินที่ดีพอสมควรเลยทีเดียว
มินนี่ : ดูแล้วก็พอๆกันเลยแฮะ แต่ว่าถ้ามันมีการแยกเป็นบัตรเงินสดกับบัตรเครดิตแบบนี้มันก็ต้องมีเหตุผลสิใช่ไหม ไม่อย่างนั้นเขาจะทำออกมาทำไมล่ะ
ปอนด์ : แน่นอนอยู่แล้วแหล่ะ อย่างบัตรเงินสดเนี่ยจะตีตลาดคนได้กว้างกว่าอยู่แล้ว คนสามารถใช้งานได้มากกว่าเพราะมินนี่ลองคิดดูว่าคนไทยมีคนที่เงินเดือนถึง 15,000 บาทมากแค่ไหนเชียว อย่างน้อยๆคนทำงานทั่วไปก็จะสามารถทำบัตรเงินสดนี่แหล่ะได้ เพราะว่าไม่ต้องใช้คนค้ำประกันด้วย แค่มีเงินเดือนและที่ทำงานก็พอ ตัวบัตรเงินสดเองก็เหมาะกับการใช้งานเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ได้เหมาะกับการเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยอะไรหรอก คนทำงานทั่วไปอย่างลูกจ้างส่วนใหญ่ก็เลยจะดูเข้ากับบัตรเงินสดมากกว่าบัตรเครดิตนั่นเอง
มินนี่ : แต่ว่าบัตรเครดิตมันก็กดเงินออกมาได้เหมือนบัตรเงินสดใช่ไหมล่ะ แล้วอย่างนี้คนที่เขามีเงินเดือนถึง 15,000 บาทเขาจะเลือกอะไรหล่ะ
ปอนด์ : อันนี้เราว่ามันอยู่ที่คนชอบแล้วล่ะ แต่ว่าต้องขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าถ้าเราใช้งานบัตรเครดิตนั้นอัตราดอกเบี้ยของการรูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อของกับอัตราดอกเบี้ยของการกดเงินสดออกมาใช้นั้นแตกต่างกันมากเลย บางคนเขาก็เลยทำทั้งบัตรเงินสดและบัตรเครดิตไปเลย ทำไว้เฉยๆเผื่อจำเป็นเพราะเราไม่ใช้ก็ได้ยังไงยอดหนี้ก็เดินอยู่แล้ว แถมไม่มีวันหมดอายุด้วย พอจำเป็นต้องใช้ก็ค่อยเอาออกมาใช้
มินนี่ : อืม ก็จริงแหะ แบบนี้มินนี่ว่าสำคัญที่การชำระหนี้แล้วล่ะ ถ้าจ่ายครบก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
ปอนด์ : ถูก คนที่เป็นหนี้ก็มีแค่เรื่องใช้เงินเกินตัวกับไม่ชำระหนี้เท่านั้นแหล่ะ
มินนี่ : เห็นด้วย เราว่าข้าวปอนด์ได้แล้วล่ะ ไปเอามาเลยไหม
ปอนด์ : อืม เดี๋ยวมานั่งกินด้วยนะรอแป๊ปนึง