สมาชิกเว็บไซต์ Pantip.com ชื่อว่าสมาชิกหมายเลข 1806333 ได้ตั้งกระทู้เล่าถึงเรื่องราวของตนเองที่ ใช้บัตรเครดิต จนเป็นหนี้บัตรเครดิตในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี อ้างอิงตาม http://pantip.com/topic/34508582 ซึ่งกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าในปัจจุบันการทำบัตรเครดิตได้รับความนิยมจากคนทั่วไป ซึ่งจุดบอดของบัตรเครดิตคือการก่อให้เกิดหนี้สินและสร้างนิสัยใช้จ่ายเงินเกินตัวนั่นเอง
ประสบการณ์การใช้บัตรเครดิตของเจ้าของกระทู้
เจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงกรณีศึกษาของตนเองโดยแบ่งเป็นข้อ ๆ ไว้ดังนี้
1.ต้นปี 2558 เจ้าของกระทู้ทำบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดโดยทำบัตรเหล่านี้ทั้งหมด 6 ใบแต่ละใบจะมีวงเงิน 150,000 ถึง 200,000 เมื่อรวมจำนวนเงินของบัตรแล้วพบว่ามีวงเงิน 1,000,000 บาท โดยก่อนหน้านั้นเจ้าของกระทู้สมัครขอบัตรเครดิตไปหลายต่อหลายที่ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งหลุดจากแบล็คลิสต์
2.เมื่อเจ้าของกระทู้ได้บัตรเครดิตใบแรกมา ก็นำบัตรไปใช้เพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยพาสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวด้วยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาและน้องชาย ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังมีความจำเป็นต้องผ่อนชำระหนี้รถยนต์ และให้เงินค่าใช้จ่ายกับครอบครัว ซึ่งเมื่อได้เงินจากบัตรเครดิต เจ้าของกระทู้ก็ซื้อของทุกชิ้นที่ตนเองอยากได้ โดยที่ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาภายหลัง
3.ขณะที่เจ้าของกระทู้และครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ได้มีการซื้อสินค้าและอาหารให้กับทุกคนในครอบครัว เมื่อจบ ทริปการท่องเที่ยวนั้น เจ้าของกระทู้เสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 100,000 บาท และเมื่อรวมเงินทั้งสิ้นแล้ว เจ้าของกระทู้รูดบัตรไปทั้งสิ้น 400,000 บาท ในเวลาประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
4.เจ้าของกระทู้คิดทำธุรกิจร้านขายชา โดยใช้เงินทุนทั้งสิ้น 400,000 บาท จึงตัดสินใจกดเงินสดออกมาเพื่อเซ้งธุรกิจนี้ ในระยะแรกที่ทำธุรกิจ พบว่ากิจการไปได้ดีกว่าที่คิด มีกำไรมากพอ แต่แม้จะมีกำไร เจ้าของกระทู้ก็ยังนำเงินจากบัตรเครดิตใช้จ่ายอยู่นั่นเอง ต่อมาภายหลังเจ้าของกระทู้พบว่าของที่เป็นวัตถุดิบในร้านหมดเร็วผิดปกติ จึงคิดว่าอาจมีลูกจ้างยักยอกของกลับบ้านก็เป็นได้ แต่ยังไม่ได้ผิดสังเกตเท่าใดนัก ระยะหลัง ๆ เจ้าของกระทู้เริ่มเข้าสังคมและท่องเที่ยวมากขึ้น จึงไม่ได้ควบคุมธุรกิจในร้าน และปล่อยให้ลุกจ้างซื้อของเอง ซึ่งแม้เจ้าของกระทู้จะได้รับการขึ้นเงินเดือนแต่ทว่าก็ยังคงใช้บัตรเครดิตอยู่และ หลังจากนั้นไม่นาน พบว่าบัตรเครดิตเต็มวงเงินทุกใบ
5.สุดท้ายเจ้าของกระทู้ป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์และโรคซึมเศร้า รู้สึกหมดกำลังใจอยู่ต่อไป แต่ด้วยการรักษาของจิตแพทย์และกำลังใจจากแฟนสาว เจ้าของกระทู้จึงสามารถยืนอยู่ต่อไปได้ โดยตั้งใจตั้งกระทู้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนในยุคปัจจุบันที่ใช้เงินจากบัตรเครดิตโดยไม่คิดถึงผลเสียที่ตามมา
เคสปัญหาของกรณีนี้
1.สมาชิกคนหนึ่งของ Pantip ได้บอกกับเจ้าของกระทู้ว่าเจ้าของกระทู้ผิดพลาดในการที่กดเงินสดเพื่อมาลงทุนธุรกิจร้านขายชา โดยไม่คำนึงถึงดอกเบี้ยต้องจ่ายในแต่ละเดือนจะคุ้มค่ากับกำไรที่ได้รับหรือไม่
- สมาชิกคนหนึ่งของ Pantip ได้บอกกับเจ้าของกระทู้ว่าการจ่ายเฉพาะขั้นต่ำสำหรับผู้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นวิธีการที่ผิดอย่างยิ่ง
3.เจ้าของกระทู้ใช้เงินสำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่มีเงินสำรองเพียงพอ
4.เจ้าของกระทู้ทำธุรกิจแต่ไม่ได้ติดตามผลอย่างใกล้ชิด อาจทำให้ลูกจ้างยักยอกเงินได้
วิธีแก้สำหรับปัญหานี้
1.สมาชิกเว็บไซต์ Pantip ได้ให้คำแนะนำกับเจ้าของกระทู้ว่าควรเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินใหม่ พยายามออมเงินให้มากขึ้นและควรงดมีบัตรเครดิต เนื่องจากบัตรเครดิตคือตัวการที่ทำให้มีหนี้สินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
2.สมาชิกเว็บไซต์ Pantip แนะนำให้ทยอยจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยมากกว่าเดิม เพราะยิ่งปล่อยไว้ ดอกเบี้ยจะทวีคูณมากยิ่งขึ้น ถึงตอนนั้นเจ้าของกระทู้อาจไม่มีกำลังพอจะชำระหนี้
3.สมาชิกเว็บไซต์ Pantipแนะนำให้เจ้าของกระทู้รักษาโรคซึมเศร้าและโรคไบโพล่าร์ให้หายดี เพื่อให้กำลังใจกลับมาและมีสติเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตอีกครั้ง
ข้อควรระวัง
1.อุทาหรณ์และข้อควรระวังสำหรับผู้มีบัตรเครดิตคือการใช้เงินที่รูดจากบัตรเครดิตโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวต่างประเทศ การซื้อสินค้าที่ตนเองอยากได้ การสังสรรค์มากเกินความจำเป็น
2.ไม่ควรนำเงินจากการกดบัตรเครดิตมาลงทุนธุรกิจ เนื่องจากว่ากำไรที่ได้จากธุรกิจอาจไม่เพียงพอต่อการจ่ายดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าหนี้ในแต่ละเดือน หากต้องการลงทุนทางธุรกิจควรขอสินเชื่อกับทางธนาคาร หรืออาจเก็บออมเงินด้วยตนเองผสมไปด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้จ่ายดอกเบี้ยมากเกินไปและอาจเป็นภาระกับธุรกิจนั่นเอง
3.ผู้มีบัตรเครดิตไม่ควรจ่ายแค่ขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากดอกเบี้ยชำระหนี้นั้นอาจสูงจนคาดไม่ถึงได้ ทางที่ดีที่สุด ควรชำระให้มากกว่าขั้นต่ำ เพื่อเป็นการตัดหนี้ให้เร็วที่สุด อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลกับการเสียดอกเบี้ยอีกด้วย
สำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิต กระทู้นี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีที่สุดว่า การทำบัตรเครดิตไม่ได้มีผลดีเสมอไป หากแต่ผลเสียที่ตามมาอาจคาดไม่ถึง และในปัจจุบันนี้มี Social Network ที่เปรียบเสมือนดาบสองคม ผู้ใช้ที่เห็นเพื่อนในสังคมออนไลน์ใช้ชีวิตดี กินอาหารราคาแพง เที่ยวต่างประเทศ และทำตามเพื่อนโดยไม่ประมาณฐานะที่แท้จริงของตนเองโดยนำเงินจากบัตรเครดิตไปใช้ก่อน อาจก่อให้เกิดหนี้ที่ไม่มีความสามารถพอจะชำระได้ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการออมเงินและใช้เงินเท่าที่จำเป็น เพื่ออนาคตที่มั่นคงของชีวิต