ใช้บัตรเครดิตอย่างไรไม่เป็นหนี้ คำๆ นี้คงจะได้ยินกันบ่อยๆ เพราะใครก็ไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิต แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าจึงขยันเป็นหนี้กันจัง…บางคนมีบัตรเครดิตตั้งหลายใบไว้ประดับบารมี แต่พอถึงเวลาต้องจ่ายเคลียร์หนี้ คงจะต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากที่ต้องจ่ายไปหลายบัตร ไหนจะค่าธรรมเนียมรายปีอีก แม้ว่าที่ผ่านมาการใช้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่หากรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะไม่เป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้นแน่นอน ที่สำคัญหากใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเดินตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วยแล้ว อาจจะทำให้คุณอยู่ได้ด้วยความไม่เป็นหนี้ก็ได้ แม้จะมีบัตรก็เอาไว้ใช้คราวจำเป็น และจ่ายให้ทันตามกำหนด ไม่จ่ายขั้นต่ำ แค่รู้หลักการง่ายๆ แบบนี้ จะทำให้คุณไม่ต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายวิธีง่ายๆ ที่จะมาแนะนำการใช้บัตรเครดิตอย่างไรไม่ให้ตัวเองต้องปวดเฮดเพราะหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากบัตรเครดิตนี่ล่ะ???
ใครที่มีบัตรเครดิตดอกเบี้ยต่ำๆ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งหากรู้จักใช้ให้เป็นก็จะทำให้ไลฟ์สไตล์ของคุณดีขึ้น ด้วยการอยู่แบบปลอดหนี้ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตสมัยนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับใครอีกหลายๆ คนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับการใช้แทนเงินสดในการใช้จ่ายค่ากิน ค่าบริการ ซื้อของ ฯลฯ แต่ก็อาจจะทำให้คุณมีปัญหาหนี้บัตรเครดิตตามแก้ไม่ตก ซึ่งวิธีการใช้บัตรเครดิตไม่ให้เดือดร้อนกัน หรือไม่ให้เป็นหนี้เพิ่มขึ้น หากไม่มีการวางแผนการเงินล่วงหน้า อาจนำความเดือดร้อนมาให้เพราะหากคุณใช้บัตรเครดิตเกินกำลังความสามารถในการชำระคืน ก็อาจจะกลายเป็นการก่อหนี้ที่พอกพูนมากขึ้น คุณคงไม่ลืมว่าบัตรเครดิตมีดอกเบี้ยที่สูงมาก ยิ่งใครที่มีบัตรเครดิตหลายๆ ใบยิ่งจะทำให้ควบคุมยากขึ้น และคุณควรจะทราบวิธีการใช้บัตรเครดิตไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน
ก่อนจะใช้บัตรเครดิต ต้องมีเงินสำรองไว้
บอกเลยว่าใครที่มีเงินสดแต่ไม่ได้พกเงินสด ซึ่งอาจจะอยู่ในธนาคาร หรืออาจจะแยกเก็บไว้ เวลาที่คุณนำบัตรเครดิตออกมาใช้จ่ายซื้อของ หรือใช้บริการใดๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณอาจจะใช้บัตรเครดิตในช่วงสินค้าลดราคา หรือมีคอนเนคชั่นกัน เป็นโปรโมชั่นของสินค้า ที่มีร่วมกัน ซึ่งหากใช้เงินสดอาจจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์นั้นๆ ทำให้คุณเองต้องใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด ซึ่งคุณเองก็ต้องมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาชำระหนี้บัตรเครดิตแล้วจะมีเงินจ่ายคืนสถาบันการเงินได้ และพยายามอย่าจ่ายขั้นต่ำเด็ดขาด และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณใช้บัตรเครดิตให้เก็บสลิปไว้ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการใช้จ่ายแต่ละครั้งคุณมีเงินพอที่จะชำระในส่วนนี้หรือไม่ เมื่อถึงเวลาต้องชำระค่าบัตรเครดิต ในแต่ละสัปดาห์ ลองเอาสลิปมาบวกกันดูว่าคุณได้ทำการรูดบัตรเครดิตไปรวมเป็นกี่บาท จะได้เป็นการเฝ้าระวังไม่ให้ตัวเองใช้เกินเงินที่มีอยู่ เพราะบัตรเครดิตเวลารูดมันรูดง่ายเกินไปอาจไม่ทันรู้ตัวว่าจริงๆ ใช้เงินในอนาคตไปเยอะขนาดไหน
ชำระเต็มจำนวน ปลอดหนี้แน่นอน
ข้อดีของการใช้บัตรเครดิต คือ คุณสามารถชำระเงินขั้นต่ำได้ในแต่ละงวดโดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มจำนวนหากเดือนไหนคุณรู้สึกว่าแย่จนขนาดที่จะต้องหาเงินมาใช้จ่ายให้ได้ในจำนวนมากจนทำให้คุณเองไม่สามารถชำระค่าบัตรเครดิตได้หมด แต่ยังดีที่สามารถชำระขั้นต่ำไปก่อนได้ ซึ่งหากไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิตหัวโตแบบชดใช้ไม่หมดซะที ก็อย่าทำบ่อยๆ จ่ายขั้นต่ำได้ในเดือนที่คุณช็อตจริงๆ เพราะยอดที่ค้างชำระมันจะไปรวมกับดอกเบี้ย แล้วมันจะกลายเป็นดินพอกหางหมูหนักเข้าบ่อยๆ หากต้องจ่ายชำระเงินแค่ขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ไอ้ที่เป็นหนี้อยู่ ยังไงก็จะเป็นหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การชำระบัตรเครดิต พยายามชำระให้เต็มจำนวนทุกงวด เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ที่มาจากยอดค้างชำระและดอกเบี้ยที่สูงๆ
รักษาบัตรเครดิตและข้อมูลไว้ให้ดี
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดากับหัวข้อนี้ แต่อย่าลืมว่าหากบัตรเครดิตคุณหายขึ้นมา ซึ่งอาจจะโดนขโมย หรือหล่นหายก็อาจจะทำให้มีคนนำไปรูดใช้ได้ อย่าลืมว่าไม่ควรบอกหมายเลขบัตรเครดิตไว้กับใครเด็ดขาด หรือห้ามเขียนชื่อ หรือเลขรหัสใดๆ ลงในซองบัตรเครดิต หรือด้านหลังบัตร เพราะอาจทำให้ผู้ที่เก็บได้ นำไปใช้จ่ายแบบสบายอารมณ์ ยิ่งหากคุณไม่ทราบว่าบัตรเครดิตหายไป หรือรู้ช้า แจ้งอายัดช้าก็จะส่งผลทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวได้ ควรเก็บรักษาข้อมูลบัตรเครดิตไว้ในที่ปลอดภัย รวมทั้งในการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ในปัจจุบันได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บัตรเครดิตเป็นตัวเลือกในการชำระเงินที่มักใช้กัน อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่า เว็บไซต์ที่เรากำลังจะกรอกข้อมูลเรื่องบัตรเครดิตทุกอย่างลงไป เป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่น่าเชื่อถือหรือไม่ อย่าเสี่ยงจะดีที่สุด
การเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตเพื่อเอาไปจ่ายค่าหนี้บัตรอีกใบ หรือหนี้นอกระบบ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยการเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตไม่น้อยเลยทีเดียว หากหาทางออกกับหนี้บัตรเครดิตที่กองสุมอยู่ไม่ได้ ลองไปเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอปรับโครงสร้างการชำระหนี้ หากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คุณเองก็ต้องเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินและลองทบทวนการใช้เงินตัวเองโดยใช้เงินเฉพาะกับสิ่งจำเป็นและควรวางแผนการเงินให้ดี เชื่อได้ว่าคุณจะผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างแน่นอน