สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตแต่ไม่มีหลักฐานทางการเงินเพื่อไปยื่นให้กับธนาคาร เช่น อาจทำงานอาชีพอิสระ มีรายได้เป็นเงินสดไม่ผ่านบัญชีธนาคารหรือเป็นคนที่ไม่ได้ทำงานมีรายได้ประจำ รายได้ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน ทำให้เมื่อสมัครบัตรเครดิตแบบธรรมดา คุณสมบัติก็จะไม่เข้าเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด ส่งผลทำให้สมัครไม่ได้หรือไม่ได้รับการอนุมัติจากธนาคาร
ทางเลือกในการสมัครบัตรเครดิตของผู้ที่ต้องการใช้บัตรเครดิต แต่ติดปัญหาเรื่องหลักฐานการเงินอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ก็คือ บัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกัน ธนาคารแต่ละแห่งไม่ได้นิ่งดูดายเนื่องจากมีความเข้าใจและรับทราบถึงปัญหาของผู้สมัครที่มีอาชีพอิสระ ไม่มีหลักฐานทางการเงิน หรือมีรายได้ที่ไม่แน่นอนว่าการสมัครบัตรเครดิตแบบธรรมดานั้นทำได้ยาก จึงมีการออกบัตรเครดิตประเภทที่มีเงินค้ำประกันนี้ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้บัตรเครดิตของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว โดยลักษณะของบัตรเครดิตเองก็เป็นการลดความเสี่ยงจากภาระหนี้เสียหรือหนี้สูญของธนาคารได้ด้วย
อ่านเพิ่มเติม : บัตรเครดิตแบบเงินฝากค้ำประกันธนาคารไหนน่าสนใจ ปี 2016
หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้โดยธนาคารแห่งประเทศไทย มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับอนุมัติการสมัครบัตรเครดิตไว้อยู่ข้อหนึ่งว่า ต้องมีเงินฝากเป็นหลักประกันเต็มวงเงินของบัตรเครดิตที่อนุมัติ ทำให้ธนาคารแต่ละแห่งสามารถออกบัตรเครดิตประเภทที่มีเงินฝากค้ำประกันนี้ได้ตามหลักเกณฑ์ของแบงก์ชาติ
แน่นอนว่าขั้นตอนการสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกันก็ต้องมีความแตกต่างจากการสมัครบัตรเครดิตแบบธรรมดาอยู่บ้าง ในเรื่องของเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการสมัคร โดยหากเป็นบัตรเครดิตธรรมดาทั่วไป เอกสารที่จะต้องใช้ในการประกอบการสมัครหลัก ๆ ก็จะมี สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารแสดงรายได้หรือบางธนาคารอาจขอเพิ่มสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หรือใบแจ้งยอดบัตรเครดิตอื่น ๆ ที่มีอยู่ย้อนหลัง 3 เดือน หากมีเอกสารครบถ้วนทั้งหมดและเอกสารไม่ได้แสดงการเงินที่เป็นปัญหา โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติจะสูง ในส่วนของเอกสารประกอบการสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกันหลัก ๆ นั้นประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องเงินฝาก (บางส่วน) และใบแสดงการ hold จำนวนเงินฝากของลูกค้า หากเอกสารหลักฐานครบโอกาสในการได้รับอนุมัติบัตรเครดิตก็สูงเช่นเดียวกัน
หากต้องการสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกัน แต่ยังไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร ก็ควรทำเรื่องเปิดบัญชีและนำเงินเข้าฝากตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร โดยมากธนาคารจะให้ใช้บัญชีเงินฝากมาค้ำประกันได้ทุกประเภท ส่วนยอดเงินฝากที่จะนำมาค้ำประกันนั้นจะมีผลกับวงเงินที่จะได้รับในบัตรเครดิต เช่น หากใช้เงินฝาก 50,000 บาทมาค้ำประกัน วงเงินสูงสุดในบัตรเครดิตที่จะได้รับก็จะเท่ากับ 50,000 บาท วงเงินที่จะได้รับนี้ก็จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร บางธนาคารก็ให้เต็มวงเงินที่ 100% บางธนาคารก็ให้ที่ 95% และมีเช่นกันสำหรับบางธนาคารที่กำหนดไว้ว่าบัญชีเงินฝากที่จะนำมาค้ำประกันบัตรเครดิตต้องเป็นบัญชีเงินฝากของธนาคารที่สมัครบัตรเครดิตเท่านั้น เงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ลูกค้าก็ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะทำการสมัคร จะได้เตรียมตัวอย่างถูกต้อง
นอกจากเรื่องเอกสารหลักฐานที่ต้องเตรียมให้เรียบร้อยตามข้อกำหนดของทางธนาคารแล้ว มีคำถามว่าสำหรับการสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินฝากค้ำประกันนี้ทางธนาคารจะเช็คประวัติลูกค้าในเครดิตบูโรหรือไม่
คำตอบก็คือเช็คแน่นอน กรณีที่ลูกค้ามีประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรขณะที่สมัครอยู่ ธนาคารที่มีนโยบายที่ค่อนข้างเข้มงวดในการให้สินเชื่อบัตรเครดิตกับลูกค้า ต่อให้เป็นบัตรเครดิตประเภทที่มีเงินค้ำประกันก็อาจได้รับการปฏิเสธได้เช่นเดียวกันหากเคยมีประวัติหนี้เสียมาก่อน ดังนั้นการมีประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโรที่ดีจะเป็นการรับประกันได้อีกข้อหนึ่งว่า การสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกันจะได้รับการอนุมัติอย่างง่ายดาย
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการอนุมัติสินเชื่อเกือบทุกประเภทของธนาคารก็คือเรื่องการมีตัวตนหรือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งของผู้สมัคร เนื่องจากธนาคารต้องการให้มั่นใจว่าผู้สมัครเป็นบุคคลที่มีตัวตนและมีที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแน่นอน การให้ข้อมูลส่วนตัวให้เรื่องที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์มีส่วนสำคัญ ที่อยู่ที่ถาวรเช่น บ้าน ไม่ใช่ หอพักหรืออพาร์ตเมนท์ เบอร์โทรศัพท์ที่เน้นว่าต้องเป็นโทรศัพท์บ้าน ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น ในกรณีของการสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกัน แม้เราจะมีบัญชีเงินฝากเป็นตัวค้ำประกันอยู่แล้วก็ตาม แต่การให้ข้อมูลในเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย ก็จะทำให้โอกาสในการสมัครบัตรเครดิตของเราจะได้รับอนุมัติก็จะมากขึ้นตามไปด้วย หากเรามีที่อยู่ที่เป็นบ้านและมีเบอร์โทรศัพท์บ้านก็ควรให้ข้อมูลเหล่านี้กับทางธนาคารไปด้วยในขั้นตอนของการสมัคร
โดยสรุปก็คือหากเราต้องการให้การสมัครบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำประกันของเรานั้นได้รับการอนุมัติอย่างง่ายดาย ควรปฏิบัติตามข้อดังต่อไปนี้
- ต้องมั่นใจว่าหากเรามีประวัติในเครดิตบูโร ประวัตินั้นต้องเป็นประวัติที่ดี ไม่เคยมีหนี้เสียหรือหนี้สูญเกิดขึ้น เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้ธนาคารตัดสินที่จะปฏิเสธการสมัครบัตรของเราได้
- สอบถามข้อกำหนดของบัญชีเงินฝากที่จะใช้คำประกันได้กับธนาคารที่สมัครบัตรเครดิตและปฏิบัติตามขั้นตอนให้ถูกต้อง ไม่เปิดหรือยื่นบัญชีผิดประเภทไปจากที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนดไว้ รวมถึงรายละเอียดยอดเงินในบัญชีก็ให้สอบถามจากธนาคารและใช้ตามที่ธนาคารกำหนด
- ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมตามที่ธนาคารกำหนด เป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความใส่ใจในรายละเอียด สำเนาบัตรประชาชน เซ็นรับรองสำเนาให้เรียบร้อย ตรวจสอบว่าเอกสารมีความชัดเจน รวมถึงแบบฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องเงินฝาก (บางส่วน) และใบแสดงการ hold จำนวนเงินฝากของลูกค้า กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเรียบร้อย หากมีข้อสงสัยควรโทรถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ไม่ควรเว้นว่างไว้ จะทำให้ขั้นตอนการอนุมัติต้องล่าช้าออกไป
-
ให้ข้อมูลที่อยู่ถาวรและเบอร์โทรศัพท์บ้าน (หากมี) เนื่องจากจะช่วยเป็นการเพิ่มโอกาสให้การอนุมัติบัตรเครดิตของเราเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น