การสมัครบัตรเครดิต เป็นสิ่งที่หลายคนคาดหวังว่าสถาบันการเงินจะทำการอนุมัติบัตรให้ แต่ในเรื่องของการพิจารณาบัตรเครดิตของทางสถาบันการเงินก็มีหลักเกณฑ์ในการอนุมัติเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัคร รวมถึงการตรวจสอบเครดิตบูโร และที่เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา คือ การคิดคะแนนจาก Credit Score
Credit Scoring คือ เครื่องมือที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับการพิจารณาสินเชื่อผู้บริโภค โดยเฉพาะสินเชื่อที่ไม่มีวงเงินในจำนวนมาก เช่น บัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด
มีจำนวนธุรกรรมค่อนข้างมาก ในขณะที่สำหรับสินเชื่อขนาดใหญ่ เช่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ หรือสินเชื่อที่มีวงเงินสูง จะใช้พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินในการตรวจสอบ ซึ่งการทำงานของเครื่องมือ Credit Scoring ของแต่ละสถาบันการเงินจะแตกต่างกันไปในเรื่องของการคำนวณคะแนน โดยอยู่บนพื้นฐานข้อมูลสินเชื่อของลูกค้า และประวัติด้านสินเชื่อในอดีต
ดังนั้น Credit Scoring ของแต่ละสถาบันการเงิน ก็จะมีความเข้มข้นไม่เท่ากัน เมื่อผู้สมัครทำการยื่นขอสินเชื่อผู้บริโภค ก็ต้องทำการกรอกใบสมัคร (Application Form) โดยในใบสมัครก็จะมีข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า ที่จะต้องกรอกให้ครบถ้วนมากที่สุด ทั้งข้อมูลทั่วๆ ไป เช่น สถานที่ทำงาน การศึกษา สถานะทางสังคม อาชีพ ข้อมูลด้านการเงิน เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ต่อเดือน ภาระหนี้ต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สถาบันการเงินก็จะนำเอาข้อมูลที่ได้ทำกรอกในใบสมัคร และข้อมูลจากที่อื่นๆมารวบรวมเพิ่มเติม มาคำนวณผ่านเครื่องมือ Credit Scoring เป็นคะแนนออกมา ว่าลูกค้ามีโอกาสและความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ ถ้าคะแนนสูงๆกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็จะผ่านและได้รับการอนุมัติ แต่ถ้าคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ก็ไม่ผ่านการพิจารณา
ดังนั้น การที่เราจะทราบว่า Credit Scoring จะคำนวณจากส่วนไหนบ้าง คงเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละสถาบันการเงินก็มีการตั้งคะแนนของแต่ละส่วนที่แตกต่างกันไป ไม่มีสูตรที่ตายตัว ซึ่งผู้สมัครจะต้องทำการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นข้อมูลจริง รวมถึงการยื่นเอกสารครบถ้วนก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การสมัครผ่านไปได้