สมัยนี้ไม่เพียงแต่เฉพาะมนุษย์เงินเดือนเท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่เป็นเกือบกับทุกคนทุกอาชีพที่รายได้ไม่พอรายจ่าย เนื่องจากค่าครองชีพในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครนั้นถีบตัวสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต เผลอๆบางเดือนเงินหมดก่อนจะถึงสิ้นเดือนเสียอีก ซึ่งนอกจากจะไม่มีเงินเก็บแล้ว อาจเป็นหนี้เพิ่มอีกต่างหาก วันนี้Moneyhub จึงมีเคล็ดลับดีๆมานำเสนอเพื่อช่วยให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้กับค่าครองชีพทุกวันนี้ได้
1.หัดทำอาหารมาเองจากที่บ้าน
ไม่ต้องกลัวใครมองว่ายากจน เพราะคนที่พูดไม่ได้มาช่วยเราจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้องนี่จริงไหม? จริงๆแล้วเรื่องอาหารนี่ถือเป็นปัจจัยสำคัญประการนึงเลย ที่ทำให้เงินในกระเป๋าเราหมดไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันค่าอาหารข้างทางนี่ก็กระโดดมาเกินกว่า40บาทต่อจานแล้ว ยิ่งถ้าอยู่ใจกลางเมืองที่มีร้านอาหารน้อยร้าน ราคาอาหารก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก เผลอๆ 100 บาทจะเอาไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำสมัยนี้
แต่ๆๆ ช้าก่อน เรากำลังอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหาร เป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งแต่โบราณ ดังนั้นราคาข้าวสาร เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ต่างๆ จึงไม่ได้มีราคาแพงมาก แม้บางฤดูกาลราคาอาจจะขยับขึ้นก็จริง แต่เชื่อเถอะว่าการทำอาหารเองนั้นมีต้นถูกที่ถูกกว่าการซื้อรับประทานครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ยิ่งถ้าใครเป็นพวกอิ่มยาก ทำอาหารมาทานเองก็อิ่มแน่นอน และยิ่งถ้าสามารถชักชวนเพื่อนๆ ทำอาหารมาเอง และแบ่งปันซึ่งกันและกัน คุณก็จะมีกับข้าวหลากหลายแบบให้กินทุกวันเลยล่ะ
2.เปลี่ยนมาซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต
เป็นคำแนะนำที่อาจฟังดูแล้วแปลกๆ แต่อันที่จริงหลายคนอาจไม่รู้ว่า การซื้อสินค้าออนไลน์นั้น มีโอกาสช่วยให้คุณได้สินค้าราคาถูกกว่าการที่เดินไปซื้อตามห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆด้วยตัวเอง ยิ่งโดยเฉพาะสิ่งของสิ้นเปลืองนั้น คุณสามารถนำเอาราคาจากร้านค้าที่ซื้อของประจำนำมาเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ขายสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆได้ตลอดเวลา ซึ่งสมัยนี้เว็บเหล่านี้มีหลายสิบหลายร้อยเว็บไซต์ และสามารถสั่งซื้อได้ตลอดเวลา ประกอบกับใช้ตัวช่วยอย่างเว็บไซต์ส่วนลด เช่น Saleduck ที่จะช่วยให้ทุกคนประหยัดมากขึ้น เพราะเว็บไซต์เหล่านี้นำเอาส่วนลดเพิ่มเติม(คล้ายกับคูปอง) มามอบให้ทุกคนนำไปใช้ลดราคาสินค้าประเภทต่างๆที่ตัวเองชื่นชอบได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยมีร้านค้าชื่อดังมากมายมากกว่า50ร้าน ที่สามารถเข้ามาหาโปรโมชั่นและรหัสส่วนลดไปใช้ได้ตลอด24ชั่วโมง
3.คำนวณความคุ้มค่าระหว่างใช้รถส่วนตัวกับขนส่งสาธารณะ
คนกรุงเทพฯหลายคนมักคิดว่าการใช้บริการรถสาธารณะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากกว่าการใช้พาหนะส่วนตัวอย่างเช่นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ แต่หลายครั้งที่การเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะนั้นไม่ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริง ซ้ำยังเพิ่มภาระเรื่องการเดินทางให้กับตัวเองอีกด้วย บางคนอาจต้องนั่งรถไฟฟ้าถึง3ต่อเพื่อไปทำงาน หรือบางคนอาจต้องใช้บริการรถตู้ สลับเรือ และรถไฟฟ้า ซึ่งค่าใช้จ่ายไปกลับของหลายคนนั้นพุ่งสูงเกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำรายวันที่ได้รับเสียอีก
การใช้รถยนต์ส่วนตัวในบางสถานการณ์จึงเป็นเรื่องที่รับได้ และไม่เสียหาย เพียงแค่อาจจะต้องตื่นเช้ามากกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดในช่วงเวลาสาย หรือกลับหลังเวลาเลิกงาน เพื่อใช้เวลาบนท้องถนนให้น้อยที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะใช้รูปแบบการเดินทางใด ก็อย่าลืมคำนวณความคุ้มค่าก่อนว่าวิธีการใดสะดวกกว่ากัน
4.ศึกษาโปรโมชั่นบัตรเครดิต
หลายคนมักพูดถึงบัตรเครดิตในแง่ของบัตรเพิ่มหน้ หรือสร้างภาระให้กับตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน แต่จริงๆแล้วบัตรเครดิตนั้นถ้าบริหารจัดการได้ดี จะช่วยให้คุณประหยัดและมีเงินเหลือเก็บมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเดี๋ยวนี้บัตรเครดิตจำนวนมากจูงใจให้คนหันมาใช้ อย่างเช่น บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพที่สามารถสะสมแต้มแลกไมล์แอร์เอเชียได้ หรือบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ที่มอบสิทธิพิเศษจำนวนมาก เช่นส่วนลด หรือของฟรีเนื่องจากเป็นผู้ถือบัตรเครดิตดังกล่าว จะช่วยให้คุณลดภาระต่างๆได้อย่างไม่ต้องสงสัย และยิ่งผสานกับปัจจุบันที่การซื้อสินค้าและชำระค่าใช้จ่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ตกำลังมาแรง ก็ไม่ควรมองข้ามการศึกษาและวางแผนใช้บัตรเครดิตอย่างรอบคอบเลยละ
ดูโปรโมชั่นบัตรเครดิต ที่นี่
5.หมั่นจดรายรับรายจ่าย
ข้อสุดท้ายคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ทุกคนกลับละเลยมากที่สุด นั่นก็คือการจดว่าในระหว่างวันเราเสียค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง หากคุณเริ่มจดก็จะพบว่ารายจ่ายแฝงประหลาดๆหลายรายการนั้นคือตัวการที่ทำให้คุณเหลือเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือน อย่างเช่น ค่าชานมแสนอร่อยที่ขายอยู่ข้างออฟฟิศ ค่าขนมกรุบกริบซื้อจากเซเว่นสำหรับกินขำๆระหว่างวัน หรือแม้แต่ค่าของกุ๊กกิ๊กที่เพิ่งสอยมาจากตลาดนัด ซึ่งตอนซื้อนั้นอาจจะรู้สึกว่าราคาต่อหน่วยนั้นไม่ได้แพงเลย ทำให้เกิดความถี่ในการซื้อมากขึ้นและบ่อยโดยที่เราไม่รู้ตัว และท้ายที่สุดก็จะพบว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้แหละที่ทำให้เงินเดือนของเราหายไปในสัดส่วนที่ถือว่าค่อนข้างมากในแต่ละเดือน
ดังนั้นอย่าละเลยที่จะจดบันทึก ยิ่งสมัยนี้มีตัวช่วยดีๆอย่างแอพช่วยบันทึกรายรับรายจ่ายต่างๆในโทรศัพท์มือถือก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้การจดนั้นนอกจากจะทำให้รู้ค่าใช้จ่ายแฝงแล้ว ยังทำให้เรามองเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรไม่จำเป็นที่เราสามารถตัดได้บ้างอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นเคล็ดลับดีๆที่moneyhubนำมาเสนอแก่ทุกคน ด้วยหวังว่าจะช่วยให้ทุกๆคนมีเงินเหลือเก็บเหลือใช้มากขึ้น เพราะถ้ามีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น ชีวิตก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน