เงินฝาก ดอกเบี้ย ล่าสุด 2567 แต่ละธนาคาร ฝากเงินที่ไหนดี
รู้กันไหมว่าเงินที่เราหยอดกระปุกไว้ หรือฝากธนาคารสามาถงอกเงยได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยที่เราได้รับ โดยในปี 2567 นี้ ถือว่าเป็นปีที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนรักการออมเงิน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวงการการเงิน ที่ส่งผลต่อดอกเบี้ยเงินฝากโดยตรง เรามาดูกันว่า เงินฝาก ดอกเบี้ย ล่าสุด 2567 เท่าไร แล้วเราจะเอาเงินไปฝากที่ไหนดี ให้งอกเงยที่สุด
ดอกเบี้ยเงินฝาก คืออะไร
ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมดอกเบี้ยเงินฝากถึงสำคัญ คิดง่ายๆ นะ ถ้าเรามีเงิน 100,000 บาท แล้วเราเอาไปฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ย 1% ต่อปี เราก็จะได้ดอกเบี้ย 1,000 บาทต่อปี แต่ถ้าเราหาที่ฝากที่ให้ดอกเบี้ย 2% เราก็จะได้ 2,000 บาทต่อปี เห็นไหมว่าต่างกันตั้งพันบาท แค่เปลี่ยนที่ฝากเท่านั้นเอง
ทีนี้ มาดูกันว่าปี 2567 นี้ ดอกเบี้ยเงินฝากจะเป็นยังไง จากข้อมูลล่าสุดที่เรามี ดูเหมือนว่าแนวโน้มดอกเบี้ยเงินฝากจะปรับตัวสูงขึ้นนิดหน่อย เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ? ก็เพราะว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ธนาคารกลางของหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเรา เริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
ดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร
ง่ายๆ ก็คือ ดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางกำหนดขึ้นมา เพื่อควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าดอกเบี้ยนโยบายสูงขึ้น ดอกเบี้ยเงินฝากก็มักจะสูงขึ้นตามไปด้วย ดีใจกันได้เลย!
แต่อย่าเพิ่งดีใจมากนัก เพราะถึงแม้ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้สูงขึ้นมากมายอะไร คาดการณ์กันว่า ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนของธนาคารใหญ่ๆ ในปี 2567 อาจจะอยู่ที่ประมาณ 1.5% – 2% ต่อปี ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าช่วงที่ผ่านมาที่ดอกเบี้ยแทบจะเป็นศูนย์
ทีนี้ มาดูกันว่าเราจะเอาเงินไปฝากที่ไหนดี ให้ได้ดอกเบี้ยงามๆ กัน ธนาคารใหญ่ๆ อย่าง กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ หรือกรุงไทย ก็มีโปรโมชั่นเงินฝากที่น่าสนใจ แต่บอกเลยว่า ถ้าอยากได้ดอกเบี้ยสูงๆ ลองมองไปที่ธนาคารขนาดกลางและเล็ก หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจดูบ้าง อย่างธนาคารออมสิน หรือธนาคารอาคารสงเคราะห์ บางทีเขาอาจจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารใหญ่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า
สรุปตารางเงินฝาก ดอกเบี้ย ล่าสุด 2567
| ธนาคาร | ออมทรัพย์ | ฝากประจำ (3 เดือน) | ฝากประจำ (ุ6 เดือน) | ฝากประจำ (ุ12 เดือน) | ฝากประจำ (ุ24 เดือน) |
| ธนาคารกรุงเทพ | 0.45 – 0.55% | 1.20% | 1.25% | 1.60% | 2.00% |
| ธนาคารกรุงไทย | 0.30% | 1.17% | 1.25% | 1.70% | 2.25% |
| ธนาคารกสิกรไทย | 0.30% | 1.05 – 1.10% | 1.20 – 1.25% | 1.60 – 1.70% | 2.15 – 2.25% |
| ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | 0.30% | 1.10% | 1.25% | 1.70% | 2.10% |
| ธนาคารทหารไทยธนชาต | 0.125% | 1.05% | 1.15% | 1.55% | 1.70% |
| ธนาคารยูโอบี | 0.35% | 0.90% | 1.10% | 1.55% | 1.70% |
| ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย | 0.35% | 1.00% | 1.20% | 1.60% | 1.90% |
| ธนาคารทิสโก้ | 0.30 – 2.00% | 1.70 – 2.00% | 1.75 – 2.05% | 1.85 – 2.15% | 1.90 – 2.15% |
| ธนาคารเกียรตินาคินภัทร | 0.25% | 1.35 – 1.50% | 1.50 – 1.65% | 1.80 – 1.95% | 1.95 – 2.10% |
| ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ | 0.25% | 1.40% | 1.50% | 1.75% | 1.85% |
| ธนาคารไอซีบีที (ไทย) | 0.70 – 1.45% | 1.60% | 1.80% | 1.90% | 2.25% |
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากไว้ว่า การออมเงินนั้นสำคัญมาก แม้ว่าดอกเบี้ยจะไม่สูงมากในตอนนี้ แต่การมีวินัยในการออมจะช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ลองเริ่มจากการออมเงิน 10% ของรายได้ทุกเดือน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าทำได้
และอย่าลืมว่า นอกจากการฝากเงินแล้ว การลงทุนในตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือการดูแลสุขภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายในอนาคตได้
ยังไงก็ตาม เงินฝาก ดอกเบี้ย ล่าสุด 2567 อาจจะไม่ได้สูงมากมาย แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา และการออมเงินก็ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของการวางแผนการเงินที่ดี ลองหาธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยดีๆ แล้วเริ่มออมกันเถอะ เพราะยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งมีโอกาสที่เงินของเราจะงอกเงยมากขึ้น
