การเป็นหนี้คิดว่าทุกคนคงจะมีแต่ความทุกข์ ก่อนการเป็นหนี้ก็มีความทุกข์อยู่แล้วเพราะว่าเราไม่มีเงินจะใช้จ่าย การแก้ปัญหาของการไม่มีเงินก็คือ เราต้องไปหยิบยืมเงินทองของคน หรือสถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆ มาใช้จ่ายเพื่อการแก้ปัญหาซึ่งอาจจะเป็นการเฉพาะหน้าหรือการแก้ปัญหาระยะยาวก็ได้ ก็แล้วแต่เราจะบริหารหนี้สินของเราให้ได้ ถ้าเราบริหารไม่ได้เราก็อาจเป็นหนี้สินมากขึ้นอีกก็ได้ อาจจะยิ่งมีปัญหาตามมาอีกมากมาย รวมไปถึงการที่เราต้องมีความรู้เรื่องของการเป็นหนี้ในด้านกฎหมายด้วย จะได้ไม่เสียเปรียบ นำไปสู่การเอาเปรียบของการเป็นหนี้ของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจมปลักอยู่กับปัญหาหนี้สินและยังหาทางออกจากความจนไม่ได้สักที ลองมาหา ทางออกของความจน ไปพร้อมๆ กับเรากันดู
ปัจจุบันผู้คนเป็นหนี้สินกันมากมาย เพราะสาเหตุของการใช้จ่ายเงินที่ไม่ระมัดระวัง ในยุดของสังคมระบบทุนนิยม ที่สินค้า ร้านอาหาร จุงใจให้คนซื้อของใช้จ่าย ที่เรียกว่าการบริโภคนิยม ที่ทำให้เราอดใจไม่ได้ ทำให้เราต้องซื้อต้องใช้ ต้องกิน ถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องทำ คนส่วนใหญ่ก็ทำไปแล้ว ก็เป็นหนี้กันยกใหญ่ก็ต้องตามมาล้างหนี้สินที่ทำไว้กันให้หมดจากตัวเรา แต่ถามว่าทำให้หมดไปจากโลกได้ไหม ตอบเลยว่าคงไม่ได้ และคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะโลกของระบบทุนนิยมที่กำลังถึงขั้นคนเป็นหนี้กันมาก คนเป็นเจ้าหนี้ เจ้าของกิจการ บริษัท ห้างร้านต่างๆ เขาต่างก็เลือกที่จะรวย ส่วนคนส่วนใหญ่เราเลือกที่จะจนหรือ เรามาหาทางออกของความจนกันดีกว่า
ซึ่งการหาทางออกจากความจนนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย หลายคนมักจะท้อใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเพราะคิดว่ามันยากเกินกว่าจะทำได้ และตัวเองคงไม่มีทางหลุดพ้นจากความจนได้หรอก แต่ความเป็นจริงแล้ว การจะหลุดพ้นจากความจนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีความพยายามก็ทำได้อย่างแน่นอน
ตอนที่เรารวยมีรายได้มากพอเก็บได้เราก็ควรต้องเก็บเงิน ออมเงินไว้ ยิ่งออมมากก็ยิ่งมีมาก ออมน้อยก็จะมีน้อยตามเหตุของการออม ความฟุ้งเฟ้อใช้จ่ายเงินเกินตัว เกินรายได้อาจทำให้เราดูดี แต่เป็นการดูดีชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานเราก็จนเหมือนเดิม ถ้าเป็นการกู้หนี้ยืมสินเขามาก็ต้องชำระให้เขาไป ถ้าไม่ชำระก็จะมีเจ้าตามมาถึงบ้านของเรา ถ้าเป็นหนี้ของสถาบันการเงิน ทางสถาบันการเงินต่างๆ ก็จะให้สำนักงานทนายความทำหนังสือทวงหนี้มาถึงเรา ว่าถ้าเราไม่ชำระหนี้ก็อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้ เราก็ควรจะต้องติดตามดูให้ดีว่าเป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นหนี้แบบใด แล้วเตรียมใจตั้งรับให้รอบครอบ เพราะบางเรื่องอาจเป็นแค่เรื่องคดีแพ่งเท่านั้นไม่เกี่ยวกับคดีอาญา แต่บ้างเรื่องเป็นคดีแพ่งแต่ถ้าไม่มีความรู้ก็กลายเป็นคดีอาญาไปได้
อย่างเช่น การที่เราไปซื้อของแบบผ่อนชำระ เป็นสัญญาที่ไม่ต้องทำเป็นหนังสืออะไรเลย แต่ต้องเป็นสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ เราซื้อมาของนั้นก็โอนกรรมสิทธิ์มาที่เราแล้วทันทีที่ซื้อ แต่ถ้าเป็นลักษณะของการเช่าซื้อละก็ต้องระมัดระวังไว้ให้ดี เพราะการเช่าซื้อเป็นการที่เจ้าของทรัพย์นั้นเอาทรัพย์มาให้เราเช่า และมีคำมั่นว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของเราเมื่อใช้ราคาทรัพย์นั้นแล้ว และต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ ซึ่งการเป็นหนี้ของการขายแบบผ่อนชำระ กับเช่าซื้อนั้นแตกต่างกัน เพราะเช่าซื้อทรัพย์ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นยักยอกทรัพย์ได้ ซึ่งเป็นคดีอาญา ดังนั้นเราควรต้องระมัดระวังในเรื่องหนี้สินไว้ให้มาก และต้องมีความรู้ด้วย จะได้บริหารหนี้สินเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ว่าเราต้องใช้หนี้ในเรื่องใดก่อนหลัง เพื่อจัดสรรเงินมาชำระหนี้ตามสำดับให้ดี รวมไปถึงการดูเรื่องดอกเบี้ยว่าหนี้สินใดมีดอกเบี้ยมากน้อยต่างกันที่เราต้องใช้ก่อนหน้าหลังให้เรียบร้อย เสียเงินให้น้อย คือต้องรู้ทั้งกฎหมาย และระบบการเงิน ดอกเบี้ยด้วย
อ่านเพิ่มเติม : มาทำเงินจากการ เป็นหนี้ ดีกว่า !
หนี้สินที่เราก่อขึ้นมามีทางออกที่ดี ถ้าเรามีความใส่ใจ และติดตามดูตลอดว่าหนี้สินนั้นเป็นเรื่องใด เกี่ยวข้องกับกฎหมายใด เป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา เราจะได้บริหารหนี้สินแบบปลอดภัยกับตัวเรา รวมไปถึงการดูเรื่องดอกเบี้ยด้วยว่าเราควรใช้ชำระเงินหนี้สินในส่วนใดก่อนหลังเพื่อจะได้ไม่เสียดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ซึ่งอาจทำให้เราต้องจ่ายหนี้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ปัญหาเรื่องหนี้สินจึงมีทางออกเสมอ แต่การสร้างหนี้สินเราก็ไม่ควรจะไปสร้างขึ้นมาอีก เพื่อลดปัญหาทางด้านการเงินของเรา
รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ไม่อยากอยู่กับความจนไปตลอดชีวิต ก็อย่าลืมมาจัดการกับความจนไปพร้อมๆ กันกับเรา นอกจากนี้เราขอแนะนำให้มองหาอาชีพเสริมไว้ด้วยก็ดี เพราะการมีอาชีพเสริมจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการก้าวออกจากความจนกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังทำให้คุณมีเงินเดือนพอใช้อีกด้วยนะ