เงินกู้ออนไลน์ หลอกลวง ดูยังไง พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
ด้วยสภาพเศรษฐกิจในทุกวันนี้ ข้าวของที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับค่าแรงที่หยุดอยู่กับที่มาหลายปี ทำให้เราจนลงโดยปริยาย หลาย ๆ คนเริ่มขาดสภาพคล่องมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มมองหาแหล่งเงินกู้ หรือเงินด่วน เพื่อนำมาหมุนใช้จ่ายในบ้าน หรือจ่ายหนี้ ที่ในปัจจุบันสมัครง่ายแม้ช่องทางออนไลน์ ขณะเดียวกันก็กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้มิจฉาชีพเข้าถึงเราด้วยเช่นกัน บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้เท่าทัน เงินกู้ออนไลน์ หลอกลวง ดูยังไง พร้อมวิธีสังเกต และการป้องกันตนให้ปลอดภัยจากภัยการเงินยุคดิจิทัล
เงินกู้ออนไลน์ หลอกลวง ระบาดหนัก
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการหลอกลวงที่แอบอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการเงินกู้ผ่านแอป เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย โดยมักใช้คำโปรโมตสุดดึงดูด ไม่ว่าจะ อนุมัติเร็ว, ได้เงินจริง 100% ภายใน 30 นาที หรือ ไม่เช็กบูโร เพื่อให้มีคนหลงมาสมัครเป็นจำนวนมาก
และพอเหยื่อหลงเชื่อ สนใจจะสมัครกู้เงิน ก็จะถูกเรียกให้โอนเงินไปก่อน โดนจะอ้างว่าเป็น ค่ามัดจำ, ค่าธรรมเนียม, ค่าประกันวงเงิน หรืออื่น ๆ ซึ่งหากเผลอโอนไปแล้วจะไม่ได้เงินกู้จริง และไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่คุยด้วยได้อีก
เงินกู้ออนไลน์ปลอม ดูยังไง?
- ใช้บัญชีส่วนตัวในการโอนเงิน
โดยปกติแล้วการขอสินเชื่อเงินกู้ต่าง ๆ ทางธนาคาร/สถาบันทางการเงินจะไม่มีนโยบายให้โอนเงินก่อนไม่ว่าจะค่าอะไรก็ตามแต่ และหากมีการโอนค่าบริการก่อนจริงจะใช้บัญชีชื่อบริษัทเท่านั้น
- ไม่มีใบอนุญาตจาก ธปท.
การปล่อยสินเชื่อเงินกู้ในประเทศไทยจะต้องได้รับการรับรองจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยเสียก่อน ซึ่งสามารถตรวจสอบชื่อบริษัทได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หากไม่พบชื่อก็มีโอกาสที่จะเป็นมิจฉาชีพสูง
- คำโฆษณาเวอร์เกินจริง
แหล่งเงินกู้ปลอม ๆ มักใช้ชื่อบริษัท และคำโปรโมตที่มีความเกินจริง และมักดึงดูดผู้มีปัญหาได้มาก อย่างเช่น กู้ 100,000 อนุมัติไว้ ได้เงินใน 5 นาที
ตัวอย่าง:
-
- แอปกู้เงินด่วน ถูกกฎหมาย ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน
- กู้ 50,000 ได้ทันที แค่โอนค่าประกัน 500 บาท
- รับกู้ผ่านไลน์ ไม่ต้องใช้บัญชีธนาคาร
- แอดไลน์ตอนนี้ รับวงเงินอนุมัติเลย
- ตั้งชื่อให้คล้ายกับธนาคาร
แหล่งเงินกู้ปลอม ๆ บางครั้งก็จะตั้งชื่อบริษัท รวมถึงสินเชื่อให้มีความคล้ายคลึงกับของทางธนาคารต่าง ๆ เพื่อให้คนเข้าใจผิดคิดว่าสมัครกับทางธนาคารจริงนั่นเอง
- ขอข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป
มิจฉาชีพมักขอข้อมูลส่วนตัวมากเกินความเป็นจริง อย่างเช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร รวมถึง PIN ธนาคาร ซึ่งอาจอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ธนาคาร/สถาบันทางการเงินจะไม่มีนโยบายขอข้อมูลในส่วนนี้
- ติดต่อกลับยาก
เงินกู้ออนไลน์ที่เป็นของปลอม มักไม่มีไม่มีที่อยู่ติดต่อชัดเจน หรือไม่มี Call Center แต่ในบางกรณีก็อาจนำข้อมูลจากธนาคาร/สถาบันทางการเงินมาแอบอ้าง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
วิธีป้องกันตัวจากเงินกู้ออนไลน์หลอกลวง
- ตรวจสอบใบอนุญาตเงินกู้ผ่านเว็บไซต์ธปท.
- ไม่โอนเงินล่วงหน้าโดยเด็ดขาดในทุกกรณี
- ใช้แอปที่อยู่ใน Google Play / App Store เท่านั้น
- อ่านรีวิวก่อนโหลดแอป หรือสมัครกู้
- แจ้งความทันทีหากพบว่าโดนหลอก ผ่านสายด่วน 1599 หรือ cyber.police.go.th
โดนเงินกู้ออนไลน์หลอกลวง ทำยังไง?
- รวบรวมหลักฐาน เช่น แชท, สลิปโอนเงิน, โฆษณา
- แจ้งความที่สถานีตำรวจ
- แจ้งเรื่องกับธนาคารของผู้รับโอน
- แจ้งผ่านเว็บไซต์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)
เงินกู้ออนไลน์ ถูกกฎหมาย ที่ไหนบ้าง?
- แอปเป๋าตัง – สินเชื่อเสริมพลังฐานราก
- LINE BK – สินเชื่อให้ยืมได้
- TrueMoney – สินเชื่อ nano finance
- Promise – สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติไว
- ธนาคารพาณิชย์ เช่น กรุงไทย, KBank, Krungsri, UOB, ttb ซึ่งในปัจจุบันมีให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว
เงินกู้ออนไลน์หลอกลวง ต้องรู้เท่าทันก่อนจะสาย
ในยุคที่เงินด่วนกลายเป็นความจำเป็น มิจฉาชีพก็ใช้จุดนี้หลอกลวงเหยื่อผ่านการเงินกู้ออนไลน์แบบปลอม ๆ มากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะผ่านแอป เว็บ หรือโซเชียล หากเรารู้เท่าทันกลโกง สังเกตสัญญาณหลอกลวง และไม่หลงเชื่อข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง ก็จะช่วยป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อได้อย่างมาก และต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าเงินกู้ที่ถูกกฎหมายต้องไม่มีการขอให้โอนเงินล่วงหน้า, ต้องมีใบอนุญาตถูกต้อง และมีช่องทางติดต่อชัดเจนเสมอ หากจำเป็นต้องกู้เงินด่วนจริง ๆ ควรเลือกใช้บริการจากแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย เช่น ธนาคาร หรือผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น เพราะหากถูกหลอกให้โอนเงินไปแล้วก็ยากที่จะได้เงินคืน