ชีวิตที่ดี ครอบครัวที่ดีจะต้องมีสภาพทางการเงินที่มั่นคง จะทำอย่างไรให้ชีวิตและครอบครัวของเรามีความมั่นคงได้นั้น
-
ก่อนอื่น ในลำดับแรกก็ต้องตรวจสภาพทางการเงินให้ได้ก่อน
ว่ามีสภาพทางเงินเป็นอย่างไร โดยดูจากเงินเดือนของเราและคู่สมรสว่ามีจำนวนเท่าใด ยกตัวอย่างเช่นเริ่มต้นเราจะมีเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท คู่สมรสเราเงินเดือนประมาณ 15,000 บาท รวมกันเป็น 35,000 บาท ณ ปัจจุบัน และในอนาคตเราจะมีหน้าที่การงาน มีตำแหน่งมากขึ้น มีความมั่นคงมากขึ้น เพราะมีเงินเดือนมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 40-60 ปี เป็นช่วงที่มีเงินเดือนสูงสูดคือประมาณ 50,000 บาท คู่สมรสเราประมาณ 40,000 บาท รวมกันก็ 90,000 บาท แต่หลังจากที่เราและคู่สมรสของเราเกษียนจากงานแล้วก็ไม่มีรายได้ ดังนั้นในอนาคตเราและครอบครัวของเราจะอยู่กันอย่างไร จะทำอย่างไรให้มีเงินออมเก็บไว้ใช้ในภายภาคหน้า ที่จะให้มีความมั่นคงอย่างสูงสุดที่เราจะทำได้
-
ตรวจรายจ่าย
เป็นการตรวจพฤติกรรมของการใช้เงินของครอบครัวของเราว่ามีการใช้เงินด้านใดบาง และมีจำนวนมากน้อยเท่าใด ต้องตรวจให้ละเอียดเพราะเป็นจุดที่ทำให้การออมเงินมีปัญหาได้ ตามตรวจดูทุกคนในครอบครัวของเรา พร้อมตามควบคุมพฤติกรรมการใช้การให้อยู่ในรายจ่ายที่จำเป็นจริง การออมถึงจะได้ผลจากสมบรูณ์ที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมพกความตั้งใจมาให้เต็มที่ เพราะการมีความตั้งใจจริง จะทำให้เราออมเงินอย่างอย่างสำเร็จเร็วขึ้นนั่นเอง
รายจ่ายคงที่ รายจ่ายด้านนี้เป็นรายจ่ายที่ค้อนข้างจะตายตัว ที่เป็นค่าหนี้สิน ก็เช่นค่าผ่อนชำระบ้าน ประมาณ เดือนละ 10,000 บาท ค่าผ่อนชำระรถยนต์เดือนละประมาณ 10,000 บาท ค่าประกันต่างๆ ในครอบครัวว่าจะทำให้ใครบ้างต้องใช้ในส่วนนี้เท่าใดขอประมาณให้คราวปีละ 20,000 กว่าบาท โดยเฉลี่ยเดือนละ 2,000 บาท เช่นประกันชีวิตที่มีความจำเป็นทางด้านความปลอดภัยและเป็นการออมเงินไปด้วยในตัว ค่าเล่าเรียนของลูก ปีละ 30,000 กว่าบาท โดยเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ ประมาณเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีไว้ แม้จะเป็นเงินไม่มากก็ต้องเก็บไว้เพื่อเตรียมจ่ายเมื่อถึงเวลา
เงินสำรอง ก็ต้องเตรียมไว้อีกส่วนหนึ่งไว้ยามที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เงินส่วนนี้ก็ควรที่จากฝากธนาคารไว้จะเป็นการดีที่สุดเพราะปลอดภัย แต่ขอให้เป็นการฝากออมทรัพย์แบบเบิกเมือใดก็ได้โดยทำบัตร ATM เอาไว้เพื่อการถอนเงินแบบด่วนที่สุด เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินก็ต้องใช้เงินแบบฉุกเฉินจริงๆ
สุดท้ายก็คือการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในยามที่เกษียนอายุทำงานก็ประมาณ 50-60 ปีขึ้นไป เรื่องนี้ต้องดูให้ดีเพราะ เห็นหลายคนต้องมาลำบากในตอนที่เกษียนด้วยการที่ไม่ได้เก็บเงินในส่วนนี้ไว้เลย เงินจำนวนนี้ต้องมีมากพอกับค่าใช้จ่ายในยามเกษียน ตอนบั่นปลายของชีวิตเราควรมีความสุขมีเงินเหลือใช้ไว้บ้างให้ลูกหลานได้บ้าง ถ้าเป็นข้าราชการก็มีบำเหน็จบำนาญให้เราใช้ แต่ควรเลือกบำนาญที่ปลอดภัยที่สุด เพราะบำนาญจะได้รับเงินทุกเดือนเปรียบเสมือนเงินเดือน แต่จะน้อยกวาประมาณ 30% โดยเฉลี่ย อย่างที่ยกตัวอย่างเงินเดือนของคู่สมรส ก็ประมาณรวมกันจากเงินเดือนของทั้งคู่ 90,000 บาทก็ประมาณเกือบ 70,000 บาท แต่อย่าเลือกบำเหน็จเพราะจะได้รับเงินก้อนเดียว ถึงแม้ว่าจะมากแต่ถ้าใช้หมดแล้วก็จะหมดเลย แต่ถ้าทำงานเอกชนต้องควรเก็บเงินให้มากกว่าคนที่ทำงานราชการเพราะเงินของเอกชนจะเป็นเงินบำนาญของกองทุนประกันสังคมที่ไม่มากเท่ากับข้าราชการ ถ้าเป็นของเอกชนก็จะได้บำนาญได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน แต่ในอนาคตคงต้องมีการปรับให้ได้เงินที่ใกล้เคียงกัน เรื่องนี้ต้องเตรียมพร้อมก่อนที่จะเกษียณอายุการทำงานในแต่ละกรณี
ค่าใช้จ่ายผันแปรที่ควบคุมไม่ได้ อย่างเช่นค่าใช้จ่ายในการไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ อาจเป็นที่ต่างจังหวัดในช่วงปิดเทอมของลูก หรือช่วงที่เรากับคู่สมรสลาพาร้อน ก็คงจะหลายวันที่จะได้ปีเที่ยวกันภายในครอบครัว ก็คงต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่มากหน่อย แต่ก็เป็นการไปพักผ่อนที่นานๆ จะไปครั้งหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะเป็นปีละครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่ก็คงเป็น 10,000 บาทต่อครั้ง และยังมีค่ากินเลี้ยงที่ทำงานในเทศกาลต่างๆ เช่นปีใหม่ ในช่วงมีโบนัทออก หรือได้รับการเลื่อนตำแหน่งใหม่ หรืออาจเป็นเรื่องการเจ็บป่วย มีอุบัติเหตุ ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็ต้องใช่เงิน แต่ก็นำเงินในส่วนที่เก็บไว้สำหรับสำรองฉุกเฉินได้ ซึ่งเตรียมไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็อย่าลืมว่าการมีเงินออมและเงินสำรองนั้น สำคัญที่สุด เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์กะทันหันขึ้นมาเมื่อไหร่นั่นเอง
การ ตรวจสภาพการเงินของครอบครัว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการที่เราจะคำนวณเงินที่สามารถนำไปใช้ในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พอเพียง ด้วยการที่เราเอาเงินเดือนของคู่สมรสมารวมกันคำนวณค่าใช้จ่าย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายของลูกๆ ทั้งเรื่องค่าเล่าเรียน และครอบครัวของเราจะเหลือเงินอยู่เท่าไรที่สามารถนำไปออมเพื่อการลงทุนในอนาคตที่ต้องปลอดภัย และทำให้ครอบครัวของเรามีความมั่นคงมากขึ้น การออมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะตรวจสภาพการเงินและควบคุมการออมให้ดีกันด้วย