ในช่วงวัยที่ร่างกายมีความพร้อมในการทำงานและมีรายได้เข้ามาเลี้ยงปากท้องแบบมีกินมีใช้ไม่ติดขัด ก็อาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คน ไม่ทันได้เตรียมวางแผน บริหารเงิน เพื่ออนาคตวันข้างหน้าในวันที่เข้าสู่วัยเกษียณ ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยทำงาน แต่ยังต้องกินต้องใช้กันอยู่ทุกวัน ดังนั้น ผู้ที่รู้จักวิธีบริหารจัดการเงินอย่างมีระบบแบบฉบับเศรษฐี ย่อมมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับชีวิตได้มากกว่า ทั้งนี้ การเริ่มต้นออมเงินหรือการวางแผนการเงิน นั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้มีเงินเยอะ ๆ ก่อนแล้วค่อยคิด แต่สามารถเริ่มต้นได้ทันทีไม่ว่ารายได้ของคุณจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม เพียงปรับวิธีคิด คุณก็มีเงินเหลือเก็บแล้ว
- สร้างสมดุลระหว่างความต้องการและความจำเป็นให้ได้
เพราะวิชา บริหารเงิน ส่วนบุคคลไม่ได้มีสอนในตำราเรียนหลักสูตรไหน ๆ ทำให้บางคนไม่สามารถแยกแยะระหว่างความจำเป็นและความต้องการได้อย่างถ่องแท้ ปัจจุบัน ผู้ที่จบการศึกษาใหม่ ๆ มักจะเก็บเงินซื้อรถยนต์ก่อนที่จะซื้อบ้านไว้สักหลัง เพราะคิดเพียงจะซื้อความสะดวกสบาย ทั้ง ๆ ที่ รถยนต์มีแต่รอวันเสื่อมราคาและมีแต่ค่าซ่อมบำรุง ในขณะที่บ้านพักอาศัยจะเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าตามราคาที่ดินตามเวลาที่ผ่านเลยไป ที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย หากอยากแสวงหาความมั่งคั่งก็ต้องรู้จักตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากความอยากก่อนเป็นลำดับแรก
- นำหลักบริหารเงินออมมาใช้อย่างจริงจัง
มหาเศรษฐีระดับโลกเกือบทุกคนมักจะเริ่มต้นจัดการเงินได้จากการออมเป็นแก่นสำคัญ เพราะรู้ดีว่าต่อให้หาเงินเก่ง หาเงินได้มากขนาดไหนก็ตาม หากไม่สามารถนำเงินมาออมเป็นทุนรอนได้ ก็เปล่าประโยชน์ที่จะค้นพบความมั่งคั่งของชีวิต ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ผู้ประสบความสำเร็จจำนวนไม่น้อยจะเลือกหักเงินได้มาออมไว้ทันทีอย่างน้อย 30% ส่วนที่เหลือค่อยนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตามความจำเป็น ทั้งนี้ การใช้จ่ายเงินอย่างสร้างสรรค์ยังสามารถทำได้ด้วยการซื้อหนังสือดี ๆ มาอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้หลากหลาย, ใช้จ่ายไปกับการท่องเที่ยวต่างแดนด้วยตนเอง เพื่อสร้างประสบการณ์และเพื่อนใหม่ ตลอดจนเพิ่มมุมมองในการทำธุรกิจที่กว้างขึ้น
- อย่าประมาทกับความเสี่ยง ลงทุนอย่างรอบคอบ:
ผู้ที่แสวงหาความมั่งคั่งทางการเงินหลาย ๆ คน เลือกลงทุนเงินต่อเงินในกองทุนหรือหุ้นต่าง ๆ เพื่อหวังผลตอบแทนก้อนโต โดยที่บางคนเลือกฟังเสียงของตัวแทนขายหุ้นมากกว่าที่จะศึกษาให้ถ่องแท้ว่าหุ้นตัวไหนดีแค่ไหน ซึ่งมหาเศรษฐีระดับโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยเล่าว่า ตัวเขาเองแม้จะเป็นคนที่อยู่ในวงการหุ้นมายาวนานระดับกูรู แต่เขาก็จะเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่เขามองเห็นศักยภาพของธุรกิจนั้น ๆ และเขาจะไม่เสี่ยงเล่นหุ้นที่เป็นกระแสมาเร็ว ไปเร็วเด็ดขาด แต่กลับเลือกลงทุนในหุ้นที่อาจจะไม่ทำการขายอีกเลยจนกว่าจะถึงช่วง 5 ปีข้างหน้า หากเขาได้ศึกษาธุรกิจประเภทนั้นอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เขาก็พร้อมที่จะอดทนรอการคืนทุน
- สร้างวินัยในการบริหารเงินเป็นนิสัย
หนึ่งในแนวคิดของเศรษฐีระดับโลกอย่างลี กา ชิง ก็คือการแบ่งเงินออกเป็น 5 กอง เพื่อใช้จ่าย, สังสรรค์กับผู้รู้, ท่องเที่ยวต่างประเทศ, อ่านหนังสือดี ๆ และออมเป็นทุนรอนในการทำกิจการส่วนตัว โดยเขาได้แนะนำให้คนรุ่นใหม่หันมาจำกัดการใช้จ่ายเงินอย่างมีระบบเป็นนิสัย แม้วันหนึ่งข้างหน้ารายได้จะเพิ่มพูนมากขึ้น ก็ยังจำเป็นต้องรักษาสัดส่วนของเงินทั้ง 5 กองนี้ไว้เหมือนเดิม มีมากก็เก็บมาก หากทำได้เป็นนิสัย แม้แก่ตัวไปก็ไม่ลำบากแน่นอน
- ตีความหมายของ “หนี้” ให้ชัดเจน
สมมุติว่าจะซื้อรถยนต์คันใหม่สักคันหนึ่ง คนธรรมดาทั่วไปอาจดูแค่ยอดเงินดาวน์และยอดเงินผ่อนต่อเดือนว่าไหวหรือไม่ ในขณะที่คนรวยจะคิดคำนวณออกมาเป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือน, จำนวนเวลาการผ่อนชำระทั้งหมดและบวกดอกเบี้ย, ภาษีและค่าบำรุงรักษาออกมาเป็นมูลค่าของรถยนต์ 1 คัน ซึ่งจะทำให้ภาพหนี้สินชัดเจนว่าสูงกว่ามูลค่ารถขนาดไหน และนั่นคือสิ่งที่คนรวยจะคิดต่อทันทีว่าหนี้สินนี้คุ้มค่าหรือไม่ หากการซื้อรถยนต์เป็นการซื้อเพื่อไปทำงานสะดวกขึ้น อย่างนั้นคือความฟุ้งเฟ้อ แต่ถ้ารถยนต์ที่ซื้อสามารถนำไปพบลูกค้า, ขายของและส่งของได้มากขึ้น นั่นคือ หนี้เพื่อการลงทุนและน่าจะคุ้มค่าในระยะยาว ดังนั้น ก่อนที่ก่อหนี้ จึงต้องรู้คุณค่าของหนี้ก้อนนั้นให้ชัดเจนเสียก่อน
นอกจากการ บริหารเงิน ตามแบบฉบับเศรษฐีแล้ว การไม่ปล่อยให้โอกาสต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาและผ่านเลยไปอย่างไม่มีคุณค่าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะสำหรับคนรวยแล้ว หากเขาเห็นโอกาสในการทำธุรกิจหรือผูกมิตร ขยายเครือข่ายคอนเน็คชั่นกับใครก็ตาม เขาจะไม่ลังเลที่จะไขว้คว้าและฉกฉวยโอกาสนั้นไว้แน่ ๆ เช่นเดียวกัน หากวันนี้คุณสามารถเริ่มต้นสร้างสังคมที่ห้อมล้อมด้วยผู้มีความรู้หลาย ๆ ด้าน, มีความก้าวหน้าทางการงานและมีฐานะการเงินที่ดี ย่อมช่วยทำให้คุณสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนรอบข้างได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสดี ๆ ก็จะเข้ามาไม่ขาดสายเช่นกัน เมื่อคุณเปลี่ยนมุมคิด เปลี่ยนวิธีบริหารเงิน ทัศนคติที่ดีจะเริ่มเปลี่ยนคุณสู่ชีวิตที่มั่งคั่งกว่าเดิม
