กองทุนรวมเกิดจากการที่สถาบันการเงินนำเงินจากนักลงทุนรายย่อยต่าง ๆ จากนั้นจึงนำไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ทองคำ ตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือแม้แต่น้ำมัน เป็นต้น การจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ นั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนนั้น เมื่อกองทุนได้กำไรก็จะแบ่งให้กับผู้ซื้อกองทุนตามสัดส่วนของเงินที่ใช้ในการลงทุนไปนั่นเอง
สำหรับผู้ที่บริหารกองทุนจะเป็นผู้ที่เรียนจบทางด้านการเงินมาโดยตรงและมีประสบการณ์ในการลงทุนอย่างเชี่ยวชาญ กองทุนต่าง ๆ จะขายหน่วยกองทุนในราคาที่ไม่แพง เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยที่มีเงินลงทุนน้อยได้ลงทุนในสินทรัพย์ได้
อ่านเพิ่มเติม >> เชคก่อนลงทุน! หุ้นกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจในปี 2559 <<
ข้อดีของการซื้อกองทุนคือนักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนได้แม้มีงบประมาณจำกัด ต่างจากการเลือกลงทุนเองที่เงินจำนวนน้อยอาจลงทุนได้ไม่หลากหลายเท่าที่ควร อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข่าวสารหรือติดตามการลงทุนอีกด้วย นอกจากนี้กองทุนยังเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเสียภาษี เนื่องจากกองทุนอย่าง LMF และ RMF นั้นสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้
1.กองทุนหุ้น
- กองทุน ABSM บริษัทหลักทรัพย์ อเบอร์ดีน
สำหรับกองทุนหุ้นที่น่าสนใจมากที่สุด ได้แก่ กองทุนหุ้นที่มีชื่อว่า ABSM ของบริษัทหลักทรัพย์ อเบอร์ดีน สมอลแค็พ โดยจุดประสงค์หลักของการก่อตั้งกองทุนนี้ก็เพื่อลงทุนในระยะกลางและระยะยาวกับหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดีมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นทุกปี
- กองทุน BTK บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง
กองทุน BTK บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จะเน้นในการลงทุนในหุ้นสามกลุ่มธุรกิจหลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มการสื่อสารและกลุ่มบริษัทเงินทุน โดยนับเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากว่ากองทุน BTK บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงมีความสามารถในการคัดเลือกหุ้นได้น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนสูงและมีความสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่มองอนาคตของเศรษฐกิจไทยว่าอาจมีการฟื้นตัวอีกครั้ง
- กองทุน SF5 บริษัทหลักทรัพย์MFC
กองทุน SF5 บริษัทหลักทรัพย์MFC จะเน้นไปที่การลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี พร้อมทั้งคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้มากขึ้นในอนาคต โดยระยะเวลาการลงทุนจะเป็นช่วงระยะกลางจนถึงระยะยาว ส่วนเงินลงทุนที่เหลือกองทุนนี้จะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินฝากธนาคาร รวมไปถึงตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน โดยแนวทางการลงทุนของกองทุน SF5 บริษัทหลักทรัพย์MFCจะคล้ายคลึงกับกองทุน ABSM บริษัทหลักทรัพย์ อเบอร์ดีน ซึ่งบทพิสูจน์ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่ากองทุน SF5ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
-
กองทุนหุ้นปันผล
สำหรับกองทุนหุ้นปันผลที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนที่มีชื่อว่า KTSE จากบริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย จุดเด่นคือการให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยกองทุนนี้จะเลือกลงทุนในหุ้นที่เน้นการลงทุนประมาณ 30 หุ้น นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เป็นต้น
-
กองทุนในแบบ Passive Fund
กองทุนเหล่านี้เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีและสม่ำเสมอ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แพงจนเกินไป เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนโดยมั่นใจว่าจะสามารถได้รับผลตอบแทนจากกองทุนนั่นเอง
- KSET50 จากบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
กองทุนประเภทนี้จะเน้นการลงทุนแบบตั้งรับและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้เหมือนกับผลตอบแทนของหุ้นใน SET50 ข้อดีของกองทุนนี้คือ นักลงทุนรายย่อยจะได้กระจายความเสี่ยง เนื่องจากว่าภายใน SET50 มีหุ้นหลายกลุ่มธุรกิจด้วยกัน
- TMBSET50 จากบริษัทหลักทรัพย์ทหารไทย
ข้อดีของกองทุนนี้คือมีราคาซื้อขั้นต่ำถูกกว่ากองทุนอื่น ๆ โดยนักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อได้ในราคา 1,000 บาทเท่านั้น
4.กองทุน LTF
ABLTF จากบริษัทหลักทรัพย์ อเบอร์ดีน
ABLTF จากบริษัทหลักทรัพย์ อเบอร์ดีน จะเน้นไปที่การลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต โดยระยะเวลาในการลงทุนจะค่อนข้างนานกว่ากองทุนอื่น ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของกองทุนนี้ก็จัดว่าให้ผลตอบแทนดีและน่าซื้ออย่างยิ่งในปีหน้า
- BLTF จากบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง
BLTF จากบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวงจะเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพดีเยี่ยม ส่วนเงินทุนที่เหลือนั้นจะนำไปลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนที่ตนลงทุนไปจะได้รับผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม
- KFLTFDIV จากบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี
กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล KFLTFDIV เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนดีและน่าสนใจอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานประจำและต้องการลดหย่อนภาษี พร้อมทั้งได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอีกด้วย
-
กองทุน RMF
กองทุน RMF จัดได้ว่าเป็นกองทุนอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าในอนาคตสำหรับผู้ลงทุนที่ถึงวัยเกษียณจะมีเงินก้อนเพื่อการใช้จ่าย อีกทั้งยังเปรียบได้กับการเสริมสร้างนิสัยการออมเงินของตนให้มีความสม่ำเสมอ และได้ลดหย่อนภาษี เหมาะกับผู้ที่ทำงานประจำและต้องเสียภาษีในจำนวนเงินที่มาก
- กองทุนBERMF จากบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง
กองทุนนี้จะเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี พร้อมกันนั้นก็ยังนำเงินที่เหลือไปลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ โดยผลตอบแทนที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ได้ดีว่ากองทุนกองทุนBERMF จากบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงน่าสนใจเพียงใด
- กองทุน ABSC-RMF จากบริษัทหลักทรัพย์อเบอร์ดีน
กองทุนเปิด อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ จะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี และจะกระจายการลงทุนอย่างทั่วถึงอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อเป็นเงินออมการเกษียณและใช้ลดหย่อนภาษีได้
กองทุนที่กล่าวมาข้างต้น เป็น กองทุนรวมน่าลงทุน ปี 2559 มีความน่าสนใจและน่าเข้าสะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในปี 2559 อีกทั้งยังมีผลงานที่ดีในปีที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่มีเงินออม หรือต้องการลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่ดี การเลือกลงทุนในกองทุนที่กล่าวมาข้างต้นนี้ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด