สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ เรามีบทความดีดี ความสุข ที่คุณก็สร้างได้ มาให้อ่านกันอีกเช่นเคยค่ะ ใครหลายคนที่กำลังเคร่งเครียดเรื่องการงาน การเรียน หรือการเงินอยู่ล่ะก็ มาพักสมองกันก่อนสักนิดค่ะ ร่างกายจะได้สดใส เห็นหลายคนเศร้าๆ มีเรื่องต้องให้ทุกข์ใจมากมาย วันนี้เราก็เลยจะมาพูดถึงวิธีการสร้างความสุขกันบ้างดีกว่าค่ะ
ความสุขไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ล้วนทำให้คนเรานั้นมีพลังงานที่ดีได้ ดีทั้งร่างกาย ดีทั้งในเรื่องของจิตใจ เจ้าความสุขจึงเป็นสิ่งที่คนทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการปรารถนาและสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อต้องการที่จะมีความสุข แล้วเราสามารถสร้างความสุขให้กับตัวเองได้อย่างไรล่ะ?
ในแต่ละวัน คนเราล้วนต้องเผชิญกับเรื่องต่างๆ สถานการณ์ต่างๆรอบตัวมากมายเต็มไปหมด มีเรื่องให้ครุ่นคิด มีเรื่องให้จัดการไม่เว้นแต่ละวัน ปัญหาร้อยแปดพันประการที่ขัดขวางและเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต ถ้ามันมากระทบกับเรามากๆ ในหลายๆเรื่อง ก็จะทำให้เราเกิดอาการหงุดหงิด ก่อให้เกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพในภายภาคหน้า เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะมาสร้างความสุข เราก็ต้องมาสำรวจตัวเองก่อนว่า ในแต่ละวัน เราต้องมีภารกิจอะไรบ้างที่ต้องทำ เช่น วันธรรมดา ตื่นเช้าไปทำงาน/ไปเรียน ตอนเย็นกลับบ้านพักผ่อน หรือวันหยุดอยู่บ้านทำงานบ้าน/ทำงานอดิเรก/ทำกิจกรรมนอกบ้าน เป็นต้น ซึ่งนี่ก็เป็นวงเวียนชีวิตของคนส่วนใหญ่ทั่วๆไป เมื่อสำรวจตัวเองออกมาคร่าวๆ เราก็จะรู้ว่า เรากำลังทำอะไรและเราต้องเจออะไรในแต่ละวัน ซึ่งจะทำให้เราคาดเดาสถานการณ์หรือปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละวันได้ เช่น การทำงานร่วมกับคนอื่น ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง,ปัญหาการเข้าสังคมไม่ได้ ,การไปเรียน/ไปทำงานไม่ทัน,อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆระหว่างเดินทาง และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย เมื่อเราสามารถมองเห็นปัญหาอย่างคร่าวๆดังนี้แล้ว ทีนี้เราก็มาเข้าสู่ขั้นตอนของการขจัดกับปัญหาความทุกข์เหล่านั้น เพื่อที่จะนำไปสู่การสร้างความสุขกัน
ผู้เขียนขอนำเอาหลักธรรม ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ไว้ว่าเป็นหลักความจริงอันประเสริฐ หรือที่เรียกว่า หลักอริยสัจ 4 ซึ่งมี4 ประการนั่นเอง
- ทุกข์
ความทุกข์คือความไม่สบายกายไม่สบายใจ เป็นความยากลำบากอย่างหนึ่ง หรือที่เรียกว่า อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถทนอยู่ได้ ใครที่กำลังเป็นทุกข์ จะรู้สึกว่าตนเองนั้น กำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจ เครียด วิตกกังวล เกรงกลัว หรือเจ็บปวด ทั้งเจ็บป่วยทางจิตใจและกายอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน เรียกว่าเป็นทุกข์
- สมุทัย
คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อคนเรารู้ว่าตัวเองกำลังเป็นทุกข์ น้อยคนมากที่จะถามตัวเองว่าทำไม ? หรือมันเกิดจากอะไร ? ทำไมจึงต้องเป็นเช่นนี้ ? เพราะเมื่อทุกข์แล้ว บางคนก็ได้แต่โทษคนอื่นหรือสิ่งอื่นด้วยอารมณ์ จนลืมคิดพิจารณาให้รอบด้านด้วยหลักของเหตุผล การที่เราจะรู้ได้ว่า ทุกข์ที่เรากำลังประสบพบเจออยู่นั้น เกิดจากสาเหตุอะไร เราต้องอาศัยปัญญาเข้ามาช่วย ปัญญา ณ ที่นี้ ก็คือ เหตุผลนั่นเอง
- นิโรธ
คือ การดับความทุกข์ หลายคนคงไม่เข้าใจว่า การดับทุกข์คืออะไร เพราะถ้าอธิบายในแง่ของหลักศาสนา อาจจะดูเข้าใจยาก แต่อยากให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ การไม่ทำให้ตนเองเป็นทุกข์ต่อไปนั่นเอง เช่น ถ้าเราต้องเป็นทุกข์เพราะมีคนมาทำร้ายร่างกายและจิตใจให้เราต้องเจ็บปวด การดับทุกข์ก็คือการเยียวยารักษาแผล หรือการปล่อยวางให้ใจเรานิ่งสงบนั่นเอง การให้อภัยก็เป็นอีกหนึ่งทางที่จะทำให้ใจเราเป็นทุกข์น้อยลง เพราะการให้อภัยก็เป็นการปล่อยให้เรื่องไม่ดีเหล่านั้นมันผ่านออกไปโดยไม่ต้องไปตามแก้แค้นหรือทวงคืน เข้าใจในความเป็นไปว่า สัตว์โลกเมื่อเกิดมาย่อมมีกรรมเป็นของตนเองทั้งนั้น ซึ่งตัวกรรมหรือการกระทำของเราจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเราเองทั้งสิ้น เหมือนดังคำพูดที่ว่า ทำกรรมเช่นไรไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้นตอบแทน ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว นั่นเอง
- มรรค
คือ หนทางแห่งการดับทุกข์ หรือการปฏิบัติเพื่อทำให้ความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้น หายไปนั่นเอง ซึ่งหนทางก็คือ วิธีการ หรือที่เรียกว่า How to (ทำอย่างไร ?) เช่น ถ้าเรากำลังเศร้าเสียใจ เราจะทำอย่างไรให้หายเศร้า เป็นเรื่องที่เราต้องคิดต่อว่า เราจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้นอย่างไรนั่นเอง อย่างเช่น ถ้าเรากำลังเศร้า เราอาจจะหากิจกรรมอย่างอื่นเข้ามาผ่อนคลายตัวเอง เช่น การฟังเพลง การร้องเพลง การทำบุญ ทำจิตใจให้สงบ การนั่งสมาธิ เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวีการจัดการกับความทุกข์เหล่านั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริบทและปัญหาที่เผชิญ
แล้วหลักอริยสัจ 4 เกี่ยวข้องอย่างไร กับการสร้างความสุขล่ะ
คำตอบง่ายๆก็คือ มันเป็นวิธีการจัดการกับปัญหาความทุกข์เพื่อที่จะทำให้เราพบเจอกับความสุขอย่างไรล่ะ และมันสามารถทำได้ผลจริงซะด้วย เมื่อเรารู้ว่า เรากำลังรู้สึกอย่างไร กำลังเผชิญกับปัญหาอะไร แน่นอนว่าถ้ายึดหลักของอริยสัจ 4 ก็จะทำให้เรานั้นสืบสาวไปยังต้นเหตุของปัญหา อะไรที่ทำให้มันเกิดขึ้น และเมื่อเกิดมาแล้วพอจะมีวิธีไหนบ้างที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ แล้วมันจะทำได้อย่างไร ? เป็นขั้นตอนและกระบวนการที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาแบบถอนรากถอนโคนได้อย่างแท้จริง ทั้งยังทำให้เรารู้จักใช้สติและปัญญา ในการตัดสินใจอีกด้วย เมื่อเราหาทางออกได้แล้ว เราก็จะสามารถเห็นหนทางของความสุขได้ไม่ไกล ซึ่งบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถของเรา เพียงแค่เราต้องมองเห็นมันอย่างละเอียด ลึกซึ้งและตรงไปตรงมาที่สุด การเข้าข้างตัวเอง ลำเอียง การมีอคติต่างๆนานาๆ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และบางครั้งอาจจะเป็นการสร้างปัญหาหรือความทุกข์ให้มันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับตัวเราเราจึงจำเป็นที่จะต้องมองให้เห็นถึงปัญหาเสียก่อน เพื่อที่จะเราจะได้เห็นหนทางในการแก้ไขในลำดับต่อไป