เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนยึดทรัพย์ หักเงินเดือน?
หนี้สินท่วมหัว จ่ายไม่ไหว จะโดนฟ้องยึดทรัพย์ไหม? แล้วต้อง เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนยึดทรัพย์ และถูกหักเงินเดือน? นี่คือคำถามที่คนมีหนี้ทุกคนต้องรู้ เพราะหากถูกฟ้อง หรือถูกบังคับคดีไม่ใช่เรื่องไกลตัวหากมีการผิดนัดชำระหนี้หลายงวดเกินที่ธนาคาร/สถาบันทางการเงินกำหนด หรือเลือกจะนิ่งเฉยกับหมายศาลที่ส่งมา บทความนี้จะสรุปให้ครบว่าเป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนยึดทรัพย์ หรือโดนหักเงินเดือน พร้อมแนวทางรับมือเบื้องต้น
ไม่จ่ายหนี้ = ถูกฟ้อง
เมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อ หรือหนี้เงินกู้ส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหนี้ก็มีสิทธิฟ้องร้องทางกฎหมาย
ขั้นตอนจะเป็นดังนี้:
- เจ้าหนี้ส่งจดหมายทวงหนี้/แจ้งเตือน
- หากยังไม่จ่าย จะทำการฟ้องศาลในลำดับถัดไป
- หากศาลมีคำพิพากษาให้ชำระ ต้องชำระภายใน 30 วัน
- ถ้ายังไม่จ่าย เจ้าหนี้สามารถยื่นเรื่อง บังคับคดี ต่อ
- นำไปสู่การอายัดเงินเดือน
- และอาจไปถึงการยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด
เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนยึดทรัพย์?
ถ้าศาลมีคำสั่ง และลูกหนี้ไม่จ่าย เจ้าหนี้สามารถยื่นขอยึดทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพียงพอเพื่อชำระหนี้ เช่น
- บ้าน / ที่ดิน
- รถยนต์
- ทองคำ เครื่องประดับ
- ของมีค่าอื่น ๆ (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพง)
หมายเหตุ: ทรัพย์บางประเภทห้ามยึด เช่น เครื่องมือทำมาหากิน (เช่น รถจักรยานยนต์ที่ใช้รับส่งอาหาร หากมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาท) และเครื่องใช้จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน
เป็นหนี้เท่าไหร่ ถึงโดนหักเงินเดือน?
จริง ๆ แล้ว ยอดหนี้ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าจะโดนยึดทรัพย์ หรือหักเงินเดือนมั้ย แต่ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหนี้ทำการฟ้อง และชนะคดีแล้วหรือยัง หากศาลมีคำสั่งให้ชำระหนี้ แล้วลูกหนี้ไม่ชำระคืน หรือดำเนินการใด ๆ ตามที่ตกลงกันไว้ เจ้าหนี้สามารถยื่นอายัดเงินเดือนกับกรมบังคับคดีได้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
- รายได้ไม่เกิน 20,000 บาท – หักไม่ได้
- รายได้เกิน 20,000 บาท – หักได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของส่วนเกิน 20,000 บาท
- เงินโบนัส / รายได้พิเศษ – หักได้สูงสุด 50% (แล้วแต่กรณี)
ตัวอย่าง: เงินเดือน 30,000 บาท จะถูกหักสูงสุด 3,000 บาท (30% ของ 10,000 บาทที่เกินจาก 20,000)
โดนอายัดเงินเดือนอาจติดตัวนานกว่าที่คิด
หากเข้าสู่กระบวนการที่เจ้าหนี้ยื่นขออายัดเงินเดือนแล้ว การอายัดเงินเดือนจะมีผลต่อเนื่องทุกเดือนจนกว่าจะชำระหนี้ครบทุกบาททุกสตางค์ ยิ่งในกรณีมีเจ้าหนี้หลายราย จะต้องมีการแบ่งเงินอายัดกัน ซึ่งรายใหม่ต้องรอคิวการหัก โดยอายุความบังคับคดีสูงสุด 10 ปี ที่สามารถต่อได้อีก หากไม่รีบเคลียร์ก็จะมีผลติดตามไปเรื่อย ๆ แม้เปลี่ยนที่ทำงาน
วิธีป้องกันไม่ให้โดนยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน
- อย่าเพิกเฉยต่อหมายศาล: ไปศาลเพื่อเจรจาหาทางออก หรือขอผ่อนชำระเท่าที่ไหว
- ปรึกษาเจ้าหนี้โดยตรง: ขอประนอมหนี้ก่อนถูกฟ้อง
- รีไฟแนนซ์/รวมหนี้: ยืดระยะชำระ ลดดอกเบี้ย และลดภาระการจ่ายหนี้รายเดือน
- ยื่นคำร้องต่อศาล: หากโดนอายัดแล้ว และมีภาระค่าใช้จ่ายสูง อาจยื่นขอลดอัตราอายัดได้
สรุปแล้วจำนวนหนี้ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะโดนยึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน กล่าวคือไม่ว่าจะมียอดหนี้เท่าไหร่ก็ตาม หากปล่อยไว้ ละเลย ตั้งใจไม่ชำระคืน จนถูกฟ้องดำเนินคดี แล้วเจ้าหนี้ชนะคดี ก็ยังไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการที่เจ้าหนี้ยื่นขอยึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือนเราได้ จนกว่าจะปิดยอดหนี้ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่ากินเวลาหลายทีอย่างแน่นอน ดังนั้นหากเริ่มมีสัญญาณว่าผ่อนจ่ายหนี้ที่มีไม่ไหว อย่าปล่อยทิ้งไว้ หรือผิดชำระจนกลายเป็นหนี้เสีย ควรเจรจากับเจ้าหนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อหาทางออกร่วมกัน รวมถึงเลี่ยงการติดเครดิตบูโร และสูญเสียทรัพย์สินของตน