ซื้อบ้านหลังแรก กู้ได้เท่าไหร่ มีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง
การซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตนับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ แต่ก็เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ใหญ่หลวง เราจึงต้องมีการวางแผนทางการเงินเพื่อหาเงินดาวน์และเตรียมตัวขอสินเชื่อบ้านด้วย ซึ่งหนึ่งในคำถามสำคัญคือ ซื้อบ้านหลังแรก กู้ได้เท่าไหร่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อบ้าน ในบทความนี้เรามีคำตอบ พร้อมแนะนำข้อควรพิจารณาเมื่อขอสินเชื่อบ้าน
ไขข้อข้องใจ ซื้อบ้านหลังแรก กู้ได้เท่าไหร่
วงเงินสินเชื่อที่ได้รับขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ทั่วไปแล้วธนาคารจะอนุมัติให้กู้ในวงเงินประมาณ 80-90% ของราคาบ้าน นั่นหมายความว่าเราจะต้องมีเงินสำหรับจ่ายดาวน์อีก 10-20% ของราคาบ้านนั้น
ตัวอย่าง: หากราคาบ้านที่ต้องการซื้ออยู่ที่ 3 ล้านบาท ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้กู้ได้ประมาณ 2.4 – 2.7 ล้านบาท ดังนั้น เราจะต้องมีเงินดาวน์อีก 0.3 – 0.6 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังต้องมีเงินสำรองไว้สำหรับค่าธรรมเนียมต่างๆ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านด้วย
ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อบ้านที่ได้รับขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่
- รายได้และหนี้สิน โดยทั่วไปธนาคารจะพิจารณาอนุมัติวงเงินให้กู้ในสัดส่วนประมาณ 30-35% ของรายได้สุทธิ หลังหักค่าใช้จ่ายประจำและหนี้สินต่างๆ แล้ว
- ประเภทของสินเชื่อ บ้านใหม่หรือมือสอง โดยบ้านใหม่จากโครงการอาจได้รับสินเชื่อในสัดส่วนที่มากกว่าบ้านมือสอง
- ระยะเวลาผ่อนชำระ ยิ่งระยะเวลาการผ่อนนาน วงเงินที่ได้รับก็จะมากขึ้นตาม โดยปกติระยะเวลาผ่อนสูงสุดประมาณ 35 ปี
- อายุของผู้กู้ บุคคลที่มีอายุน้อยอาจได้รับวงเงินกู้มากกว่า เนื่องจากมีโอกาสผ่อนชำระคืนยาวนานได้มากกว่า
- คุณสมบัติของบ้าน บ้านที่มีราคา สภาพ ทำเลที่ตั้ง และความเสี่ยงต่ำ จะส่งผลให้ได้รับวงเงินสูงกว่า
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น ประวัติเครดิตที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึงนโยบายของแต่ละธนาคาร ล้วนมีผลต่อวงเงินสินเชื่อที่จะได้รับทั้งสิ้น
ขั้นตอนในการขอสินเชื่อซื้อบ้านหลังแรก
1.เตรียมเอกสารให้พร้อม ประกอบด้วย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสมุดบัญชี สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- เอกสารรายละเอียดของบ้านที่ต้องการซื้อ เช่น โฉนดที่ดิน แบบแปลนบ้าน สัญญาจะซื้อจะขาย
- หนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองการทำงาน ใบแสดงภาระหนี้สิน ฯลฯ
2.เลือกธนาคารที่ต้องการกู้
ตรวจสอบรายละเอียดสัญญาและเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ เช่น วงเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ เบี้ยปรับกรณีผิดนัด ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้นหากตกลงที่จะขอสินเชื่อติดต่อเจ้าหน้าที่และนัดหมายเพื่อยื่นขอสินเชื่อ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนย่อยต่างๆ ดังนี้
- แจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อ โดยชี้แจงรายละเอียดของบ้านที่ต้องการซื้อ
- กรอกแบบคำขอสินเชื่อ พร้อมแนบเอกสารประกอบ
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสาร คำนวณวงเงินกู้ และความสามารถชำระหนี้
- รอการอนุมัติสินเชื่อ หากอนุมัติ จึงรอทำนิติกรรมสัญญา และรับวงเงินกู้
- เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนการทำสัญญากู้ยืมกับธนาคาร
ข้อควรพิจารณาเมื่อจะขอสินเชื่อบ้าน
นอกจากขั้นตอนหลักเหล่านี้แล้ว ยังมีข้อควรพิจารณาสำคัญๆ สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรก ดังต่อไปนี้
- ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้
วิเคราะห์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจกู้ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถผ่อนค่างวดได้โดยไม่กระทบการใช้ชีวิต หลักง่ายๆ คือค่างวดไม่ควรเกิน 30-35% ของรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายประจำและหนี้สินอื่นๆ แล้ว รวมถึงพิจารณาความเสี่ยงจากการว่างงานหรือรายได้ไม่แน่นอนในอนาคต เพื่อไม่ก่อหนี้เกินตัว
- อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระ
อัตราดอกเบี้ยยิ่งต่ำ ยิ่งประหยัดดอกเบี้ยไปได้มาก แต่ต้องชั่งน้ำหนักกับเงื่อนไขอื่นๆ ด้วย ระยะเวลาผ่อนยาวนาน เช่น 30-35 ปี จะทำให้ค่างวดน้อยลง แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น เราจึงควรเลือกระยะเวลาผ่อนที่พอเหมาะกับรายได้และวางแผนชีวิตระยะยาว
- ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากราคาบ้าน เช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าจดจำนอง, ค่าประกันสินเชื่อ เป็นต้น บางธนาคารมีค่าธรรมเนียมการกู้ ค่าสำรวจทรัพย์สิน เป็นต้น เราต้องคำนวณตัวเลขเหล่านี้ให้รวมอยู่ในงบประมาณ เพื่อเตรียมเงินให้เพียงพอ
- ความเสี่ยงของดอกเบี้ยลอยตัว
ควรพิจารณาเลือกสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่มากกว่าลอยตัว เพื่อลดความเสี่ยงดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นในอนาคต แต่ถ้าเลือกแบบลอยตัวก็ต้องมีแผนรองรับดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้น เช่น หารายได้เสริมหรือลดค่าใช้จ่าย
- นโยบายสินเชื่อของธนาคาร
เปรียบเทียบนโยบายสินเชื่อบ้านของธนาคารต่างๆ ให้ละเอียด ทั้งด้านวงเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขต่างๆ บางธนาคารอาจมีสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น จ่ายดอกเบี้ยเพียงครึ่งเดียวในปีแรก หรือสิทธิการผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี
- เงินดาวน์และเงินสำรองฉุกเฉิน
เตรียมเงินดาวน์ตามที่กฎหมายกำหนด โดยปกติคือ 10-20% ของราคาบ้าน ให้สำรองเงินสดว่างไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ซ่อมแซมบ้าน เจ็บป่วย หรือว่างงานชั่วคราว ยิ่งมีเงินดาวน์มากจะส่งผลให้สามารถกู้วงเงินมากขึ้น และดอกเบี้ยที่จ่ายต่ำลง
การซื้อบ้านหลังแรกเป็นก้าวสำคัญของชีวิต เราจึงต้องรู้ก่อนขอสินเชื่อว่าซื้อบ้านหลังแรก กู้ได้เท่าไหร่ ธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยยังไง คิดยังไง เราต้องผ่อนชำระงวดละเท่าไร หากวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งด้านการเงิน สภาพคล่อง และรายได้ที่มั่นคง จะช่วยให้การก่อหนี้ซื้อบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่กลายเป็นภาระหนักเกินไป สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านหลังใหม่ได้จริง