คืนภาษี 2566 ยื่นภาษีไปแล้วจะได้เงินคืนเมื่อไร เช็กอย่างไร ?
ช่วงต้นปีถือเป็นช่วงเวลาในการยื่นภาษีประจำปี โดยหลายคนหลังจากยื่นภาษีไปแล้วก็ได้ทำการขอคืนภาษีไปด้วย ซึ่งแต่ละคนก็จะได้เงินคืนไม่พร้อมกัน เราจะได้ยินว่าบางท่านได้เงินคืนในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังยื่นขอคืนภาษีไป ขณะที่บางท่านใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะได้รับเงินคืน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขอ “คืนภาษี 2566” พร้อมวิธีเช็กกันว่าเราจะได้เงินภาษีเมื่อไร ตามไปดูกันเลย
ขอคืนภาษี 2566 คืออะไร ?
การขอคืนภาษี คือ สิทธิที่เราสามารถขอคืนเงินจากการถูก “หักภาษี ณ ที่จ่าย” ไประหว่างการทำงานในปีก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าค่าภาษี ที่เรามีหน้าที่ต้องจ่ายจริงเมื่อทำการคำนวณภาษีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสรรพากรก็จะพิจารณาตามเงื่อนไขและหลักฐานทางการเงินที่ยื่นไป
เอกสารที่ใช้ขอคืนภาษี 2566
โดยทั่วไปหากยื่นภาษีแล้วสรรพากรจะทำการตรวจสอบเอกสารที่แนบมากับการยื่นภาษี หากไม่มีข้อสงสัยกรมสรรพากรจะอนุมัติเงินคืนภาษีให้ทันที แต่หากมีข้อสงสัย เจ้าหน้าที่จะขอให้ส่งเอกสารประกอบเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาตามเงื่อนไข ก่อนจะอนุมัติเงินคืนภาษี โดยจะได้รับเงินภาษีผ่านช่องทาง พร้อมเพย์, บัญชีธนาคารกรุงไทยหรือ แอปเป๋าตัง
ขั้นตอนการขอคืนภาษี 2566
เราสามารถทำการขอคืนภาษีได้พร้อมกับการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สรรพากร e-filing (https://efiling.rd.go.th/rd-cms/) ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์ เลือกยื่นภาษี ภ.ง.ด.90 / ภ.ง.ด.91 ตามรูปแบบเงินได้
- กรอกรายละเอียดที่มาของรายได้และจำนวนรายได้ตามช่องที่ต้องกรอก
- ขั้นตอนสุดท้ายของการยื่นภาษี จะมีการคำนวณยอดภาษีและยอดที่ขอคืนได้ในช่องของ “ยอดภาษีสุทธิชำระไว้เกิน”
- คลิก “ต้องการขอภาษีคืน” ซึ่งทางเว็บไซต์จะแจ้งผลไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้
- คลิก “ถัดไป” หน้าเว็บไซต์จะแสดงผลการยื่นแบบภาษีสำเร็จ
ขั้นตอนและช่องทางการติดตามการขอคืนภาษี 2566
- เข้าสู่ระบบในเว็บไซต์สรรพากร กรอกเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านสำหรับเข้า e-filing หรือยืนยันตัวตนผ่าน NDID ThaID หรือ แอปเป๋าตัง หากยืนยันตัวตนสำเร็จ ระบบจะแสดงข้อมูลการยื่นภาษีของเรา
- หากเราได้ทำการยื่นแบบภาษีไปแล้ว คลิกที่ “ติดตามสถานะขอคืน” ระบบจะแสดงสถานะการขอคืนภาษีของเราว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนใด ซึ่งมี 5 สถานะ ดังนี้
- ยื่นแบบภาษี คือ สถานะที่แสดงว่าเราได้ทำการยื่นแบบภาษีไปแล้ว
- นำส่งข้อมูล คือ สถานะการขอคืนภาษี กำลังถูกส่งไปให้ระบบของสรรพากรตรวจสอบ
- พิจารณาคืนภาษี คือ สถานะการขอคืนภาษีกำลังถูกพิจารณา ในสถานะนี้เจ้าหน้าที่อาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาตามเงื่อนไขได้
- ส่งคืนภาษี คือ สถานะที่แสดงว่าข้อมูลแบบภาษีของเราผ่านการพิจารณาและกำลังจะได้รับเงินคืนภาษี
- ได้รับคืนภาษี คือ สถานะที่แสดงว่าได้คืนเงินภาษีให้กับเราแล้ว
3. ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบว่าเงินคืนภาษีเข้ามาหรือยัง หรือตรวจสอบบัญชีที่ผูกเพื่อขอคืนภาษี สามารถเช็คได้ โดยคลิกที่ “สอบถามชื่อธนาคารที่นำเงินคืนภาษีเข้าบัญชีพร้อมเพย์”
ช่องทางในการติดตามการขอคืนภาษี 2566
ในกรณีนี้ขอคืนภาษีแล้วยังไม่ได้เงินคืน สามารถตรวจสอบและติดตามได้ผ่าน 4 ช่องทางหลัก ดังนี้
1.เว็บไซต์ของกรมสรรพากร
เข้าไปที่ “ตรวจสอบข้อมูลทางภาษี (e-Refund)” และกรอกรายละเอียดตามที่กำหนด จากนั้นคลิก “สอบถาม” ทางเว็บไซต์จะแจ้งผลการตรวจสอบให้เราทราบ
2.Call Center ของสรรพากร
สำหรับใครที่ไม่สะดวกตรวจสอบผ่านเว็บไซต์หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอคืนภาษี สามารถโทร 1161 เพื่อติดต่อพูดคุยกับ Call Center ของสรรพากร จากนั้นทำการแจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อรับการตรวจสอบ
3.ข้อความ จากกรมรรพากร
สำหรับใครที่ไม่สะดวกตรวจสอบผ่านเว็บไซต์หรือโทรศัพท์ สามารถตรวจสอบสถานะการขอเงินคืนได้ผ่าน ข้อความ (SMS) จากสรรพากรทางหมายเลขโทรศัพทืที่ลงทะเบียนไว้
4.สำนักงานสรรพากรในพื้นที่
สำหรับใครที่ยื่นภาษีด้วยการส่งเอกสารกับสำนักงานสรรพากรในพื้นที่ และต้องการติดตามสถานะขอคืนเงินภาษี ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะได้ที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ตามภูมิลำเนาที่เรายื่นภาษีได้เลย
ในกรณีที่เตรียม และนำส่งเอกสารถูกต้องครบถ้วน โดยทั่วไปแล้วระบบสรรพากรจะส่งเงินขอภาษีคืนภายใน 3 – 5 วันสำหรับผู้ที่ผูกกับบัญชีพร้อมเพย์ หรือแอปเป๋าตัง หากไม่ได้ผูกบัญชีกับแอปทั้งสอง ปกติจะใช้เวลารอรับเงินประมาณ 15 วัน โดยจะมีหนังสือแจ้งเตือนคืนภาษีเป็นเช็คส่งมาทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่ที่เรากรอกไว้ในระบบ ซึ่งสามารถนำเช็คไปรับเงินคืนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
อย่างไรก็ตามทาง MoneyHub แนะนำว่าให้ผูกกับบัญชีพร้อมเพย์ไว้จะดีกว่า เพราะจะได้เงินรวดเร็วกว่าและไม่ต้องเสียเวลานำเช็คไปขึ้นเงินเองด้วย