จ่ายหนี้ไม่ไหว ทำอย่างไรดี ทางออกคนเป็นหนี้มีแบบไหนบ้าง
ใครที่เคยเป็นหนี้ คงเข้าใจดีว่า การเป็นหนี้ สร้างความเครียด และรู้สึกท้อแท้แค่ไหนกับการเป็นหนี้ เชื่อว่า หลายคนกำลังเจอกับปัญหาของการเป็นหนี้เกินตัว จ่ายหนี้ไม่ไหว และเกินกำลังที่จะแก้หนี้ มองหาทางออก ไม่เจอ ดังนั้น เราอยากแบ่งปันแนวทางของการจัดการปัญหาหนี้ในระบบให้หมดไป หรือต้องดีขึ้นกว่าเดิม วันนี้ เรามีทางออกให้คนเป็นหนี้ จ่ายหนี้ไม่ไหว ทำอย่างไรดี ทางออกคนเป็นหนี้มีแบบไหนบ้าง
ส่องสัญญาณ เริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหวจริงไหม
สำหรับใครที่กำลังไม่มั่นใจว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ทางการเงินที่ย่ำแย่ เป็นหนี้ เริ่มจ่ายหนี้ ไม่ไหว เพื่อจะได้มองหาทางออกในการแก้ปัญหาหนี้ ลองสำรวจ 3 สถานการณ์ทางการเงิน ดังต่อไปนี้
- จ่ายยอดหนี้ขั้นต่ำ
หากเริ่มเข้าสู่สถานการณ์จ่ายหนี้ขั้นต่ำเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็เข้าสู่การเป็นหนี้ เริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว เพราะการ จ่ายหนี้ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด นั่นย่อมแสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ไม่ไหว หรือเริ่มมีปัญหาทางการเงิน เท่ากับว่าการเงินเริ่มไม่คล่องตัว ทำให้ไม่มีเงินเหลือจ่ายหนี้ หรือสามารถจ่าย หนี้ได้แค่ขั้นต่ำเท่านั้น
- จ่ายหนี้ล่าช้าแบบเดือนชนเดือน
อยากบอกทุกคนว่า เมื่อเป็นหนี้ นั่นคือต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายคืนอาจรวมทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยตามมา ดังนั้น หากเริ่มจ่ายหนี้ไม่ตรงเวลา จ่ายหนี้ล่าช้า เริ่มจากเดือนชนเดือน จนถึงเลยเดือนอาจไม่จ่ายในบาง เดือน แสดงว่าเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว จากล่าช้า เงินเดือนไม่เหลือเก็บ ขาดสภาพคล่องจนถึงขั้นร้ายแรงที่สุด คือ การผิดนัดชำระหนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
- เริ่มนำทรัพย์สินออกขายเพื่อใช้หนี้
ต้องบอกว่าหากตกอยู่ในสถานการณ์ข้อนี้ ต้องบอกเลยว่า เป็นวิธีสุดท้ายของคนเป็นหนี้ เริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว การเริ่มมองหาทรัพย์สินส่วนตัวที่มีค่า และครอบครองอยู่นำมาออกขายใช้หนี้ เชื่อว่า อาจเป็นของรัก ของ สะสม และของมีค่ามีราคา ต้องจำใจในการนำทรัพย์สินที่มีค่าเหล่านี้ออกขาย เพื่อนำเงินที่ได้มาจ่ายหนี้ แสดงว่ากำลังมีปัญหาทางการเงิน มีเงินไม่เพียงพอในการจ่ายหนี้นั่นเอง
จ่ายหนี้ไม่ไหว ทำอย่างไรดี ?
- ติดต่อธนาคารเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ทางออกที่ดีที่สุดของการเป็นหนี้ คือการมองหาวิธีชำระหนี้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของ ตัวเองในปัจจุบัน และนั่นก็คือ การเข้าไปขอคำแนะนำ หรือขอคำปรึกษากับทางธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อ เจรจาประนอมหนี้ มองหาวิธีที่เหมาะสมที่สุด และหนึ่งวิธีทางออกที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหาหนี้ นั่นก็คือ การปรับโครงสร้างหนี้
การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาใหม่ให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระ หนี้คืนได้โดยไม่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ย เปลี่ยนประเภทหนี้ เป็นต้น
- การรวมหนี้จากหลายที่เป็นหนี้ก้อนเดียว
สำหรับวิธีนี้ คือ การรวมหนี้ที่มีอยู่หลายที่มาเป็นหนี้ก้อนเดียว เพราะการรวมหนี้เป็นหนี้ก้อนเดียว จะช่วย ให้สามารถชำระหนี้ได้ง่ายขึ้นตามความสามารถทางการเงิน วิธีการคือ การรวมหนี้ทั้งหมดที่มีหลายที่ ว่า มีหนี้อะไรบ้าง มีอัตราดอกเบี้ยต่อปีเท่าไหร่ มียอดหนี้ที่เหลืออยู่เท่าไหร่ เพื่อรวมเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก้อนเดียว โดยขอสินเชื่อ หรือรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดียว เพื่อให้สามารถชำระหนี้คืน หรือจ่ายหนี้ได้ต่อไป เช่น การ ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนตามระยะเวลากำหนด เป็นต้น
- มีเงินก้อนเพื่อโปะหนี้ให้หมดเร็วที่สุด
หากมีเงินก้อน หรือวางแผนแบ่งเงินเดือนเพื่อทยอยโปะหนี้ให้ได้ในทุกเดือน หรือให้สามารถจ่ายหนี้ได้มาก กว่าขั้นต่ำ หรือจ่ายหนี้เพิ่มขึ้นได้มากกว่าค่างวดหนี้ที่ต้องจ่าย และให้ตรงเวลากำหนด หรือหากมีเงินก้อน โปะหนี้ได้มากขึ้นทุกงวด วิธีนี้จะช่วยให้เงินต้นลดลง และเสียดอกเบี้ยน้อยลงอีกด้วย ดังนั้น การเก็บเงินเพื่อ ให้มีเงินก้อนจ่ายหนี้ได้มากขึ้น หนี้ก็จะหมดเร็วยิ่งขึ้นไปด้วยนั่นเอง
- ไม่สร้างหนี้ใหม่ ใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น
ข้อนี้ก็สำคัญเช่นกัน เมื่อมองหาวิธีจัดการหนี้ได้อย่างเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้คืนได้แล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้ข้อใดเลย นั่นก็คือ การปรับพฤติกรรมทางการเงินใหม่ ไม่สร้างหนี้ขึ้นใหม่ และใช้จ่ายเงินใน เรื่องจำเป็นมากขึ้น หรือลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด และเก็บออมเงินเพื่อให้มีเงินเหลือ ใช้หนี้ หรือมีเงินก้อนโปะหนี้มากขึ้น ให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากต้องเป็นหนี้ ใหม่ ควรเกิดจากการรวมหนี้กับธนาคารเดียวเพื่อนำเงินก้อนมาใช้หนี้ก้อนเดิม และต้องเป็นหนี้ใหม่ที่มี อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าหนี้เดิม เพื่อให้สามารถจ่ายหนี้คืนได้ตลอดสัญญา และไม่ผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาหนี้ ควรเริ่มจากตัวเราก่อน หากมีสัญญาณเตือนว่ากำลังเป็นหนี้ เริ่มจ่ายหนี้ ไม่ไหว สิ่งแรกต้องตั้งสติ หยุดทุกพฤติกรรมทางการเงินที่ไม่จำเป็น แล้วเริ่มสำรวจการเงินของตัวเอง เพื่อหา ทางออกอย่างจริงจัง และทันเวลา ไม่ให้เป็นหนี้เสียจนกลายเป็นหนี้ไม่สิ้นสุดนั่นเอง