เมื่อกล่าวถึงผู้ที่เก็บและใช้เงินเป็น อนาคตย่อมจะกลายเป็นเศรษฐีได้ง่าย ๆ ซึ่งเรื่องการใช้จ่ายเงินนี้มีความสำคัญต้องศึกษาและเรียนรู้นอกตำรากันเอง ไม่มีโรงเรียนไหนสอนละเอียด ดังนั้น การรู้จักและใช้เงินเป็นจึงเหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัยที่จะต้องเรียนรู้ แบ่งรับ แบ่งจ่าย อย่างชาญฉลาด ซึ่งวันนี้เรามีตัวอย่างดี ๆ ของแนวคิดการเก็บและใช้เงินอย่างสบายใจมาฝากกัน
ตัวอย่างนี้มาจากระทู้ถามตอบใน Pantip http://pantip.com/topic/30591432 ที่คุณ zenario ได้มาตอบเอาไว้ จึงขอเสริมขยายความเป็นแนวทางในเรื่องของการให้ความสำคัญในการหักปันส่วนค่าใช้จ่ายประจำต่อเดือนออกก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อเงินเดือนออกเพื่อเป็นการป้องกันสภาวะการใช้เงินหมดก่อนจนไม่มีเหลือใช้จ่ายตลอดเดือน เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ที่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนที่มีตัวเลขแต่ละเดือนไม่หนีกันมาก สามารถคาดการณ์และประเมินสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในช่วงของวัยทำงาน การแบ่งเงินออกในส่วนของค่าใช้จ่ายควรเก็บใส่ซองและเขียนหน้าซองเอาไว้ว่า สำหรับค่าใช้จ่ายอะไร แยกย่อยค่าใช้จ่ายออกจากกันแต่ละซองเพื่อป้องกันการผิดเพี้ยนและป้องกันการผิดพลาด เนื่องจากรายได้ที่เราได้แต่ละเดือนนั้น บริษัทก็มักจะหักค่าใช้จ่ายในส่วนของสวัสดิการต่าง ๆ เอาไว้ก่อนจะนำมาจ่ายเป็นรายได้ให้เรา
เทคนิคนี้ก็เป็นเทคนิคเดียวกันที่บริษัทหักรายจ่ายแต่ละเดือนของพนักงานเอาไว้เหมือนกัน ส่วนใหญ่นักศึกษาจบใหม่หรือพนักงานสตาร์ทเงินเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ทางบริษัทจะหักค่าประกันสังคมและภาษีเอาไว้ ทำให้เราเหลือใช้ต่อเดือนประมาณ 13,000 บาท หลังจากนั้นให้เราหักส่วนค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าบ้าน 2.000 บาท ค่าน้ำค่าไฟ 500 บาท ค่าโทรศัพท์ 500 บาท ค่ากินวันละ 120 บาท (30 วันก็จะเท่ากับ 3,600 บาท) และเราก็จะเหลือเงินโดยประมาณ 6,400 บาท จากนั้นให้เราออมเงินเก็บเอาไว้ 5,000 บาท เราจะเหลือ 1,400 บาทเอาไว้ซื้อของจำเป็นอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ซึ่งไม่ควรซื้อเกินจำนวนเงินนี้ หากอยากได้เพิ่มให้ตัดใจเลือกซื้อในเดือนถัดไปแทน เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอ ไม่เดือดร้อนก่อนสิ้นเดือนได้
ตัวอย่างนี้ก็มาจากกระทู้ถามตอบ http://pantip.com/topic/30591432 เดียวกันของคุณ Thechila ซึ่งได้กล่าวให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนการใช้จ่ายเงินในระยะยาว
ซึ่งได้มองถึงการณ์ไกล ในการวางแผนครอบครัว เช่น อีกกี่ปีจะแต่งงาน หลังจากแต่งงานจะมีลูกเลยหรือเปล่า เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมาเช็คความพร้อมของคุณว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ เงินเดือนโดยทั่วไปเมื่อนำไปใช้จ่ายในแต่ละเดือน อย่างตัวอย่างข้างต้น ก็จะเหลือเงินออมจำนวนหนึ่ง ให้คุณได้เก็บสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในสถานการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะรายจ่ายก้อนโตอย่างพวก ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ พวกนี้จะทำให้เงินที่มีไม่เหลือเป็นเงินออมเพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในอนาคตได้ ดังนั้นการวางแผนการเงินในอนาคตจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราทุกคนจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะมีการตัดสินใจใช้จ่ายเงินครั้งใหญ่ โดยคุณสามารถนำเงินออมที่เก็บสำรองเอาไว้มาแบ่งเพื่อลงทุนในการเงินที่มอบเงินปันผล หรือให้ผลตอบแทนระยะยาวและระยะสั้น จำนวนที่มากกว่าการออมธรรมดา อาจจะให้ผลตอบแทน 10% ต่อปี ขึ้นไป เพื่อให้เงินออมที่ควรจะเป็นเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น จนสามารถทดแทนสัดส่วนของค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ได้อย่างปลอดภัย
ตัวอย่างสุดท้ายมาจากกระทู้ http://pantip.com/topic/30591432 จากคุณ ปลาวาฬใจดี ที่กล่าวถึงแนวคิดในการทำงานและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนงานที่ทำ
โดยแนะนำให้ทุกคนที่กำลังอยู่ในช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนงาน เริ่มต้นการวางแผนการจัดงานเงินใหม่ทั้งหมด เนื่องจากว่าเราเปลี่ยนงาน ค่าใช้จ่ายและรายได้ก็เปลี่ยนแปลง ซึ่งส่วนใหญ่เหตุที่คนเปลี่ยนงานเพราะรายได้ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อรายได้เพิ่มขึ้น เราก็สมควรที่จะเก็บออมมากขึ้นตามไปด้วย หากมีวินัยและฝืนใจตัวเองได้ หักห้ามใจไม่ให้ฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เศรษฐีย่อม ๆ ต้องเป็นคุณแน่นอน หากเปลี่ยนงานแล้วเงินเดือนขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 4x,xxx บาท คุณมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เหมือนตัวอย่างด้านบนที่เดือนละ 6,600 บาท คราวนี้คุณจะมีเงินเก็บโหดมากขึ้นกว่า 3 หมื่นกว่าบาทต่อเดือน ที่สามารถนำไปใช้วางแผนในอนาคตได้แม่นยำและใกล้เคียงความจริงยิ่งขึ้น
ซึ่งคิดว่าแนวคิดการออมเงินเพิ่มขึ้นเมื่อมีรายได้มากขึ้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องและยอดเยี่ยมที่สุด นอกจากนี้การทำบัญชีรายรับและบัญชีรายจ่ายควบคู่กันไปทุกวัน แม้บางวันจะใช้จ่ายน้อย ก็อยากให้คุณจดบันทึกเอาไว้ เพื่อได้คิดทบทวนและประเมินว่า การใช้จ่ายวันนี้สมควรแล้วหรือไม่ หากไม่ คราวหน้าคุณจะมีบทเรียนในการหักห้ามใจมากยิ่งขึ้น และหากสมควรคุณก็จะได้เพิ่มวินัยติดตัวไป มีแต่ได้กับได้ ที่สำคัญวินัยในการจดบันทึกรายรับรายจ่ายยังสามารถทำให้คุณประเมินกิจวัตรประจำวันได้ว่าการจ่ายเงินแต่ละวันของเราประมาณไหน และวางแผนระยะยาวควบคู่กันไปกับระยะสั้นได้อย่างดี
การวางแผนการใช้จ่ายและการเก็บออมเป็นเรื่องสำคัญขนาดนี้ เป็นสิ่งคุ้มค่าที่จะตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและเติมกำลังใจให้มีไฟที่จะหารายได้มากยิ่งขึ้น จงเข้มงวดกับตัวเองในเรื่องการใช้เงินเถอะ คุณจะทรมานเพียงไม่กี่เดือน แต่คุณจะสบายกายและใจอีกหลายปี