ความรู้เรื่องบัตรเครดิตเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วในยุคที่มีการใช้แทนเงินสด และสะดวกสบายในการใช้ ไม่ต้องพกเงินสดมากๆ ทำให้เราได้รับความปลอดภัยด้วย แต่เราต้องมีความรู้ในการใช้บัตรเครดิตเพื่อให้ใช้อย่างปลอดภัย ในการใช้บัตรเครดิต การขออนุมัติการทำบัตรเครดิต วิธีการใช้บัตรในกรณีต่างๆ และในเรื่องการชำระหนี้ที่เราใช้บัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้า ซึ่งเราอาจรูดเพลินจนมีหนี้ตามมา และก่อให้เกิดขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ เราจะต้องรู้จักการบริหารหนี้ด้วยการใช้บัตรเครดิต ถ้าไม่มีความรู้ในการใช้อาจจะเป็นผลเสียได้ ควรใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าใช้เป็นบัตรเครดิตจะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะบางคนมีหลายใบ เรียกว่าเป็นสิบๆ ใบเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกับบัตรเครดิตพร้อมเรียนรู้การ ใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี กันดีกว่า เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุดและไม่กลายเป็นการก่อหนี้ให้เพิ่มพูนขึ้นมานั่นเอง พร้อมแล้วไปรู้จักกับบัตรเครดิตกันเลย
การเป็นหนี้จากบัตรเครดิต
อาจจะเป็นหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่เป็นธนาคารพาณิชย์หรืออาจจะไม่เป็นธนาคารพาณิชย์ก็ได้ การทำก็ไม่ได้ยากอะไรโดยผู้ขอกรอกข้อมูลต่างๆ ในใบที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินหรือธนาคาร เราเขียน ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน อาชีพ รายได้ กู้ในวงเงินเท่าใด พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สลิปเงินเดือน ก่อนที่เราจะเซ็นต์ชื่อเราก็อ่านทวนทั้งหมดในเอกสารเพื่อดูเงื่อนไขทั้งหมดอีกทีหนึ่ง เสร็จแล้วพนักงานเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินหรือธนาคาร ก็จะนำไปขออนุมัติจากผู้จัดการธนาคาร โดยทางธนาคารก็จะนำไปตรวจสอบประวัติการเงินของเราว่ามีหนี้สินที่ไหนอย่างไรบ้าง เพราะข้อมูลต่างจะออนไลน์ถึงกันหมดทุกสถาบันการเงินหรือธนาคาร ถ้าติดแบล็คลิส หรือเครดิตบูโร ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารก็จะไม่อนุมัติให้เราจนกว่าเราจะนำเงินไปชำระหนี้นั้นให้เรียบร้อยเสียก่อน
ประโยชน์ของบัตรเครดิต
คือเราใช้แทนเงินสดได้ ไม่ต้องพกเงินไปเป็นจำนวนมากๆ ใช้ไปทานอาหารตามร้าน ใช้ค่าโรงแรม นอนโรงพยาบาล ในการซื้อสินค้าต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ใช้ถอนเงินมากใช้ล่วงหน้าได้ ยังได้รับสิทธิซื้อสินค้าได้รับการลดราคาเป็นไว้ยอดเงินที่ส่งมาที่บ้านเรา
เรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้บัตรเครดิตมีค่าอะไรบ้าง
มีค่าธรรมเนียมในการมีบัตร เป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บเป็นรายปี ค่าธรรมเนียมของการเบิกถอนเงิน
ถ้าเบิกถอนเงินโดยใช้บัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียนประมาณ 3% ของที่เราเบิกถอนเงินนั้น
- ค่าธรรมเนียมในการชำระค่าบัตรเครดิต ประมาณ 15 บาท
- ค่าผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ ประมาณ 10% ของยอดเงินที่ค้างชำระ แต่ถ้าคืนเงินภายใน 45-55 วันก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
- ดอกเบี้ยไม่เกิน 18% ต่อปี
- ค่าปรับไม่เกิน 18% ต่อปี
การใช้บัตรเครดิตถ้าเรามีความจำเป็นต้องใช้ เราควรที่จะต้องรักษาเครดิตในการใช้บัตรของเรา เพื่อไม่ให้เสียประวัติทางการเงิน ที่เรียกว่าเครดิตบูโร เพื่อการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เมื่อมีความจำเป็นอีก ไม่ควรทำให้ติดแบล็คลิสต์ เพราะข้อมูลของสถาบันการเงิน หรือธนาคารจากเชื่อมโยงกันหมด การใช้บัตรเครดิตควรต้องมีการจดบันทึกรายการใช้โดยแยกออกมาต่างหากเฉพาะของบัตรเครดิต เพื่อทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในเดือนแต่ละเดือน เราจะได้ทราบว่าเราเป็นหนี้บัตรเครดิตจำนวนเท่าใด และเตรียมเงินไว้ให้พร้อมเพื่อนำเงินไปชำระค่าบัตรเครดิตของเรา จะได้ไม่เสียเครดิต ควรจัดลำดับไว้ให้ดีกว่าหนี้ใดควรชำระก่อนหลัง หนี้ใดสำคัญหนี้ใดไม่สำคัญ หนี้ใดทยอยจัดได้ก็จ่ายไปทีละน้อยก็ได้ หนี้ใดมีผลตามกฎหมายก็ต้องดูให้ดี อย่าปล่อยให้เป็นหนี้จนไม่อาจแก้ปัญหาได้
เราจะเห็นว่าคนสมัยใหม่ต้องมีบัตรเครดิตไว้ และก็มีกันคนละหลายใบ ทำให้เราอาจจะสับสนการใช้บัตรเครดิตได้ ควรมีการเก็บไว้ในกระเป๋าที่เสียบบัตรเครดิตนั้นแยกเป็นช่องละใบ จะทำให้เราหยิบง่าย และหยิบมาอย่างถูกต้อง การบริหารบัตรเครดิตจึงเป็นเรื่องที่เราต้องมีความรู้เพื่อใช้บัตรเครดิตไม่ให้มีความผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดผลเสียตามมา ถ้าเราให้ความสนใจก็ไม่มีอะไรยากกับการใช้เลย ง่ายมากกับการใช้ ดีกว่าการใช้เงินสดอย่างมาก ในอนาคตเราคงเห็นการใช้บัตรเครดิตอย่างเดียวในใบเดียวกันก็เป็นได้ จะไม่มีการใช้เงินสดกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าสะดวกสบายว่าการใช้เงินสดหลายเท่า แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมว่าบัตรเครดิตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิตไม่เป็น หรือใช้อย่างฟุ่มเฟือยจนเกินไป ก็อาจจะกลายเป็นการสร้างหนี้ก้อนโตให้กับตนเองโดยไม่รู้ตัว ทีนี้ก็จะมีปัญหาตามมามากมาย ทั้งหนี้บัตรเครดิต ทั้งปัญหาเงินไม่พอใช้ และรวมไปถึงปัญหาการเงินต่างๆ ซึ่งหากคุณเองไม่อยากให้เกิดปัญหาเหล่านี้ ก็ควรใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี และจำกัดการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตด้วย
บัตรเครดิตมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คนที่ใช้เป็นก็จะเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อตัวผู้ใช้เอง ส่วนคนที่ใช้ไม่เป็น ก็อาจก่อหนี้ก้อนโตได้ เพราะฉะนั้นก่อนใช้บัตรเครดิต อย่าลืมคำนึงถึงยอดหนี้บัตรเครดิตอยู่เสมอ และต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายด้วย แค่นี้ก็ไม่เกิดปัญหากับการใช้บัตรเครดิตแล้ว