เคล็ดลับใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด ใช้อย่างไรไม่ให้เป็นหนี้เกินตัว
บัตรเครดิต เป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย และช่วยให้เราสามารถจับจ่ายใช้สอยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม เราไม่จำเป็นที่จะต้องพกเงินสดจำนวนมากติดตัวไปไหนมาไหนให้อันตราย เพียงแค่บัตรใบเดียวก็สามารถรูดจ่ายได้ทั้งสินค้า และบริการ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีระยะเวลาปลอดหนี้ที่หากเราชำระเงินตรงยอดบิลเต็มจำนวน เงินยอดนั้นจะไม่ถูกคำนวณดอกเบี้ยอีกด้วย เรียกได้ว่ามีแต่ได้กับได้ หากใช้อย่างมีสติ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการใช้บัตรเครดิตก็คือเราต้องใช้อย่างชาญฉลาด และมีสติ เพื่อให้เราได้รับผลประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัตรที่มีสิทธิพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์มากมายที่โดยปกติแล้วจะมีค่าธรรมเนียมรายปีค่อนข้างสูง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าจะมีเคล็ดลับ ใช้บัตรเครดิต ยังไง ให้ชาญฉลาดที่สุด เพื่อให้เราสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่า และไม่เป็นหนี้เกินตัว
เคล็ดลับใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาดเพื่อประโยชน์สูงสุด
1.จำรอบบิลให้ดี การใช้บัตรเครดิตนั้นมีอยู่ 2 วันที่เราต้องจำให้ขึ้นใจประกอบไปด้วยวันตัดยอดและวันครบกำหนดชำระซึ่งทั้ง 2 วันนั้นจะมีระยะห่างอยู่ที่ประมาณ 5 วัน อย่างเช่นหากคุณตัดยอดวันที่ 28 ของเดือนก็จะต้องจ่ายชำระประมาณไม่เกินวันที่ 2 ของเดือน มันจะช่วยให้เรานั้นสามารถคำนวณได้ว่ารอบบิลนี้เราใช้เงินไปเท่าไหร่และมีเงินพอจะชำระบิลหรือไม่
ที่สำคัญก็คือคุณไม่ต้องเสี่ยงจ่ายค่าบัตรเครดิตช้าซึ่งจะตามมาด้วยปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการคิดดอกเบี้ย การเสียเครดิตบูโร ยิ่งเราชำระค่าบัตรเครดิตช้าดอกเบี้ยก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ในรอบบิลถัดไปก็จะถูกคิดดอกเบี้ยในทันทีโดยที่ไม่มีระยะเวลาปลอดหนี้อีกด้วยหากเรายังไม่ได้ชำระเงินของรอบบิลที่แล้ว และถึงแม้ว่าเราจะชำระช้าไม่เกินรอบบิล ถึงอย่างนั้นเราก็ยังต้องเสียค่าปรับอยู่ดีซึ่งไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลยแม้แต่น้อย
2.ใช้บัตรเครดิตให้ถี่ขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น เวลาที่เราไปรับประทานอาหารกับเพื่อนหรือครอบครัว หากเราชำระค่าอาหารด้วยบัตรของเรา เราก็จะได้รับแต้มมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเป็นการรับประทานอาหารกับเพื่อนเราจะได้รับเงินสดหรือเงินโอนมาไว้ใช้จ่ายอีกด้วย เราสามารถนำเอาเงินเหล่านี้ไปลงทุนหรือหมุนใช้ระหว่างเดือนก่อนได้ เราสามารถนำเอาแต้มไปแลกรับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษได้อีกมากมายเลยทีเดียว
หรือเวลาจะชำระค่าสินค้าและบริการอื่นๆ การเลือกใช้บัตรเครดิตก็จะช่วยให้คุณได้สะสมแต้มซึ่งดีกว่าการผ่อนชำระเป็นเงินสดที่เราไม่ได้อะไรเลยอยู่ดี แต่สิ่งสำคัญในการใช้บัตรเครดิตให้มากขึ้นกว่าเดิมก็คือเราต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาใช้จ่ายเกินตัวขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน
3.ตรวจสอบโปรโมชั่นอยู่เสมอ บัตรเครดิตนั้นไม่ได้มีเฉพาะโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษที่ติดมากับตัวบัตรตามที่พนักงานแจ้งเราไว้เมื่อไปสมัครเพียงอย่างเดียว ระหว่างที่เราใช้งานไปเรื่อยๆ นั้นก็จะมีสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นมากมายที่เราสามารถตรวจสอบได้จากจดหมายบิลเรียกเก็บรวมไปถึงบนแอปพลิเคชันให้เราได้ตรวจสอบอย่างสะดวกสบาย การใช้สิทธิพิเศษหรือโปรโมชั่นของบัตรเครดิตจะช่วยให้เราสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด โปรโมชั่น หรือการผ่อนชำระ 0% ก็ตาม
4.ปิดเลข 3 ตัวท้ายบนหลังบัตรเสมอ ตัวเลขบนบัตรเครดิตที่มีความสำคัญมากที่สุดไม่ใช่เลขบนหน้าบัตรแต่เป็นเลขด้านหลังบัตรต่างหาก เพื่อความปลอดภัยเราจึงควรปิดตัวเลข 3 ตัวท้ายบนด้านหลังบัตรอยู่เสมอ เพราะมันเป็นระบบความปลอดภัยที่ไม่ว่าการทำธุรกรรมออนไลน์อะไรก็ตามเราจะต้องกรอกตัวเลข 3 ตัวนี้ลงไปด้วย เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนหาสติ๊กเกอร์มาปิดตัวเลขเหล่านี้เอาไว้ก็จะช่วยให้บัตรของคุณปลอดภัยจากการถูกทำธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์
Passive Income ช่วยปลดหนี้จากการใช้บัตรเครดิต ยังไง
หากคุณรู้สึกว่าการมีบัตรเครดิตนั้นทำให้การจับจ่ายใช้สอยง่ายขึ้นกว่าเดิมจนรู้สึกฟุ่มเฟือย เราก็มีเคล็ดลับดีๆ มาบอกกันว่าทำยังไงให้เราสามารถมีรายได้อีกทาง ที่สามารถเข้ามาเป็นตัวช่วยสำหรับการจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ ซึ่งเป็นเพียงวิธีที่เรานำมาแนะนำเพิ่มเติมเท่านั้น ใครมีเงินที่สามารถทำตามได้ก็ลองนำไปทำตามกัน
1.ลงทุนในเงินฝากธนาคาร แม้ว่าบัญชีเงินฝากธนาคารอาจจะมีดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ แต่ถึงอย่างนั้นการฝึกวินัยการออมเงินก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หากคุณรูดบัตรเครดิตไปเท่าไหร่ก็ให้นำเอาเงินตามยอดที่เรารูดบัตรเพื่อซื้อสินค้าฝากเอาไว้ในบัญชีเงินฝากธนาคาร เพียงเท่านี้คุณก็จะมีเงินสำหรับการจ่ายบิลอย่างแน่นอน นอกจากนี้คุณยังอาจจะได้รับดอกเบี้ยอีกด้วย หรือสำหรับใครที่อยากจะมีเงินออมทุกครั้งในการรูดซื้อสินค้าก็ให้นำเอาเงินสดหรือเงินธนาคารฝากเข้าบัญชีไว้ในจำนวนที่มากกว่าการรูดซื้อสินค้า ก็จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
2.ลงทุนในสลากออมทรัพย์ สลากออมทรัพย์นั้นมีผลตอบแทนดีกว่าการฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารทั่วไป นอกจากนี้ยังมีโอกาสลุ้นรางวัลเป็นประจำอีกด้วย วิธีการก็เหมือนกันนั่นก็คือการนำเอาเงินยอดเดียวกับที่เรารูดซื้อสินค้าหรือบริการไปซื้อสลากออมทรัพย์ เราก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นกว่าเดิมและช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้น
3.ลงทุนในกองทุน หรือหุ้น วิธีการก็เหมือนกันแต่วิธีการดังกล่าวอาจจะต้องอาศัยความรู้สักหน่อย เพราะการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนนั้นค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ได้ผลตอบแทนดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกองทุนรวมตลาดเงินที่ปัจจุบันมีผลตอบแทนอยู่ที่ตั้งแต่ 1.1% ไปถึง 1.3% ต่อปีเลยทีเดียว ที่สำคัญกองทุนรวมตลาดเงินยังสามารถถอนเงินออกมาจ่ายค่าบัตรเมื่อถึงรอบจ่ายได้อีกด้วย
สรุปแล้ว เคล็ดลับใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด นอกจากได้ความสะดวกสบาย ควรได้ใช้สิทธิประโยชน์ และสิทธิพิเศษให้คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้ส่วนลด การสะสมแต้ม นอกจากนี้ ยังต้องระวังในเรื่องของการชำระค่าบัตรเครดิตในแต่ละรอบบิลให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยที่จะมาขัดสภาพคล่องของเรา เท่านี้คุณจะได้ใช้บัตรเครดิตอย่างคุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน