การทำประกันชีวิตมีประโยชน์กับผู้เอาประกันและครอบครัว ในการทำสัญญาประกันแต่ละประเภท สามารถเลือกทุนประกันชีวิตหรือวงเงินชดเชยมูลค่าชีวิตคืนให้กับผู้ทำประกันหรือผู้รับผลประโยชน์ ให้ความคุ้มค่าแก่ผู้เอาประกันที่อยู่ครบตามสัญญาของกรมธรรม์หรือผู้รับผลประโยชน์ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต การทำประกันชีวิตจึงนับเป็นการให้ความคุ้มครองชีวิตหรือเป็นการออมทรัพย์ประเภทหนึ่งได้
ทุนประกันชีวิต หรือวงเงินเอาประกันนั้นมีผลกับอัตราค่าห้องที่เลือกได้ตามแผนของแต่ละกรมธรรม์ และยังครอบคลุมความคุ้มครองอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน วิธีเลือกวงเงินประกันง่ายที่สุดคือคิดคำนวณจากโรงพยาบาลใกล้บ้านหรือสถานพยาบาลที่เลือกเข้ารับการรักษา สอบถามค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ค่าห้องที่รวมค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลต่าง ๆ สรุปเป็นตารางให้เลือกตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเลือก ทุนประกันชีวิต สำหรับตนเองและครอบครัว
เหตุผลที่บุคคลเลือกทำประกันชีวิตแตกต่างกันไป คนส่วนใหญ่คิดว่าประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองชีวิต หรือหลักประกันทางการเงินของครอบครัว หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จึงเลือกซื้อเป็นกรมธรรม์หลัก นอกจากนั้นหากต้องการให้การประกันครอบคลุมด้านอื่น ๆ ด้วย สามารถทำประกันออมทรัพย์เสริมเพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตร ทุนสำรองไว้ใช้หลังวัยเกษียณอายุ ทุนสำรองเลี้ยงชีพกรณีทุพพลภาพถาวร หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้พิการ ทุนรักษาพยาบาลเพิ่มเติมและอนุสัญญาอื่น ๆ ที่เลือกซื้อเพิ่มความคุ้มครองในภายหลังได้
อ่านเพิ่มเติม >> ประกันชีวิต แบบไหน เหมาะกับใครบ้าง ? <<
สำหรับการกำหนด ทุนประกันชีวิต ของแต่ละคนนั้นจะพิจารณาจากประเภทของประกันหลัก โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ
-
ประกันชีวิตแบบมีกำหนดระยะเวลา
ประกันชีวิตให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีการสะสมทรัพย์ จะจ่ายเงินตามจำนวนวงเงินประกันชีวิตที่ตกลงไว้ให้ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี โดยผู้ทำประกันสามารถจ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียวหรือแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน มีค่าเบี้ยประกันภัยต่ำกว่าแบบสะสมทรัพย์ประมาณ 10 เท่า
การจ่ายเบี้ยประกันในรูปแบบประกันชีวิตแบบนี้ มีเบี้ยประกันคงที่ในอัตราต่ำกว่าประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ได้วงเงินคุ้มครองสูง แบบประกันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตในวงเงินที่สูงเพื่อสร้างหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงให้ครอบครัวโดยชำระเบี้ยประกันในอัตราที่ต่ำ
การซื้อประกันชีวิตจะต้องคำนึงถึงวงเงินความคุ้มครองที่เพียงพอต่อความต้องการของแต่ละคนและความสามารถในการส่งเบี้ยประกันได้ทุกปี ส่วนผู้รับผลประโยชน์อาจเลือกรับเงินเป็นรายเดือน มีรายได้แน่นอนและปลอดภัยกว่าการรับเป็นเงินก้อนครั้งเดียว ซึ่งผู้รับประโยชน์ที่ไม่มีวินัยในการใช้จ่ายเงินอาจใช้เงินดังกล่าวหมดไปภายในเวลาอันรวดเร็ว
โดยคำนวณค่าใช้จ่ายใน 10-20 ปีข้างหน้าและทำประกันชีวิตในวงเงินเท่ากัน เช่น 1-2 ล้านบาท ซึ่งจะคิดค่าเบี้ยประมาณเพียงปีละ 6,000-12,000 บาท ประมาณเดือนละ 500 หรือ 1,000 บาท
-
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยถึงอายุ 90-99 ปีตามสัญญาของกรมธรรม์ ชำระเบี้ยประกันภัย 18-20 ปี มีเงินคืนให้เมื่อครบสัญญา วงเงินเอาประกัน 100,000 บาท หรือมากกว่า กรณีมีชีวิตอยู่ครบอายุ 99 ปี ตามกำหนดกรมธรรม์จะมีเงินคืนให้ 100,000 บาท และนำค่าเบี้ยประกัน ไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ลดหย่อนถึงได้ 20 ปี
ลักษณะของสัญญาจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือจ่ายให้ผู้เอาประกันเมื่อมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดตามสัญญาประกัน การจ่ายเบี้ยประกันคงที่ มีอัตราเบี้ยประกันสูงกว่าประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาและได้วงเงินคุ้มครองสูง ทุนประกันชีวิตแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกองทุนมรดกเพื่อดูแลครอบครัวในอนาคต
โดยคำนวณจากจำนวนเงินเอาประกัน 1 ล้านบาท จะมีค่าเบี้ยประกันรายเดือน 1,208 บาท หรือรายปี 14,500 บาท ค่าเบี้ยประกัน 20 ปี รวม 290,000 บาท เมื่อเสียชีวิตไปก่อน 99 ปี หรืออายุครบ 99 ปี รับเงินคืน 1 ล้านบาท มีผลตอบแทนเพิ่ม 710,000 บาท คิดเป็น 245%
-
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นทั้งการคุ้มครองชีวิตและออมทรัพย์ มีการกำหนดระยะเวลาในการคุ้มครองไว้แน่นอน เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี โดยบริษัทประกันจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันให้ผู้เอาประกันชีวิต เมื่อมีชีวิตอยู่จนครบวันตามที่สัญญากำหนด จ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด
โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินเป็นระยะ ๆ ตามแต่ละแบบของกรมธรรม์ ซึ่งอาจมีการคืนเงินถึง 300% ของทุนประกันชีวิต ค่าเบี้ยประกันภัยแบบนี้ตกประมาณปีละ 6-10% ของทุนประกันภัย ยกตัวอย่าง วงเงินเอาประกันชีวิต 1 ล้านบาท จะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย 60,000-100,000 บาท มีอัตราเบี้ยประกันค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะสมทรัพย์มากกว่าความคุ้มครองชีวิต เพราะได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา และสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการประกันชีวิตแบบอื่น ๆ เพื่อสนองตอบความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างครอบคลุม ดังนี้
-
การประกันชีวิตสินเชื่อ
ประกันชีวิตเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยที่มีภาระหนี้สินอยู่กับสถาบันการเงิน เช่น ระหว่างผ่อนซื้อบ้านหรือรถยนต์ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับผู้เอาประกันภัย กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร บริษัทประกันภัยจะจ่ายยอดหนี้สินค้างชำระให้กับผู้ขายบ้านหรือรถยนต์หรือเจ้าหนี้ผู้ให้สินเชื่อ นับว่าเป็นแบบประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยประกันภัยต่ำที่สุดและตรงต่อความจำเป็นอย่างแท้จริง
จุดประสงค์เพื่อปลดหรือลดภาระหนี้สินค้างชำระแทนทายาทของลูกค้าผู้เอาประกันภัย เพื่อปกป้องครอบครัวของลูกค้าไม่ให้มีปัญหาหนี้สินหรือถูกยึดทรัพย์จากภาระหนี้สินนั้น ทำให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่ากรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของทายาทและครอบครัว โดยสถาบันการเงินจะเป็นผู้ถือกรมธรรม์หลักและเป็นผู้รับผลประโยชน์ในจำนวนหนี้สินค้างชำระของลูกค้าที่เป็นผู้เอาประกันภัย
-
ประกันชีวิตแบบบำนาญ
ประกันชีวิตแบบบำนาญจ่ายเงินให้ผู้เอาประกันอย่างต่อเนื่องเป็นรายเดือนหรือรายปี เมื่อผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ในวันที่กำหนดไว้ในสัญญาเพื่อชีวิตเกษียณที่มั่นคงและสบายใจ
การจ่ายค่าเบี้ยประกันจะจ่ายค่าเบี้ยไปถึงปีที่เกษียณอายุ หลังจากนั้นรอรับบำนาญหลังเกษียณเหมือนมีรายได้อย่างต่อเนื่อง สามารถลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท จึงหมดห่วงเรื่องภาษีตอนสิ้นปี ทุนประกันชีวิตแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายหลังเกษียณอายุการทำงานแล้ว รับบำนาญทุกปีจนถึงอายุ 90-99 ปีตามที่ได้ทำสัญญาไว้
ควรซื้อ ทุนประกันชีวิต เท่าไหร่
- พิจารณาจากรายจ่ายของตนเองและครอบครัว เงินจำนวนนั้นคูณจำนวนปีที่มีภาระหนี้สิน รวมทั้งการผ่อนบ้านหรือรถยนต์ เช่น ภาระหนี้สินต่อเดือน 50,000 บาท หรือต่อปี 600,000 บาท คูณจำนวนปีที่ชำระหนี้สิน 20 ปี รวมเท่ากับ 12 ล้านบาท
- เงินภาระหนี้สินทั้งหมดหักลบกับเงินเก็บหรือทรัพย์สินที่มี เช่น เงินฝาก หุ้นกู้ กองทุน เช่น 3 ล้านบาท เท่ากับมีความเสี่ยงของครอบครัว 9 ล้านบาท จึงเป็นจำนวนเงินที่ควรซื้อประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองสูง เบี้ยประกันไม่แพงและเลือกซื้อกับบริษัทประกันชีวิตที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้