ประกันเดินทาง เที่ยว ญี่ปุ่น เจ้าไหนดี ได้รับความคุ้มครองจัดเต็ม
ช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูหนาวเรียบร้อยแล้ว สถานที่ที่หลายคนอยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะไปช่วงนี้เรามีโอกาสจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น เจอกับหิมะ ไปแช่ออนเซ็นอุ่น ๆ ไม่มีอะไรฟินไปมากกว่านี้แล้ว ใครที่กำลังอยู่ในช่วงวางแผนท่องเที่ยว แต่ยังไม่รู้ว่า ประกันเดินทาง เที่ยว ญี่ปุ่น เจ้าไหนดี ได้รับความคุ้มครองจัดเต็ม ให้เดินทางมั่นใจ จะมีเจ้าไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
แนะนำ 5 ประกันเดินทาง เที่ยว ญี่ปุ่น เจ้าไหนดี
MSIG Travel Easy
เป็นประกันภัยเดินทางต่างประเทศจาก MSIG ที่ให้ความคุ้มครองทั้งการได้รับบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ หรือการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงแค่ 190 บาทเท่านั้น แต่ทุนประกันสูงกว่า 1.5 ล้านบาทเลยทีเดียว สามารถสมัครได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์บริษัทประกันเลย โดยมีความคุ้มครอง ดังนี้
- คุ้มครองกรณียกเลิกเที่ยวบิน หรือเลื่อนการเดินทางออกไป สูงสุดเป็นเงิน 500,000 บาท
- คุ้มครองกรณีเที่ยวบินและกระเป๋าเดินทางล่าช้า สูงสุด 35,000 บาท
- คุ้มครองกรณีกระเป๋าเดินทาง ทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหาย เกิดความสูญเสีย สูงสุดเป็นเงิน 60,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วย สูงสุดเป็นเงิน 5 ล้านบาท
- ค่าเคลื่อนย้ายร่างกลับประเทศ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สูงสุดเป็นเงิน 2 ล้านบาท
iTravel Tune Protect
ประกันภัยเดินทางจากบริษัทประกันเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศ เริ่มต้นคุ้มครองผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีถึง 85 ปี สามารถเลือกแผนประกันให้เหมาะสมกับรูปแบบการเดินทางของเราได้ ใครเดินทางบ่อยสามารถเลือกแผนประกันรายปีได้ ใครเดินทางเฉพาะช่วงปลายปี ก็สามารถเลือกแผนประกันเดินทางรายวันได้เหมือนกัน โดยมีความคุ้มครอง ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วย สูงสุดเป็นเงิน 4 ล้านบาท
- คุ้มครองอุบัติเหตุ และการเสียชีวิต สูงสุดเป็นเงิน 5 ล้านบาท
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
- คุ้มครองกรณีถูกยกเลิกการเดินทาง การยกเลิกเที่ยวบิน หรือตกเครื่อง
- คุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโควิด – 19
AXA Smart traveller Plus
ประกันเดินทางจากบริษัทประกันยอดนิยมระดับโลก ตอบโจทย์ความต้องการของเหล่านักเดินทางด้วยการคุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งไม่ได้แค่คุ้มครองชีวิตเท่านั้น แต่ยังคุ้มครองไปถึงทรัพย์สิน และโปรแกรมการท่องเที่ยวของเราด้วย สามารถเลือกได้ทั้งแบบรายเที่ยวและรายปี สามารถซื้อแบบออนไลน์ได้ สะดวกสบายสุดๆ เบี้ยประกันคุ้มแสนคุ้ม เริ่มต้นเพียง 186 บาทเท่านั้น โดยมีความคุ้มครอง ดังนี้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 หรือโรคติดต่อเฉียบพลันโรคอื่น
- สามารถเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือได้เลย โดยที่ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน
- คุ้มครองทั้งชีวิต และทรัพย์สินของเราตลอดการเดินทาง
- มีบริการสายด่วนฮอตไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คำปรึกษากรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
Happy Trip Worldwide
ประกันเดินทางจากบริษัทยอดนิยมอย่างเมืองไทยประกันภัย ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางทุกคน มีให้เลือกถึง 4 แผนด้วยกัน แต่ละแผนก็จะมีวงเงินคุ้มครองมากน้อยแตกต่างกันออกไป แถมยังเลือกได้อีกต่างหากว่าจะให้คุ้มครองเฉพาะในทวีปเอเชีย หรือทั่วโลก รายละเอียดมีดังนี้
- วงเงินคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 5 ล้านบาท
- คุ้มครองการยกเลิกเที่ยวบิน หรือเที่ยวบินล่าช้า สูงสุด 500,000 บาท
- คุ้มครองกรณีการจี้เครื่องบิน สูงสุด 200,000 บาท
- คุ้มครองกรณีตกเครื่อง หรือพลาดเที่ยวบิน สูงสุด 20,000 บาท และกระเป๋าเดินทางล่าช้า สูงสุดอีก 40,000 บาท
- คุ้มครองสินทรัพย์ได้รับความเสียหาย หรือสูญหาย สูงสุด 60,000 บาท และยังมีชดเชยสูญหายเงินส่วนตัวอีก 5,000 บาท จ่ายส่วนเกินจาก 1,000 บาทแรก
Allianz Travel
ประกันเดินทางจากบริษัทอลิอันซ์ที่ช่วยให้การเดินทางของทุกคนสบายใจมากขึ้น เต็มที่กับกิจกรรมได้โดยไม่ต้องกังวล มีให้เลือกทั้งรายปี และรายเที่ยว กรณีศึกษาต่อในต่างประเทศก็สามารถยื่นขอวีซ่าได้ ถ้าไม่ผ่านรับเงินคืนไปเลย 100% พร้อมดูแลทุกคนตลอด 24 ชั่วโมงจากทั่วทุกมุมโลก รายละเอียดมีดังนี้
- ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเมื่อเจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุต่างประเทศ
- คุ้มครองกรณีเที่ยวบินล่าช้า หรือมีการยกเลิกเที่ยวบิน รวมไปถึงการเลื่อนการเดินทาง
- คุ้มครองกรณีพลาดเที่ยวบิน จากระบบการจำหน่ายตั๋วของสายการบินเอง
- คุ้มครองกรณีกระเป๋าล่าช้าในการเดินทาง
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังกลับจากประเทศไทยภายใน 30 วันนับตั้งแต่เดินทางมาถึง
- คุ้มครองทรัพย์สินกรณีเกิดความเสียหาย หรือสูญหาย
สรุปแล้วไปญี่ปุ่น ซื้อประกันเดินทางเจ้าไหนดี คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนอยากได้ความคุ้มครองมากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละบริษัทก็ให้ความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป แถมยังมีแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองแตกต่างกันด้วย ถ้าเราจ่ายค่าเบี้ยประกันสูง ความคุ้มครองก็จะยิ่งสูงขึ้น ถ้าเบี้ยประกันต่ำ ความคุ้มครองก็อาจจะมีมูลค่าต่ำลงเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับรูปแบบการเดินทาง และงบประมาณของเรา