หนี้บัตรเครดิตท่วม ทำยังไงไม่ให้ติดเครดิตบูโร?
หนี้บัตรเครดิต เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินที่หลายคนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะด้วยพฤติกรรมการใช้เงินโดยไม่ระวัง ไม่วางแผนการเงิน หรือเพราะพิษเศรษฐกิจที่อัตราเงินเฟ้อสูง สวนทางกับรายได้ที่ยังอยู่ในระดับเดียวกับ 10 ปีก่อน จนกลายมาเป็นปัญหาหนี้สินเรื้อรังในที่สุด หลาย ๆ คนก็คงเริ่มกังวลถึงเครดิตการเงินตัวเอง ว่ามีโอกาสติดบูโรหรือไม่ วันนี้เราจึงพามาดูกันว่า หนี้บัตรเครดิตท่วม ทำยังไงไม่ให้ติดเครดิตบูโร?
หนี้บัตรเครดิต – เครดิตบูโร เกี่ยวกันยังไง?
เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือหน่วยงานกลางที่เก็บข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของทุกคน (ประชาชน และภาคธุรกิจ) จากธนาคาร และสถาบันการเงินต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการ อนุมัติหรือปฏิเสธ สินเชื่อ แต่ทำหน้าที่เป็นข้อมูลกลางให้ธนาคาร/สถาบันทางการเงินพิจารณาว่า
- มีพฤติกรรมการชำระหนี้เป็นยังไง?
- เคยผิดนัดหรือไม่?
- มีหนี้กับที่ไหนบ้าง?
- มีจำนวนหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่?
สำหรับหนี้บัตรเครดิต คือยอดเงินที่เรารูดใช้จ่ายไปก่อน แล้วต้องชำระตามวันที่กำหนด หากผิดนัดชำระก็จะถูกคิดดอกเบี้ยเพิ่มตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ แต่หากมีการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตเกิน 90 วัน หรือผิดนัดชำระตามที่กำหนด ระบบจะรายงานเป็นหนี้เสีย (NPL: Non-Performing Loan) หรือหมายถึงหนี้ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระคืนตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ได้ ซึ่งมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต (บ้าน/รถ) โอกาสได้รับการอนุมัติน้อยกว่าปกติ รวมถึงการทำบัตรเครดิตใบใหม่ด้วยเช่นกัน กล่าวคืออาจทำให้เสียโอกาสในอนาคตหลาย ๆ ด้านเลยทีเดียว
วิธีจัดการ หนี้บัตรเครดิตท่วม ไม่ให้ติดเครดิตบูโร
- ตรวจสอบยอดหนี้ทั้งหมด แล้ววางแผนจ่ายให้ตรงเวลา
ก่อนอื่น ให้รวบรวมยอดหนี้จากบัตรเครดิตทุกใบออกมา แล้วดูว่า บัตรไหนดอกเบี้ยสูงสุด ใบไหนใกล้ครบกำหนดแล้วยังสามารถจ่ายขั้นต่ำได้หรือไม่ หากยังจ่ายขั้นต่ำไหว ควรพยายามจ่ายให้ตรงเวลา ทุกรอบบัญชี เพื่อไม่ให้เข้าสู่สถานะผิดนัดชำระ
- หยุดใช้บัตรเครดิตไปก่อน
การไม่รูดเพิ่มคือจุดเริ่มต้นของการลดหนี้ ควรปรับพฤติกรรมการใช้เงินใหม่ อาจเริ่มที่ไม่นำบัตรเครดิตติดตัวออกจากบ้าน ไม่บันทึกข้อมูลบัตรเครดิตทิ้งไว้ในระบบช้อปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ หรืออาจหักดิบด้วยการตัดบัตรทิ้งไปเลย ซึ่งการควบคุมตนเอง และมีวินัยการใช้เงินเป็นหัวใจสำคัญของการแก้หนี้
- ปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามกำหนด แม้แต่ขั้นต่ำ ให้รีบติดต่อไปทางธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ ในการผ่อนชำระหนี้ภายใต้เงื่อนไขใหม่ที่จัดการการเงิน และแบ่งเบาภาระได้ดีกว่าเดิม เช่น ดอกเบี้ยต่ำลง และขยายระยะเวลาผ่อนชำระ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรีบมาติดต่อธนาคารก่อนจะเลย 90 วัน และกลายเป็นหนี้เสียไปจนถึงการติดเครดิตบูโรในที่สุด
- รวมยอดหนี้ด้วยการรีไฟแนนซ์
ปัญหาหนี้บัตรเครดิตจะยิ่งลุกลามหากมีหนี้หลายใบ ให้ลองพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อปิดบัตรเครดิต หรือเลือกรีไฟแนนซ์หนี้กับธนาคารใหม่ ที่มักมีอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม ซึ่งมีข้อดีคือจะมีหนี้ก้อนเดียว ผ่อนสบายขึ้น และลดโอกาสในการผิดนัดชำระ แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยการเป็นหนี้นานกว่าเดิม
- เพิ่มรายได้
นอกจากลดรายจ่ายแล้ว การหารายได้เสริม จะช่วยให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น อาจเป็นการขายของออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์/งานเสริมช่วงวันหยุด ซึ่งเมื่อมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็ควรนำไปจ่ายหนี้ก่อน เพื่อให้หลุดจากวงจรดอกเบี้ยบัตรเครดิต
การมีหนี้บัตรเครดิตท่วม หลายใบ ยังไม่ใช่จุดจบในชีวิต และจะไม่ติดเครดิตบูโร เพียงไม่ปล่อยให้ผิดนัดเกิน 90 วัน และรีบวางแผนชำระหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงติดต่อสถาบันการเงิน และจัดระเบียบทางการเงินของตนใหม่ตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคงขึ้น