ทุกวันนี้การจราจรในกรุงเทพถือได้ว่าติดขัดกันมากถึงมากที่สุด สาเหตุก็มาจากหลากหลายไม่ว่าจะเป็นฝนตก ปิดช่องการจราจรเพื่อการก่อสร้าง และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถติดได้มากเช่นกันก็คือ การเฉี่ยวชนกันบนท้องถนนที่บางครั้งเป็นเพียงอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ไม่ได้มีการย้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุให้พ้นทางรถวิ่ง ด้วยเหตุผลเดิมๆ คือ รอประกัน ที่บางครั้งก็มาเร็วบางครั้งก็มาช้า ถึงช้ามาก เรามาดูวิธีที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่อยากเสียเวลากันว่าทำอะไรได้บ้าง
แบบแรกที่สมาคมประกันวินาศภัยไทยสนับสนุนให้เจ้าของรถหันมาใช้วิธีการนี้กันมากขึ้น
เมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันบนท้องถนนที่ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุหนักและเจ้าของรถแต่ละคันสามารถตกลงกันได้ เพื่อช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายรถได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ทำให้การจราจรติดขัด นั่นก็คือ โครงการชนแล้วแยก หรือ Knock to Knock ซึ่งเป็นเรื่องที่มีมานานแล้วแต่เพียงเราที่เป็นเจ้าของรถอาจจะไม่ได้สนใจกันสักเท่าไร
โดยทุกครั้งที่เราได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภทหนึ่ง หรือที่เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่า ประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถยนต์ขนาดสี่ล้อ ยางสี่เส้น น้ำหนักไม่เกิน 4 ตัน หรือมีที่นั่งโดยสารไม่เกิน 20 ที่นั่ง ซึ่งก็คือรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปๆ นั่นเอง เราจะได้รับกรมธรรม์พร้อมด้วยชุดเอกสารชนแล้วแยก ที่จะประกอบด้วย สติ๊กเกอร์สีฟ้าตัว K สำหรับไว้ติดที่กระจกหน้าด้านในของรถ และเอกสารชนแล้วแยก (Knock for Knock Form) สำหรับเก็บติดรถเอาไว้เพื่อใช้เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่สามารถตกลงกันได้
วิธีการใช้งานก็ไม่ยากเลยเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่สามารถตกลงกันได้ว่าใครถูกใครผิด และรถที่มีอุบัติเหตุต่อกันนั้นเป็นรถประกันภัยชั้น 1 เหมือนกัน เราก็สามารถใช้เอกสารชนแล้วแยกกันได้เลย คือ ให้ย้ายรถเข้าข้างทางเพื่อให้พ้นทางกีดขวางการจราจร หลังจากนั้นก็ให้แต่ละฝ่ายใช้เอกสารชนแล้วแยกของตัวเอง นำมากรอกข้อมูลที่มีในแบบฟอร์มให้ครบ พร้อมทั้งลงชื่อทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นแลกเอกสารชนแล้วแยกของแต่ละฝ่าย ตรวจสอบความครบถ้วนของข้อมูลต่อจากนั้นก็สามารถแยกย้ายกันได้ โดยที่ไม่ต้องรอให้ตัวแทนจากบริษัทประกันมาทำเอกสารการเคลมประกันเลย และเมื่อเรามีเวลาว่างเมื่อไรก็ค่อยไปติดต่อกับประกันภัยเพื่อทำเรื่องนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์หรืออู่ที่เราต้องการได้ แต่อย่าลืมดูเงื่อนไขของระยะเวลาด้วยว่าเราจะต้องนำรถไปทำเรื่องเคลมประกันและเข้าซ่อมภายในกี่วันนับจากวันที่มีการแลกเอกสารชนแล้วแยกกันด้วย
ส่วนอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นวิธีที่เพิ่งเริ่มใช้กันมาได้ไม่นาน นั่นก็คือ การใช้เอกสารชนแล้วแยกเหมือนกันแต่เป็นการทำผ่านแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า เคลมดิ หรือ Claim Di
ที่มีหลักการเหมือนกับการใช้เอกสารขนแล้วแยก เพียงแต่เป็นการทำผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท๊บเลตก็ได้ อีกทั้งรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งแอพพลิเคชั่น Claim Di นี้เกิดขึ้นมาจากโครงการ DTAC Accelerate ที่ถือได้ว่าเป็นแอพพลิเครชั่นที่ประสบความสำเร็จโครงการหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสามารถนำไอเดียนี้ไปเสนอกับต่างประเทศและสามารถระดมทุนมาได้ไม่น้อยเลย เพื่อมาพัฒนาและทำการตลาดให้มีการใช้งาน Claim Di กันในวงกว้างมากขึ้น
Claim Di เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการเคลมอุบัติทางรถยนต์ ที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการเรียกเจ้าหน้าที่ของประกันภัยมาทำเอกสารในการเคลมให้ ซึ่งเราสามารถทำได้ทั้งกรณีที่ชนแบบมีคู่กรณีหรือชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ได้ ถ้าเรามีแอพพลิเคชั่นนี้ติดตัวไว้ หากเกิดเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็เพียงและถ้าตกลงกันได้ระหว่างคู่กรณีก็เพียงแต่เอาโทรศัพท์มือถือมาเขย่าระหว่างกันเหมือนเวลาเรา Add Line กับเพื่อน พร้อมกับส่งรูปถ่ายรถยนต์ ณ ตอนที่เกิดเหตุ ก็ถือได้ว่าเราได้แจ้งเหตุเรียบร้อยแล้ว แค่นี้ก็สามารถแยกย้ายกันได้ แต่จริงๆ แล้ว Claim Di ยังมีฟังก์ชั่นในการทำงานอีกหลายอย่าง ไว้จะมา review app Cliam di แบบเต็มๆ อีกครั้ง
เวลามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถ้าตกลงกันได้อย่าลืมเอาใบชนแล้วแยกมาใช้งานกัน หรือจะโหลด Claim Di มาใช้ก็จะช่วยลดเวลาและไม่ทำให้การจราจรติดขัดอีกด้วย