เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมามีข่าวการยึดทรัพย์ทัวร์ศูนย์เหรียญครั้งใหญ่ของไทย หลังจากที่ปัญหาเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญได้เป็นปัญหาที่เกาะกินการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน กวาดล้างอย่างไรก็ไม่หมดสิ้นไปเสียที โดยการจับกุมในครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของหลายหน่วยงาน ตั้งแต่ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร กรมการท่องเที่ยว กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร ตำรวจรถไฟและ ปปง. โดย ปปง. มีมติให้ยึดทรัพย์บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ในข้อหาบ่อนทำลายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกยึดว่ากันว่าสูงถึงกว่าหมื่นล้านบาท สำหรับการยึดทรัพย์ในครั้งนี้ทางการแจ้งว่าถือว่าเป็นการทำเพื่อปกป้องรักษาธุรกิจภาคการท่องเที่ยวของไทยเอาไว้ และจะกระทำต่อผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น
ทัวร์ศูนย์เหรียญคืออะไร ทำไมถึงได้เป็นบ่อนทำลายการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทย
เหตุผลที่เรียกว่าทัวร์ศูนย์เหรียญก็เกิดจากการที่บริษัททัวร์ในประเทศจีนนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย และส่งต่อนักท่องเที่ยวจีนให้กับบริษัททัวร์ไทย โดยที่บริษัททัวร์ของไทยไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ส่วนบริษัททัวร์จีนทำหน้าที่จัดหานักท่องเที่ยว โดยคิดเงินเฉพาะค่าเครื่องบินเดินทางพร้อมบวกกำไรไปในตัว อาศัยให้ได้ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนมาก ๆ เพื่อให้มีจำนวนเต็มลำของเครื่องบิน ทัวร์จีนส่วนใหญ่มักเลือกใช้บริการเที่ยวบินแบบเหมาลำ เมื่อส่งต่อนักท่องเที่ยวให้บริษัททัวร์ไทยก็เป็นอันเสร็จหน้าที่ นักท่องเที่ยวจีนเห็นว่าค่าแพ็กเกจท่องเที่ยวของไทยนั้นมีราคาถูกมาก จึงตัดสินใจเลือกซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์นั้นกันเป็นจำนวนมาก
บริษัททัวร์ไทยก็เท่ากับว่าได้นักท่องเที่ยวจีนมาจำนวนหนึ่งในมือ โดยที่ไม่ได้เงินสักบาทเดียว แต่มีภาระค่าใช้จ่ายที่รออยู่คือค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหารและค่ารถบัส สิ่งที่บริษัททัวร์จะต้องทำเพื่อให้มีกำไรจากกลุ่มทัวร์คนจีนก็คือจะต้องหารายได้จากนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด จึงเป็นบ่อเกิดของการพานักท่องเที่ยวไปตระเวนซื้อของตามร้านค้าในเครือที่บริษัททัวร์มีดีลอยู่ เช่น ร้านจิวเวลรี่ ร้านสมุนไพรยาจีน ร้านขายรังนก รวมไปถึงพาไปดูการแสดงโชว์ต่าง ๆ พวกโชว์ลามก บริษัททัวร์จะมีรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์จากค่าคอมมิชชั่น 30% ของยอดซื้อของของนักท่องเที่ยว ไกด์ที่พาไปจะได้ 10% หัวหน้าไกด์ได้ 5% สรุปคนที่ต้องรับเคราะห์ในการซื้อของราคาแพงก็หนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวจีน
บริษัททัวร์จีนต่อมาได้เริ่มรุกหนักไม่เพียงแค่ส่งหัวนักท่องเที่ยวจีนให้เท่านั้น เมื่อเห็นช่องทางในการหากำไรจากนักท่องเที่ยวในไทยได้ ก็บีบผู้ประกอบการไทยให้เปิดทางให้เข้าร่วมหุ้นด้วย หากไม่ยอมก็ขู่ว่าจะส่งยอดนักท่องเที่ยวให้รายอื่น ผู้ประกอบการไทยก็เท่ากับอยู่ในภาวะจำยอม ทั้งที่ภูเก็ตและพัทยาโดนกันถ้วนหน้า
หากนักท่องเที่ยวจีนซื้อของไม่ได้ตามเป้า ก็อาจมีการโดนขู่กรรโชก มีตั้งแต่วนรถไม่พาเข้าที่พัก ไม่ให้ทานอาหาร จอดรถบัสปิดแอร์ ถึงขั้นคว้าปืนมาขู่หรือทำร้ายร่างกายกันก็มี สุดท้ายถ้าบริษัททัวร์เห็นว่าไม่สามารถทำกำไรจากลูกค้ากลุ่มนี้ได้จริง บางคนก็ทิ้งลูกทัวร์ไปเลยก็มีเหมือนกัน นักท่องเที่ยวจีนที่มาส่วนมากก็พูดภาษาอื่นไม่ได้จะสื่อสารอะไรกับใครก็ยาก โดยมากเป็นคนที่เพิ่งมาเที่ยวไทยเป็นครั้งแรก ก็มาเจอถูกหลอกแบบนี้ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันแถมไม่มีความประทับใจเสียเลยด้วยซ้ำไป ส่งผลกับภาพพจน์การท่องเที่ยวของไทยอย่างมหาศาล
สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องการมาเที่ยวไทยก็เพราะเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างจากประเทศจีน คนจีนชอบไปวัดทำบุญ ชอบเที่ยวชมโบราณสถาน โบราณวัตถุของไทยที่มีประวัติศาสตร์สืบทอดมายาวนาน คนจีนชอบท่องเที่ยวทะเลไทย นิยมชมชอบอาหารทะเลเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาเห็น ไม่ใช่การถูกพาตระเวนไปซื้อของแทบจะตลอดเวลา พร้อมกับการดูโชว์วับแวม บางทีเที่ยวดูโชว์ถึงคืนละ 3 รอบการแสดง โดยที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มต่างหากด้วย
ความนิยมในการที่นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยได้เป็นกระแสมาพักใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวเรื่องที่นักท่องเที่ยวจีนมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสม ทั้งเรื่องกิริยาท่าทาง เสียงดังโวยวาย เรื่องการรักษาความสะอาดพื้นที่สาธารณะ รวมถึงเรื่องการขับถ่ายอย่างเหมาะสมทำให้คนไทยก็ดูเอือมกับนักท่องเที่ยวจีนอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อคิดในอีกแง่หนึ่งว่านักท่องเที่ยวจีนมาพร้อมกับรายได้ที่เข้าประเทศ บางครั้งก็ต้องแอบทำเป็นไม่มองหรือมองไม่เห็นกันไปบ้าง อีกอย่างเรื่องพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนนี้เมื่อมีการประชาสัมพันธ์และร่วมมือกับการท่องเที่ยวของจีนก็ถือว่าดีขึ้นมาก
อ่านเพิ่มเติม : นักท่องเที่ยวจีน ยังคงคึกคัก ไม่หวั่นกับเศรษฐกิจโลก
แต่พอมามีเรื่องของทัวร์ศูนย์เหรียญนี้แล้วกลับกลายเป็นว่านักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไม่ได้นำรายได้อะไรเข้าประเทศเลย เงินที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายก็หมุนเวียนอยู่ในมือของนักธุรกิจเพียงแค่ไม่กี่คนที่ต้องเรียกว่าร่วมมือกันเป็นขบวนการในการหลอกนักท่องเที่ยวให้จับจ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศและการท่องเที่ยวของประเทศอย่างแท้จริง เพราะในสายตาของนักท่องเที่ยวก็จะมองประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ราคาถูกและไม่มีคุณภาพ
เมื่อได้เห็นข่าวการยึดทรัพย์บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาว่ารัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ เริ่มเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ โดยได้ประสานงานและร่วมมือกันทุกฝ่าย ช่วงกว่าเดือนที่ผ่านมาเราจะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนลดลง หากไปแถวหน้าวัดพระแก้วจะเห็นได้ชัด แน่นอนว่าการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องแบบนี้ก็จะมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงแรก ๆ แต่ในระยะยาวแล้วถ้าเราช่วยกันทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ คนให้บริการท่องเที่ยวก็มีคุณภาพ ก็เชื่อมั่นได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างแน่นอน เรียกว่าขอเน้นคุณภาพดีกว่าปริมาณ
อ้างอิงข้อมูล