เมื่อพูดถึงความมั่นคงในชีวิต แน่นอนว่าเราก็มักจะนึกถึงสิ่งต่างๆที่จะช่วยให้อนาคตของเรามีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นบ้านสักหลังหรือที่พักอาศัยสักที่ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบกายที่คอยดูแลเราเมื่อยามแก่หรือยามเจ็บป่วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆที่จะช่วยให้เรามีความมั่นคงก็ล้วนมาจากเงิน โดยยิ่งเรามีเงินมากเท่าไหร่ ความมั่นคงในชีวิตของเราก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในบางครั้งการมีเงินไม่ว่าจะเป็นทั้งเงินเก็บหรือเงินลงทุนเยอะ ก็ไม่ได้หมายว่าชีวิตจะมีความมั่นคงมากที่สุดเสมอไป
การเก็บเงินเพื่อความมั่นคงในชีวิตเป็นสิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆคนให้ความสำคัญอย่างมากเลยล่ะ แต่จะเริ่มเก็บเงินช้าหรือเร็วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับที่ตัวบุคคลเองว่าจะเริ่มเก็บเงินตอนไหน ใช้วิธีอะไร เลือกแหล่งลงทุนแบบไหนเพื่อที่จะให้ชีวิตของตัวเองมีความมั่นคงมากที่สุด เพื่อรองรับสิ่งที่ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้นกับอนาคตของเราให้มากที่สุด หากเราเลือกที่จะละเลยและมองข้ามเรื่องของอนาคต แน่นอนเหมือนไหร่ก็ตามที่เกิดเรื่องแย่ๆไม่ว่าจะเป็นรถชน ป่วย หรืออุบัติเหตุต่างๆ จะกระทบกับเงินในกระเป๋าอย่างมากเลยล่ะ และในบางครั้งก็อาจจะทำให้สภาพทางการเงินที่บ้านของเรา ถึงกับล้มและฟื้นตัวยากอย่างมากเลยนะ เพราะเหตุนี้จึงทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะทำประกันให้กับตัวเองเพื่อความมั่นคงในอนาคต
ประกันเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนล้วนให้ความสำคัญอย่างมากเป็นอันดับต้นๆนะ เพราะเรื่องของอนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นอะไรกับเรา ส่งผลกระทบกับเราได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะในเรื่องของอุบัติเหตุที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะทำให้เราเสียเงินไปกับค่าซ่อม ไปกับค่ารักษาพยาบาลเสมอๆ ซึ่งในบางครั้งจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปกับค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลและค่าอื่นๆนั้น ก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่ใช่น้อยๆเลยล่ะ ยิ่งใครที่ป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วต้องนอนหลายๆคืนด้วยแล้ว เมื่อถึงคราวต้องออกจากโรงพยาบาลก็อาจจะหน้ามืดกับค่ารักษาพยาบาล ซึ่งจะดีกว่าหรือเปล่าล่ะถ้าให้ประกันเป็นคนจ่ายให้
ในการใช้จ่ายเงินไปกับค่ารักษาพยาบาลหรือค่าซ่อมรถแต่ละครั้ง แน่นอนว่าหมดไม่ใช่น้อยๆในแต่ละครั้ง ซึ่งถ้าหากว่าอาการป่วยหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรง เป็นเรื่องที่เสียหายไม่มาก เราก็สามารถจ่ายได้อย่างสบายกระเป๋า แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาล่ะ แน่นอนว่าก็ต้องหมดเงินไม่น้อยเลย แต่ถ้าหากว่าตัวเราได้ทำประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติและอื่นๆ เราก็สามารถอุ่นใจได้ทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะว่าเราไม่ต้องออกเงินเองในส่วนของค่ารักษาหรือค่าซ่อม
หลายๆคนอาจจะมองข้ามการทำประกันเพราะว่าการทำประกันต้องจ่ายเงินทุกเดือนๆและมองว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากลองวิเคราะห์ดูดีๆแล้ว ประกันเป็นสิ่งที่มีความคุ้มค่าอย่างมากเลยล่ะ โดยในปัจจุบันนี้ประกันมีอยู่หลากหลายแบบให้เลือกทำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งเมื่อเราทำประกันแล้ว ผลตอบแทนที่ได้จากการทำประกันก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของประกันที่ทำ โดยเฉพาะประกันชีวิตที่จะให้ผลตอบแทนที่มีความคุ้มค่าอย่างมากและคนมักจะเลือกทำทุกครั้ง สามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าง่ายๆให้เห็นดังนี้
ในแต่ละเดือน เราจ่ายค่าเบี้ยประกันคร่าวๆประมาณเดือนละ 1,000 บาท ถ้าจ่ายหนึ่งปีก็จะเป็นเงินปีละ 12,000 บาท แน่นอนว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยล่ะ และเราจะรู้สึกว่าไม่คุ้มด้วยหากต้องรู้ว่าจะต้องเสียเงินจำนวน 12,000 บาททุกๆปีแต่ว่าไม่ได้ใช้ประกันที่ตัวเองทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดอุบัติเหตุแล้วนอนโรงพยาบาลล่ะ ประกันที่เราทำก็พร้อมที่จะออกตัวจ่ายแทนเรามากกว่าที่เราจ่ายเงินให้กับประกันแน่นอน อีกทั้งในปัจจุบันนี้ ประกันชีวิตยังมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก เราสามารถเลือกที่จะทำประกันแบบออมทรัพย์เพื่อที่จะนำเงินที่เราจ่ายค่าประกันไปกลับมาใช้เมื่อครบตามสัญญาที่กำหนด เรียกได้ว่าต่อให้ไม่เป็นอะไรในช่วงระยะเวลาสัญญาประกัน เราก็ไม่เสียเงินฟรีโดยเปล่าประโยชน์
ผลประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการทำประกันชีวิตก็คือการลดหย่อนภาษี ในแต่ละปีเราเสียเงินให้กับค่าภาษีจำนวนไม่น้อยเลยล่ะแล้วจะดีกว่าหรือเปล่าหากเรานำเงินค่าภาษีส่วนหนึ่งไปจ่ายให้กับประกันแทน นับได้ว่าเป็นความคุ้มค่าอย่างมากและก็สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตอย่างมากเช่นกัน ซึ่งประกันชีวิตหรือประกันอื่นๆที่เราทำ จะช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา เต็มไปด้วยความมั่นคงและความอุ่นใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา คนรอบข้างก็ไม่ต้องกังวลในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ไม่มีผลกระทบกับการเงินที่บ้านอีกด้วย แต่ถ้าเราเลือกที่จะละเลย ก็คงต้องระวังไม่น้อยเลยล่ะในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไม่อย่างนั้นแล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็คงได้ลุ้นไม่น้อยเลยล่ะว่าจะเสียค่ารักษาพยาบาลหรือค่าซ่อมเท่าไหร่นะ