เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนใหญ่มักมุ่งหวังไปที่สินค้าหรือบริการ กลุ่มลูกค้า ตลาดที่จะจำหน่าย หรือวิธีการที่จะนำพาให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่มักละเลยก็คือ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการทำธุรกิจ ทั้งๆที่เป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นการเรียนรู้และงดเว้นการกระทำจึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ข้อ ดังนี้
มั่นใจในตัวเองมากเกินไป
Tony Hsieh นักธุรกิจหนึ่งใน Co-Founder และ CEO website Zappos.com กล่าวไว้ว่า อย่าได้ทะนงตน อย่าคุยโตโอ้อวด ขอให้จำไว้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ซึ่งก็น่าจะเป็นความจริง เพราะเราไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในโลกแน่นอน ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เก่งและมีความสามารถมากกว่าเรา ความมั่นใจในการทำอะไรซักอย่าง เป็นสิ่งที่ดี แต่หากมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียได้ อีกทั้งอาจละเลยความเสี่ยงบางอย่างที่ต้องเผชิญ และอาจกลายเป็นคนที่มองเหรียญเพียงด้านเดียวอีกด้วย และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อความมั่นใจมีมากเกินไป คนๆ นั้นก็จะฟังคนรอบตัวน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นของหุ้นส่วน หรือจากลูกน้องน้อยลง จึงทำให้การตัดสินใจเต็มไปด้วย ความคิดประมาณว่า ฉันสิแน่ เธอจะไปรู้อะไร และอาจนำไปสู่ การลงทุนที่ไม่คุ้มค่า หรือการตัดสินใจทางธุรกิจที่นำไปสู่ความล่มจมก็ได้
จ้องกำจัดทุกคนที่ขวางทาง
Helen Keller นักเขียน และนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ชาวอเมริกัน ผู้ที่มีความพิการทั้งหูหนวก ตาบอด ตั้งแต่อายุ 19 เดือนกล่าวไว้ว่า การร่วมทางกับมิตรสหายในที่มืด ยังดีกว่าการเดินทางอย่างเดียวดายในที่แจ้ง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าการมีเพื่อนที่ดีถึงจะอยู่ในความมืดมิดก็ยังดีกว่าการอยู่แบบไม่มีใครเลยถึงแม้ว่าจะสว่างโล่งก็ตาม เพราะความมั่นใจมันต่างกัน การมีคนอื่นอยู่ด้วยมันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนี้ ซุนวู ยังกล่าวในลักษณะคล้ายๆกันว่า วิธีชนะศึกที่ดีที่สุด ก็คือ การชนะโดยไม่ต้องรบ ซึ่งอาจจะเป็น วิธีทางการฑูต หรือวิธีอื่นที่ไม่มีการปะทะ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วน เพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องพยายามอยู่กันด้วยความรัก ทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข อย่าทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งเด็ดขาด ให้เห็นแก่ประโยชน์ของธุรกิจเป็นที่ตั้ง ส่วนการสู้กับบริษัทคู่แข่ง ควรจะทำแบบสร้างสรรค์ด้วยการหา จุดเด่น หรือคุณภาพของสินค้า ที่ดีกว่าไม่ใช่จะต้องทะเลาะ ขายตัดราคา หรือใช้อำนาจบาดใหญ่ทำให้คู่แข่งต้องออกจากตลาดไป แบบนี้อีกหน่อยคุณก็อาจจะโดนธุรกิจที่มีต้นทุนต่ำกว่า ขายตัดราคาและทำให้คุณเจ๊งได้เช่นเดียวกัน
ทำให้ตัวคุณเป็นระบบเสียเอง
Sir Philip Green นักธุรกิจ Founder และ CEO ของ Arcadia Group กล่าวไว้ว่า คุณภาพชีวิตคือทุกสิ่งทุกอย่าง คุณควรผสมผสาน เพื่อหาความลงตัวระหว่าง ครอบครัว หน้าที่การงาน และเพื่อนฝูง ให้ได้ เพราะหากคุณมัวแต่ห่วงธุรกิจ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำคนเดียว ไม่กระจายงานให้ลูกน้องทำเลย เอาทุกสิ่งทุกอย่างมารวมศูนย์ไว้ที่ตัวคุณเองแบบนี้ ก็เหมือนกับคุณเป็นตัวระบบเสียเอง ห้ามป่วย ห้ามพักผ่อน และห้ามตาย ไม่อย่างนั้นธุรกิจเดินไปไม่ได้ สุดท้ายก็อาจส่งผลเสียทั้งตัวธุรกิจ และชีวิตส่วนตัวของคุณด้วย
ประมาท
Andy Grove นักธุรกิจ ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder และ CEO ของบริษัท Intel กล่าวว่า ผู้ที่หวาดวิตกกับอุปสรรคเท่านั้นที่จะอยู่รอด เพราะนักธุรกิจหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้นำตลาด มักจะประมาทคู่แข่งขัน และอาจมองว่า สินค้าของคู่แข่งขันด้อยกว่า ไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ และไม่ใช่คู่ต่อกรของธุรกิจตัวเอง แบบนี้ประวัติศาสตร์การทำธุรกิจ ได้พิสูจน์มาแล้วว่า มันคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการดำเนินธุรกิจ ยกตัวอย่างกรณี เมื่อ Apple เข้ามาสู่ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในปี 1976 บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆในวงการคอมพิวเตอร์ ต่างมองว่าคงไม่มีใครอยากมีคอมพิวเตอร์ไว้ที่บ้านแต่สุดท้าย Apple ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นตลาดที่ใหญ่มาก และทุกคนอยากมีไว้ที่บ้าน ไม่ใช่มีใช้ที่ทำงานเท่านั้น ในที่สุด DEC ที่เคยเป็นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกก็ต้องถึงกับเลิกกิจการไป
ยึดติดกับความสำเร็จเดิม และไม่เรียนรู้สิ่งใหม่
นักธุรกิจ ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder ของบริษัท Union Square Ventures กล่าวว่า เทคนิคทางการตลาด มาแล้วก็ไป จะมีเพียงธุรกิจที่ดีจริงๆ เท่านั้นที่จะคงอยู่ เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างในธุรกิจของคุณ เริ่มต้นจากคุณ และเมื่อสร้างธุรกิจมาได้จนสำเร็จ แต่ว่าทุกสิ่งไม่ได้จบลงเพียงแค่นี้ ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือการรักษาให้อยู่รอดต่อไป ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทำให้นักธุรกิจหลงระเริง และคิดว่าแค่ใช้วิธีเดิมๆ ก็ดีพอแล้ว โดยไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก แบบนี้ธุรกิจก็อาจย่ำแย่ได้ในที่สุด
ทั้ง 5 ข้อล้วนเป็นเหมือนโรคร้ายทั้งสิ้น ดังนั้นในการทำธุรกิจหากหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณรุดหน้าต่อไปได้โดยไม่ติดขัดอีกต่อไป ซึ่งอันดับแรกลองมาตรวจสอบกันก่อนดีกว่า ว่าคุณกำลังมี 5 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นไหม ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ควรรีบแก้ไขปรับปรุงโดยด่วน เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างน่าพอใจยิ่งขึ้น