ใครที่กำลังรู้สึกไม่พอใจสักที อยากได้โน่นนี่ เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง พอได้แล้วก็มีความสุข แต่เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น คุณก็อยากอีก เป็นเรื่องปกติแน่นอนของคนที่มองว่า เงินนั้นสำคัญที่สุด แต่ก็ไม่ผิดนะเพราะด้วยสังคม เศรษฐกิจ มันบีบรัดให้เรากลัวความจน จนเรา เห็นแก่เงิน เห็นเงินเป็นพระเจ้าไปแล้ว ตื่นเช้ามาก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินในขณะที่เราหาเงินมาก็ต้องเจอกับภาระรายจ่ายขึ้นทุกวันจนทำให้ตัวเราปรับเอียงเอนไปกับความโลภไปเรื่อยๆ ซึ่งทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า รากเหง้าแห่งความทุกข์ทั้งปวง มาจากการมีกิเลสความโลภนั้นเกิดขึ้นในใจเรา หลายคนยอมทำความผิดเพราะอยากได้เงิน
ไม่ว่าจะเป็นการลักเล็กขโมยน้อย ไปถึงปล้นร้านทอง ปล้นธนาคารหรือปล้นชาติ ปล้นแผ่นดินก็เรื่องเงิน เรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น เพราะยากจน เพราะรายได้ไม่พอรายจ่าย หรือจะเพราะว่า ไม่รู้จักพอก็ตาม หากถ้าเราพึงคิดถึงเรื่องนี้สักหน่อย ก็คงมองเห็นว่ามันไม่สำคัญอะไรมากเลย
อ่านเพิ่มเติม >> บุคลิกด้านการเงิน ของคุณเป็นแบบไหน ? <<
คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเงินมากเกินไปจนลืมนึกถึงคุณค่าที่แท้จริงหรือความงดงามด้านอื่นๆ ในชีวิต
-
เงิน คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคุณ
ประโยคนี้ได้ยินบ่อยๆ แต่ระดับการยอมรับได้ของแต่ละคนคงจะไม่เท่ากันเป็นแน่ เมื่อไหร่ที่คุณมีเงินเยอะคุณจะรู้สึกเหนือกว่าใคร รู้สึกว่าฉันวาสนาดีจัง ฉันเป็นคนมีเทรนด์ได้ซื้อของตามที่ใจต้องการ กิน เที่ยว แบบไม่ต้องคิดไร ซื้ออย่างเดียว แน่ละ เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่า ตัวเองเหนือกว่าเมื่อไหร่ คุณก็จะตัดสินคนได้เร็วเมื่อนั้น ก็หมายถึงคุณสามารถที่จะใช้เงิน ฟาดหัวใครต่อใครให้มาเป็นเพื่อนคุณได้ เพียงแค่คุณมีเงิน ในทางกลับกันเพื่อนของคุณก็คิดในแบบที่คุณคิดเช่นกัน นี่แหละที่เรียกว่าแรงดึงดูด คิดอย่างไรได้อย่างนั้น บางคน ยอมที่จะทำงานเป็นเครื่องจักรสำหรับผลิตเงินเพื่อแลกกับกระเป๋าหลักแสน สบายๆงานหนักแค่ไหนไม่เกี่ยงหรือเงินใครหามาก็ช่างเถอะขอให้ฉันได้ในสิ่งที่ต้องการเป็นพอ
2. เงิน ซื้อได้ทุกอย่างแม้แต่ความสุขและทุกข์
ก็ไม่อยากเถียงเรื่องนี้เลย เพราะสมัยนี้ไม่มีเงินทุกข์เห็นๆ เป็นหนี้อีก ทุกข์หนัก แล้วคนมีเงินละคิดยังไงกัน เครียดก็กิน เที่ยว จะทำไรก็ได้ไม่มีใครว่า แม้เป็นความสุขเพียงชั่วคราวก็ตามทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ หลายๆคนยอมที่จะทำอะไรที่ขัดใจตัวเอง เพื่อแลกกับ การมีเพื่อนใหม่ที่รวยกว่า แต่ลืมนึกไปเลยว่า ทุกข์ก็ยังมีอยู่เพราะนั่นอาจจะไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ เป็นเพียงแต่คุณเอาเงินซื้อมันต่างหาก
3. มีเงินมาก เท่ากับ มีความสุขมาก
เรื่องจริงเลยรึเปล่าเนี่ยที่คนยุคนี้คิดถึงเรื่องนี้ เป็นที่เห็นมากมายในสังคมไทย มีเงินมาก การศึกษามากตาม ความสุขมาก ที่สำคัญหน้าตาดีมากด้วยนะ ใช้เงินหมด อยากสวย อยากดัง อยากเด่น อยากรวย อยากมีความสุขเงินทั้งนั้น มันมีความสุขจริงแค่ก้าวขายืนหน้าบ้านก็มีคนเช็ดรองเท้าให้แล้ว เครื่องอำนวยความสะดวกในชีวิตครบครัน รถโก้หรู พูดเรื่องทรัพย์สินเมื่อไหร่รู้สึกปลื้มมีความสุขขึ้นมาทันที
4. ใช้เงินกำหนดค่าของคน
ประเมินค่าของคนจากภายนอก วัดฐานะของคนเพียงสัมผัสทั้ง 5 อย่างตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ วัดความเป็นคนกันที่ทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งมองว่ามีแน่นอนในใจของคน แต่จะมากหรือน้อยก็เท่ากับการรับรู้ ของแต่ละคน ซึ่งตัวนี้จะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจากการเลี้ยงดู หรือเป็นคนเห็นแก่ตัวนั่นเอง พอรวยดีทุกอย่างหน้าตาดี ทำงานเก่ง ดูดีไปหมด
5. เห็นเงินมากกว่ารักที่มีต่อกัน
ถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถดูแลความรักกันได้ หลายคนพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะดูแลความรักให้ดีที่สุด แต่ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องเลือกความอยู่รอดหรือชื่อเสียง ฉันไม่ยอมมาลำบากเพื่อแลกกับความรักเด็ดขาด ที่แม้จะไม่ได้รักกับคนที่มีเงินก็ตามเพื่อความสุขสบายในชีวิต มีชื่อเสียง มีเสื้อผ้าของแบรนด์เนม มีเงินให้ใช้ฉันยอม เชื่อว่าข้อนี้เป็นข้อคิดเลยของคนสมัยนี้หลายคนต้องเลิกลากันไปเพราะความลำบากแล้วความรักจะมีประโยชน์อะไร มันไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำแต่ฉันอยู่ได้แค่มีเงิน