คนรวยมีเงินมากมายก็เพราะการบริหารการเงินที่เก่ง และเป็นระบบที่มาจากความคิด ที่เห็นเงินเป็นสิ่งที่มีชีวิต เขาสามารถเลี้ยงดูเงินของเขาได้ เพื่อไม่ให้เงินของเขาตาย หรือหมดไป ด้วยการบริหารเงินที่เป็นนิสัยติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็กอยู่ ด้วยการอบรม สั่งสอนของบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ที่เลี้ยงดู คุณเองก็อยากเป็นคนรวยใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นเรามาดูกันว่าคนรวยเขามีวิธีการบริหารการเงินของเขาอย่างไร และเราจะสามารถเอามาเป็นแบบอย่างได้บ้างหรือเปล่า
การ บริหารเงินของคนรวย ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบว่าเขาบริหารกันอย่างไร แต่ที่แน่ๆ นั้นคนจนไม่ทราบเคล็ดลับด้านนี้อย่างแน่นอน นี่คือความแตกต่างของการบริหารเงิน
การบริหารเงินก็คือการใช้เงินให้เป็นนั้นเอง แต่เป็นเงินที่เราทำงานหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา หรืออาจจะมาจากการทำธุรกิจต่างๆ ที่เราทำแล้วได้กำไรมา นำมาบริหารอีกต่อหนึ่งให้มีเงินจำนวนเพิ่มมากขึ้นมาอีก ซึ่งการบริหารเงินไม่มีการสอนที่โรงเรียนต้องหาความรู้กันเอง แต่ที่สำคัญต้องมาจากการเลี้ยงดู สั่งสอน โดยบิดา มารดา ผู้ปรกครอง และคนที่เลี้ยงดูเด็กนั้น จนเรียกว่าติดตัวเด็กนั้นมาจนโตเป็นผู้ใหญ่ การบริหารเงินที่ว่าจะไม่เน้นที่การทำงานหาเงิน แต่เป็นการใช้ให้เงินทำงานแทนเรา แม้ว่าเงินของเราจะมีจำนวนน้อยก็ตาม แต่คนรวยสามารถบริหารเงินที่มีจำนวนน้อยให้เป็นจำนวนมากได้ด้วยสมองของคนรวย
เราคงสงสัยว่าเขาทำได้อย่างไร ในเงินจำนวนน้อย มันสามารถบริหารได้ด้วยหรือ ความคิดอย่างนี้คนรวยเขาทำได้ ถ้าเงินจำนวนเงินทำก็ทำได้ แต่ก็ยากกว่าเงินจำนวนมากแน่นอน
แต่เราลองมาคิดซิว่าถ้าคนรวยทำได้ก็หมายความว่าเขามีความสามารถกว่าคนทั่วไป ก็คนรวยทำได้ เงินจำนวนนั้นที่บอกว่าจำนวนน้อยมันจะมากขึ้นมา แล้วคนรวยก็จะบริหารต่อไปเรื่อยๆ จนเงินก็มากขึ้นทวีคูณ นี่ละที่คนรวยเขาแตกต่างจากความคิดของคนจน เพราะเขาเห็นค่าของเงินไม่ว่าจะมีเท่าใดก็ตาม เงินจึงเป็นสิ่งที่คนรวยเขาจ้องมองด้วยความมีค่า เพราะเงินจะมาทำงานแทนเรา เราไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อยแล้ว ยิ่งมีเงินมากเงินจะช่วยกันทำงานให้เราได้มากขึ้นนั้นเอง นี่คือความวิเศษของเงินที่ไม่ใช่ใช้สำหรับการซื้อของใช้เท่านั้น แต่เงินมีพลังอำนาจพิเศษที่คนรวยเท่านั้นที่เขาทราบว่ามีพลังที่จะทำให้เขามีอิสรภาพทางการเงิน การมีอิสรภาพทางการเงินต้องเริ่มต้นด้วยการมีจุดมุ่งหมายทางการเงินด้วยถึงจะทำได้ เพราะถ้าไม่มีเป้าหมายทางการเงินเราก็จะวางแผนทางการเงินไม่ได้ เพราะเราจะวางอย่างไรได้เนื่องจากยังไม่ได้กำหนดจุดหมายทางการเงิน แต่คนรวยมีเป้าหมายทุกคน สำหรับคนที่ไม่มีเป้าหมายทางการเงินก็ค่อนข้างที่จะไม่ปลอดภัยในเรื่องทางเงิน เพราะคงจะใช้เงินไปวันๆ ไม่มีจุดหมายที่แน่นอน เรียกว่าไม่ชอบเก็บเงิน หรือไม่สนใจการออมเงิน ซึงเป็นขั้นตอนที่จะไปบริหารเงิน ถ้าไม่สนใจการเก็บ การออมเงินก็ไม่มีวันที่จะได้บริหารเงินอย่างแน่นอนเพราะว่าเงินที่จะมาบริหารจะไม่มีให้บริหาร การออมเงินจึงสำคัญอย่างมาก เป็นการหวงแหนเงินของเราไม่ให้ไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เป็นการเห็นคุณค่าของเงิน แต่คนรวยเห็นทุกอย่างที่เรามองไม่เห็น และเห็นละเอียดกว่าเราอย่างมาก คนรวยถึงได้ออมเงินเก่งกว่าเราอย่างมาก
อ่านเพิ่มเติม : จริงหรือไม่ ? ถ้า คบคนรวย แล้วจะรวยไปด้วย
ถ้าเราอยากออมเงินให้เก่งเหมือนคนรวยนั้น ต้องมีวินัยในการออมเงิน เรื่องวินัยในการออมเงินเป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก แต้ถ้ามาตอนเป็นผู้ใหญ่นั้นต้องฝึกให้รู้จักคุณค่าของเงิน การออมเงิน
เพราะสองสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานที่ทำให้มีวินัยขึ้นได้อย่างยิ่ง ด้วยเหตุด้วยผลที่เราทราบว่าเป็นประโยชน์ จะทำให้เราเห็นว่าเงินมีชีวิตถ้าเราเลี้ยงดูเงินดีๆ ก็จะทำให้มีเงินเพิ่มขึ้น และเราก็ตามติดตามเงินของเรา ด้วยการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของการใช้จ่ายเงินของเราทั้งหมด รวมไปถึงการรับเงินมาจากการมีเงินเดือนของเรา การมีรายได้จากงานพิเศษที่เราทำต่างหากจากงานประจำ มีรายได้เท่าใดก็ต้องนำมารวมด้วย เรียกว่ารวมรายรับหักด้วยรายจ่ายเหลือเท่าไรก็เป็นเงินออมที่เป็นจำนวนหนึ่งในแต่ละเดือน ทำทุกเดือน ทำเป็นปี หลายๆ ปี เมื่อรวมกันแล้วก็จะมีมากพอสำหรับไปลงทุน โดยให้เงินทำงานต่อ แล้วเราก็จะมีอิสรภาพทางการเงิน
คนที่บริหารเงินเก่งๆ ก็จะมีเงินมากมายอย่างคนรวย การบริหารเงินต้องทำตั้งแต่เงินจำนวนน้อย จะทำให้เงินนั้นมีมากขึ้นมาด้วยการบริหารเงินที่เป็นระบบความคิดของผู้ที่มีนิสัยเห็นคุณค่าของเงิน และท่านก็จะสามารถเป็นคนเก่งในการบริหารเงินเหมือนคนรวยได้ เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มบริหารเงินให้เป็น เพื่อการก้าวหน้าสู่การเป็นคนรวยกันเถอะ ถึงจะไปไม่ถึงเป้าหมายความรวยที่ตั้งไว้ แต่อย่างน้อยเราก็ไม่มีปัญหาทางการเงินอย่างแน่นอน