เพราะในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ข้าวของแพงขึ้นมากมาย ทั้งของกินของใช้ บางคนเงินเดือนก็ถูกปรับลง แต่บางคนก็ยังคงใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายตามเคย เรียกว่าไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะรู้จักหมุนเงินดี หนี้เท่าเดิม แต่ไม่มีการเพิ่มวงเงิน หรืออไรสารพัด ที่ทำให้แต่ละคนต่างก็ต้องเอาตัวรอดและดิ้นรน เพื่อการต่อสู้กับยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่กระนั้นมนมุมมองแห่งความวุ่นวาย ยังมีอีกหลายชีวิต ที่กระเบียดกระเสียรกับการใช้เงินในแต่ละวัน ไม่ถึงหนึ่งร้อยบาทเลยด้วยซ้ำ
ว้าว!! ไม่น่าเชื่อมั้ยล่ะคะ มีแน่นอน เพราะแค่เห็นเหล่าบรรดาสาวกพันทิปที่โพสต์แข่งกัน ใช้เงินวันละ 100 เห็นแล้วก็แทบน้ำตาตก แถมคิดในใจว่า ของแพงขนาดนี้ยังมีคนใช้เงินไม่ถึงร้อยด้วยหรือนี่…ต๊ายยย เค้ากินอารายกันคร๊า….อยากรู้จุงเบย เชื่อว่าคุณผู้อ่านเองก็คงอยากจะทราบเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีแนวทางประหยัดแตกต่างกันออกไป ขออนุญาตยกตัวอย่างมา โดยไม่ต้องเอ่ยชื่อ แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณๆ ได้ไม่มากก็น้อย และอาจจะต้องใช้วิจารณญาณในการตริตรองด้วยเจ้าค่ะ
อ่านเพิ่มเติม >> ใช้เงินให้เป็นในยุค เศรษฐกิจขาลง <<
ประหยัดสูตรที่ 1 แบบไม่รวมค่าเดินทาง คิดตังค์เฉพาะค่ากิน
บางคนมีหอพักอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน เพราะหลังจากที่สมัครงานได้แล้ว ก็อาจจะย้ายหอมาอยู่ใกล้ๆ ออฟฟิศ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามชานเมือง หรือโรงงานที่อยู่ในซอกซอย ซึ่งจะมีหอพักฟรี หรือไม่ก็หอพักราคาถูก ซึ่งหากไม่เดินมาทำงาน ก็อาจจะปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์ ข้าวเช้าอาจจะเลือกเป็น ข้าวเหนียวหมูทอด หรือ หมูปิ้ง 25 บาท หมูสองไม้และข้าวเหนียวหนึ่งห่อ รวม25 บาท ส่วนน้ำ ก็มาจัดการที่ออฟฟิศ มื้อเที่ยง กินข้าวแถวที่ทำงานหากเป็นอาหารตามสั่ง หรืออาหารจานเดียว หรือข้าวราดแกง จะอยู่ในราคา 30 ถึง 50 บาท ส่วนน้ำที่ร้านมีให้ หรือดื่มที่ออฟฟิศได้ มื้อเย็น ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารตามสั่งไม่เกินอีก ประมาณ 30-50 บาท ส่วนน้ำก็มีที่ห้องพัก ไม่ต้องไปนับมัน โดยรวมหากกินเช่นนี้ ก็จะอยู่ที่ ประมาณ ไม่ 80 – 95 บาท เพราะตอนเช้าสามารถเปลี่ยนเป็นนมกล่องรสจืดได้ในราคาไม่เกิน20 ส่วนนมเปรี้ยวขวดกลางก็ไม่ถึง 25 บาทด้วย ดูๆรวมๆแล้วไม่ถึง100 บาทเลยล่ะ โอ้โห!! ทำได้ง่ายขนาดนี้เลย หรือนี่? ซึ่งอาหารก็สามารถเปลี่ยนไปได้ทุกมือ เพียงแต่รู้จักคำนวณราคาซื้อและเลือกร้านที่ไม่แพง
ประหยัดทั้งทีต้องอดทนต่อสิ่งยั่วยุ
แม้หลายคนจะบอกว่าสามารถทำได้จริง กับเงินเพียงแค่ร้อยบาท แต่กระนั้นก็ตามเหอะ เพราะมีขนมใหม่ๆ ฟาสต์ฟูดเจ๋งๆ อาหารญี่ปุ่นแบบโดนๆ เห็นแล้วอยากกินไปหมด แถมยังมีของน่ากินที่เป็นสิ่งยั่วยวนมากมาย ทั้งขนมนมเนย น้ำอัดลม ใครที่แวะเซเว่น ลองไปยืนจ้องขนมที่อยากกินแล้วก็มองให้อิ่ม หุหุ… ทำได้มั้ยน๊อออ… หากอดใจได้ ก็เลือกซื้อของแต่ที่จำเป็นเพราะเมื่อคุณออกมาจากเซเว่น คุณจะออกมามือเปล่าแบบรู้สึกเสียดาย หุหุ แถมยางครั้งเห็นโฆษณาในทีวี อย่าง ของอร่อยๆไม่ว่าจะเป็น s&p เครปเค้ก พิซซ่า ดันกิ้ง ฯลฯ ลองมองไปที่ราคาเลยคร่า เพราะเชื่อว่าแค่เห็นราคาแล้วอาจจะกลืนน้ำลายแทน และให้ท่องเอาไว้ว่า หากซื้อของเหล่านี้ จะสามารถกินข้าวได้อีก 2 มื้อ หรือสองวัน เลยล่ะ นั่นไง เดี๋ยวก็ทำให้คุณซื้อไม่ลง เอาไว้ไปซื้อเวลาวันสำคัญๆ ก็น่าจะได้ ในกรณีที่อยากจะกินจริงๆ จะเรียกว่าตึงเกินไปไหม กับการอยากมีอิสระทางการเงิน ทำให้ต้องงดอะไรหลายๆอย่าง แต่หากทำแล้ว ทำให้คุณเก็บเงินได้ และไม่ทำให้กลายเป็นคนฟุ่มเฟือย ทำแล้วสบายใจก็อยู่แบบพอเพียงก็ได้
ประหยัด สูตรที่ 2 ใช้ตังค์ไม่ถึงร้อยเพราะข้าวเย็นฟรี..
บางคนใช้เงินไม่ถึงร้อย เพียงแค่เริ่มต้นมื้อเช้ากับการดื่มกาแฟแก้วเดียว หากซื้อมาชงเอง ก็ตกเฉลี่ยซองละห้าบาท หรือออฟฟิศ บางแห่งมีกาแฟให้พนักงานฟรี ส่วนมื้อเที่ยงหากเป็นโรงอาหารของที่ทำงาน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2 อย่าง 30 บาท ส่วนมื้อเย็นหากไม่กลับไปกินข้าวบ้าน ก็สามารถซื้ออาหารปากซอย ไม่ว่าจะเป็นแกงถุงละ 20 ข้าวเปล่า 5 บาท หรือจะเพิ่มขนมอีกหน่อย ก็อยู่ที่ราคาไม่ถึง60 บาท แน่นอน รวมๆ ต่อวันแล้ว จะอยู่ที่ค่าใช้จ่ายประมาณไม่เกิน 70 บาท เท่านั้น ยังมีตังค์เหลือกลับไปหยอดกระปุกได้อีกด้วย ยิ่งวันไหนกลับบ้าน มีแม่ หรือแฟนทำกับข้าวให้ทานด้วยแล้ว ไม่อยากบอกว่าเงินจะเหลืออีกเท่าไหร่หุหุ
หาจุดมุ่งหมายและเป้าหมายของการประหยัด
การประหยัดรายจ่ายหรือค่าอาหาร ใครๆก็สามารถจัดการชีวิตได้ เพียงแต่ว่ามันขึ้นอยู่กับคุณทำแล้วฝืนหรือเปล่า เพราะหากฝืนแสดงว่า นี่ไม่ใช่ตัวจริงคุณ แต่ก็ต้องดูว่าที่ทำเช่นนั้นเพราะอะไร หากไม่มีเหตุผลก็ไม่ควรทำนาน แต่ถ้าทำเพื่อสำหรับเก็บเงินสำหรับต้องการซื้ออะไรซักอย่าง ก็ตั้งเวลาไว้ว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้กี่เดือน หรือกี่ปี และหากทำได้แล้วจะสามารถเก็บเงินได้เท่าไร จึงจะเรียกว่าพอ
เพราะหากไม่ยอมตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต สักวันก็ต้องใช้เพิ่มขึ้น การหาทางหารายได้เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่ชดเชยการออมเงิน และทำให้เกิดการบริหารเงินที่ดี และควรจะสนุกไปกับมัน อย่าเครียด มาก