ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินคำว่า เน็ตไอดอล โดยเฉพาะคนที่เป็นสาวกใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการสื่อสารเป็นประจำ ทั้งเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ไลน์ หรือช่องทางอื่น ๆ เน็ตไอดอลหมายถึงคนที่เป็นที่ชื่นชอบหรือมีชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตมีคนติดตาม follow หรือตามไลค์เป็นจำนวนมาก ปกติคนที่จะเป็นเน็ตไอดอลได้นั้น จะต้องใช้โซเชียลมีเดียในการอัพเดทเรื่องราวของตนเองอยู่เป็นประจำ อาจเป็นรูปตัวเอง ภาพอาหาร ชีวิตประจำวัน ท่องเที่ยว ออกกำลัง การทำความดี มีทุกรูปแบบจนมีคนชื่นชอบการโพสต์และพากันติดตามทำให้ยอด follow ของเน็ตไอดอลบางคนมากถึงเป็นหมื่นคนก็มี ทั้งที่ไม่เคยพบเจอตัวจริงกัน ไม่ได้เป็นเพื่อนหรือรู้จักกันมาก่อน เน็ตไอดอลส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในหมู่สังคมออนไลน์เท่านั้น ไม่เหมือนกับดารา แต่หากออกมาเดินในโลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่มีใครรู้จักก็ได้
แต่ก็มีเช่นกันที่เน็ตไอดอลบางคนมีชื่อเสียงโด่งดังและสามารถต่อยอดความดังจนสามารถเข้าสู่วงการในโลกแห่งความเป็นจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบโฆษณา เป็นนักร้องหรือเป็นดารา ตัวอย่างเน็ตไอดอลยุคแรก ๆ ที่มีชื่อเสียงในสังคมออนไลน์และกลายมาเป็นดาราหรือนางแบบโฆษณาเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ก็มี บอลลูน พินทุ์สุดา, แตงโม ภัทรธิดา, เบเบ้ ธัญชนก, โฟร์ ศกลรัตน์, และเต้ย จรินทร์พร ทุกคนเริ่มจากการเป็นที่รู้จักมีคนติดตามในโลกออนไลน์จนมีชื่อเสียง และต่างก็ผันตัวเองเข้าสู่วงการและมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันจนถึงปัจจุบัน
แล้วเน็ตไอดอล กับธุรกิจโฆษณา มาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร? ถ้าอยากจ้างเน็ตไอดอลโปรโมทสินค้า มีอัตราค่าจ้างประมาณเท่าไหร่?
ปัจจุบันคนที่เรียกตัวเองว่าเน็ตไอดอลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากความนิยมในการใช้โซเชียลมีเดียหรือสังคมออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยในช่วงระยะหลังมานี้ เทรนด์การอัพรูป อัพชีวิตประจำวัน อัพข้อความขึ้นบนจอกลายเป็นสิ่งปกติที่ผู้คนทำกัน การเป็นเพื่อนกันในสังคมออนไลน์ก็ง่ายและขยายวงออกไปได้กว้างขึ้น ทำให้คนที่เป็นที่สนใจและมียอดติดตามหรือยอดไลค์มาก ๆ กลายเป็นเน็ตไอดอลกันไป
เน็ตไอดอลบางคนมียอดติดตามในอินสตาแกรมเป็นหลักหมื่นหรือบางคนที่ฮอตมาก ๆ ก็เป็นแสนคนเลยทีเดียว ลองนึกดูว่าเมื่อเน็ตไอดอลคนนี้โพสต์รูปหรือข้อความอะไรก็ตาม จะมีคนเป็นหมื่นหรือเป็นแสนคนที่ได้เห็นรูปหรือข้อความนั้น ถือเป็นการสื่อสารที่มีพลังที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ จึงเกิดเป็นธุรกิจคล้ายกับการโฆษณาสินค้าโดยการจ้างเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงมียอดติดตามมาก
ธุรกิจนี้น่าจะเริ่มจากการที่เจ้าของสินค้าติดต่อเพื่อน รุ่นน้องหรือคนรู้จักที่ชอบโพสต์รูปเป็นประจำอยู่แล้ว ให้สินค้าไปใช้แล้วช่วยอัพรูปลงอินสตาแกรมหรือเฟซบุ้คโดยให้ช่วยแท็กชื่อร้านที่ขายสินค้าให้ด้วย บางคนก็ทำให้ฟรีไม่คิดเงิน เพราะถือว่าได้สินค้ามาใช้ฟรีและก็ชอบโพสต์รูปอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ต่อมาเมื่อเจ้าของสินค้าเห็นว่าการทำแบบนี้ช่วยให้สินค้าเป็นที่รู้จักและขายดีขึ้นจากคนที่ติดตามเน็ตไอดอลได้เห็นว่าเน็ตไอดอลคนที่ตนเองชื่นชอบนั้นใช้สินค้าอะไรก็เลยอยากใช้ตามอย่างบ้าง เมื่อธุรกิจโฆษณาแบบนี้เริ่มมีการขยายวงกว้างขึ้น ก็เริ่มมีการคิดเรตค่าจ้างเน็ตไอดอลขึ้นมา โดยค่าจ้างจะคิดตามยอดติดตามของเน็ตไอดอลแต่ละคน หากยอดติดตามมีไม่มากนักเป็นแค่หลักหมื่น ค่าจ้างก็จะไม่แพง แต่หากยอดติดตามสูงมีมากเป็นหลายหมื่นหรือหลักแสน ค่าจ้างก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย
จากเรตค่าจ้างเน็ตไอดอลที่รายงานล่าสุดในรายการข่าวเที่ยงช่อง 3 โดยคุณบัญชา ชุมชัยเวทย์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา
ได้มีการระบุถึงเรตค่าจ้างของเน็ตไอดอลว่า หากเป็นการโพสต์สินค้าอย่างเดียวคิด 10,000 บาท หากให้เน็ตไอดอลถือสินค้าแล้วโพสต์ภาพคิด 20,000 บาท หากทำเป็นคลิปวิดีโอก็จะมีเรต 25,000 บาทขึ้นไปขึ้นอยู่กับความยาวของคลิป ส่วนเรตค่าจ้างต่อการโพสต์หนึ่งครั้งคิดจากผู้ติดตามหรือ followers ก็จะคิดดังนี้
- หากมีผู้ติดตาม 100,000+ คน คิดเรต 35,000+ บาท
- หากผู้ติดตาม 200,000+ คิดเรต 45,000+ บาท
- หากผู้ติดตาม 500,000+ คิดเรต 50,000+ บาท
- หากผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน คิดเรตค่าจ้างสูงถึง 80,000+ บาท
ไม่น่าเชื่อว่าเรตค่าจ้างของเน็ตไอดอลจะสูงถึงขนาดนี้ สามารถชมคลิปย้อนหลังรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ntf63PsfNKI ช่วงนาทีที่ 3.29 – 7.48
อย่างที่บอกข้างต้นว่าเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชอบและมียอดผู้ติดตามเยอะเป็นหลายแสนคน ทุกครั้งที่โพสต์รูปหรือข้อความอะไรก็จะสามารถสื่อสารให้กับเป็นหลายแสนคนได้เข้าถึงพร้อมกัน เป็นพลังของการสื่อสารที่ไม่อาจมองข้ามได้ พลังนี้จึงถูกนำมาใช้ในธุรกิจโฆษณาสินค้าในอินเทอร์เน็ตและส่งผลให้ค่าจ้างของเน็ตไอดอลสูงได้มากถึงขนาดที่รายงานในข่าวของคุณบัญชา ซึ่งเป็นเรตค่าจ้างเน็ตไอดอลที่เป็นดารามีชื่อเสียงมาก่อนแล้ว หากเป็นเน็ตไอดอลที่เป็นคนปกติที่ไม่ใช่ดาราเรตอาจไม่ถึงตามที่รายงานข่าว แต่ก็ถือว่าไม่น้อยเช่นเดียวกันเมื่อเจ้าของสินค้ายอมจ่ายค่าจ้างสูงถึงขนาดนี้ ก็แสดงว่าการใช้เน็ตไอดอลโพสต์หรือรีวิวสินค้าของเรานั้นได้ผลดี ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในอย่างรวดเร็วและมียอดขายเพิ่มมากขึ้นจนคุ้มค่าที่จะจ่ายให้กับเน็ตไอดอลได้
ด้วยความน่าสนใจของเรตค่าจ้างทำให้นักเรียน นักศึกษาหรือผู้ใหญ่บางคนสนใจที่จะทำอาชีพเน็ตไอดอลไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม เนื่องจากสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับเราได้ เน็ตไอดอลรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มาก่อนได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ในช่วงแรกเราอาจต้องโพสต์สินค้าให้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายก่อน โดยถือว่าเราได้ใช้สินค้าฟรีไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง เพราะโดยมากเจ้าของสินค้าจะให้สินค้าเลย ไม่ต้องส่งคืน เมื่อทำไปนาน ๆ มียอดติดตามมากขึ้นและมีประสบการณ์ในการรีวิวสินค้าเพิ่มขึ้นก็สามารถเริ่มคิดเรตค่าจ้างได้ เน็ตไอดอลรุ่นพี่ยังแนะนำอีกว่าผู้ที่สนใจอยากเป็นเน็ตไอดอลเพื่อรับรีวิวสินค้าก็ควรมีจรรยาบรรณโดยต้องพูดคุยทำการตกลงกับเจ้าของสินค้าให้ดีถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น รูปที่โพสต์จะทิ้งไว้นานแค่ไหน ไม่ควรรับรีวิวสินค้าที่เป็นประเภทใกล้เคียงกันในเวลาใกล้กัน หากเป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอางหรือครีมควรเลือกพิจารณาที่มี อย. รับประกัน เนื่องจากจะมีผู้ใช้สินค้าตามเรามาก สินค้านั้นก็ควรมีคุณภาพในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ไม่มีที่มาที่ไป ถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมเช่นกัน