คนเราเมื่อเกิดมาบนโลกใบนี้ในยุคสมัยที่แตกต่างกันไป สภาพแวดล้อม การถูกเลี้ยงดูมา และการเติบโตมาในสังคมที่แตกต่างกันย่อมหล่อหลอมให้แต่ละคนมีนิสัยใจคอ บุคลิกภาพ แนวคิด ทัศนคติและแนวทางในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไปด้วย ประเทศตะวันตกได้เริ่มมีแนวคิดในการแบ่งคนที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันออกเป็นรุ่นต่าง ๆ ตามยุคตามสมัยที่แต่ละคนเกิดและเติบโตมา และพยายามทำความเข้าใจกับแนวคิด พฤติกรรมและการใช้ชีวิตของคนในแต่ละรุ่น เพื่อจะได้เข้าใจความแตกต่างและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข การแบ่งรุ่นของคนตามช่วงปีที่เกิดหรือที่เราเรียกว่า Generation นั้น ก็แบ่งออกเป็น 4 รุ่น ด้วยกัน ดังนี้
- Baby Boomer หรือ Gen B คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2507 ปัจจุบันคือคนที่มีอายุ 52-70 ปี
- Generation X หรือ Gen X คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2522 ปัจจุบันคือคนที่มีอายุ 37-51 ปี
- Generation Y หรือ Gen Y คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2523 – 2543 ปัจจุบันคือคนที่มีอายุ 16-36 ปี
- Generation Z หรือ Gen Z คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน
การศึกษาและทำความเข้าใจถึงพฤติกรรม แนวคิด และการใช้ชีวิตของคนในแต่ละรุ่นยังเพื่อเป็นการใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น งานทางด้านทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ การออกแบบสินค้าหรือบริการให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในแต่ละรุ่น ฯลฯ
คนใน Gen Y และ Gen Z ถือเป็น คนรุ่นใหม่ ที่จะกลายเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม มีอิทธิพลต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ จะค่อย ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวัยทำงานที่เป็นพลังขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าต่อไป วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า คน Gen Y และ Gen Z เขามองความรวยกันอย่างไร มองที่ตรงไหนกัน แตกต่างจากคนในรุ่นก่อน ๆ อย่างไรบ้าง
ก่อนที่เราจะรู้ถึงมุมมองของคน Gen Y และ Z ที่มีต่อคำว่ารวย เราอาจต้องเริ่มศึกษาวิเคราะห์แนวคิด นิสัยใจคอ การใช้ชีวิตของคนทั้ง 2 รุ่นนี้ โดยจะวิเคราะห์แบบควบคู่กันไป
คน Gen Y อย่างที่บอกมีอายุตั้งแต่ 16 ปี จนถึง 36 ปี ส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาที่กำลังใกล้จะเรียนจบและก้าวเข้าสู่สังคมของการทำงาน ในขณะที่อีกส่วนหนึ่ง ก็ได้ก้าวเข้ามาสังคมของการทำงานแล้ว และถือเป็นคนรุ่นเล็กที่สุดในบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในขณะนี้ ด้วยความที่คนในรุ่นนี้เกิดและเติบโตมาในยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อมูลข่าวสารและในยุคที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมาร์ทโฟนที่ก้าวล้ำ ทำให้คนในรุ่นนี้เป็นผู้เปิดหูเปิดตาทันโลกทันเหตุการณ์รับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ และหลากหลายตลอดเวลา มีความคิดสร้างสรรค์ เก่งในเรื่องไอทีคอมพิวเตอร์ และเนื่องจากถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อแม่ในรุ่น Gen X ที่ถือว่าอยู่ในกรอบในระเบียบกฎเกณฑ์ เลยเป็นคนไม่ชอบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ รักอิสระ ชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ในเวลาเดียวกัน มีความมั่นใจและมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ชอบโดนสั่ง ชอบเป็นเจ้าของผลงานตัวเอง กล้าแสดงออก ชอบงานที่ท้าทาย ชอบความเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ไม่ชอบงานหนัก ชอบทำงานที่ใช้ความคิด ไม่ใช้ใช้แรงงาน มีความอดทนต่ำ อยากประสบความสำเร็จเร็ว อาจเนื่องจากเห็นความอดทนของรุ่นพ่อแม่ที่อยู่ในรุ่น Gen X แล้วไม่อยากมีชีวิตเหมือนกับพ่อและแม่ ก็เลยอยากมีชีวิตที่สบายและแตกต่างออกไป อยากได้เงินเยอะแบบรวยเร็ว ๆ ไม่ชอบทำงานประจำแบบต้องไปนั่งแช่ในออฟฟิศ หากทำงานที่ไหนแล้วรู้สึกว่าไม่ได้แสดงฝีมือหรือไม่มีผลงานก็พร้อมจะลาออกเปลี่ยนที่ทำงานทันที รอบรู้ทุกเรื่องแม้ในเรื่องการเงินการลงทุน และสามารถตัดสินใจได้ฉับไว กล้าเสี่ยงกว่ารุ่นพ่อแม่ และพร้อมที่จะลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ด้วยนิสัย แนวคิด และการใช้ชีวิตของ Gen Y อย่างที่ว่ามาข้างต้น ทำให้คนรุ่นนี้มีทัศนคติต่อความรวยต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ ที่เชื่อว่ากว่าจะประสบความสำเร็จหรือมีฐานะร่ำรวยต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก ต้องลำบากก่อนถึงจะสบายทีหลัง คตินี้อาจใช้ไม่ได้กับ คนรุ่นใหม่ ตั้งแต่ Gen Y เป็นต้นไป จนถึง Gen Z
คนรุ่นนี้ อยากทำงานแบบสบายและมีชีวิตที่เรียกว่า slow life สามารถเลือกเวลาทำงานได้ ใช้พลังสมองมากกว่าการใช้แรงงาน ไม่มีการทำงานหนักกลับดึก ชีวิตต้องสมดุลระหว่างการทำงานและเวลาส่วนตัว เงินที่หามาได้ก็จะถูกใช้ไปเพื่อหาความสุขให้กับตัวเองด้วย แต่ก็ไม่ใช่ไม่อยากรวย แต่คิดถึงความรวยว่าไม่ใช่ต้องลำบาก เชื่อในวิธีที่จะรวยได้เร็ว อย่างเช่น เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น
หนังสือเกี่ยวกับทางลัดรวยเร็ว ศึกษาเรื่องหุ้น ทำอย่างไรจะมีเงินล้าน จะเป็นที่สนใจกับ คนรุ่นใหม่ นี้ คนรุ่น Gen Y และ Z จะหาความรู้และกล้าเสี่ยง กล้าลงมือทำ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ หากไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็สามารถพูดว่าไม่เป็นไรแล้วเริ่มต้นใหม่ได้ตลอดเวลา คนรุ่น Gen Y จะหางานที่หลากหลายเพื่อสร้างแหล่งรายได้ที่หลากหลาย และชอบทำทุกอย่างผ่านเทคโนโลยี เช่น ทำงานผ่านเน็ท ซื้อของผ่านเน็ท จองตั๋วหนังผ่านเน็ท ฯลฯ
คนในรุ่น Gen Z ที่ก็เป็นเด็กในวัยเรียนและกำลังจะเรียนจบและก้าวเข้ามาสู่สังคมทำงานอย่างเต็มตัวในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า ก็จะมีแนวคิดไม่ต่างจากคนในรุ่น Gen Y มากนัก คือ รักอิสระ และมีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่เพิ่มมาคือเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่จะล้ำยิ่งกว่าคนในรุ่น Gen Y มากขึ้นไปอีก ทุกอย่างจะทำผ่านทางหน้าจอ การเข้าสังคมและการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจะน้อยลง มุมมองต่อความรวยก็จะเหมือนกันคือไม่ได้คิดว่าต้องลำบากเก็บเงินทุกบาท ทุกสตางค์เพื่อให้มีเงินมาก ๆ ใช้ในยามเกษียณ แต่จะเป็น คนรุ่นใหม่ ที่หาเงินและใช้เงินซื้อความสุขให้กับตัวเองไปด้วย พร้อมกับหาความมั่งคั่งให้กับตนเองด้วยลงทุน โดยกล้าเสี่ยงกับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง เพราะอยากรวยเร็ว ๆ นั่นเอง