สภาพัฒน์เผย ประชาชนเริ่มทำบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น แต่ยอดคงค้างชำระเกิน 3 เดือน พุ่งทะยาน 22% ด้าน ส.อ.ท.มึนดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เม.ย.58 ต่ำสุดรอบ 7 เดือน แตะ 86.2 ชี้ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์จ่อปรับลดเป้าเหลือ 8.5 แสนคัน หลังไฟแนนช์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อและหนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นมากกว่าเดิม
ลิงค์ข่าว : http://www.m.ryt9.com/s/tpd/2167802
จากข่าวนี้คงต้องบอกได้ว่าการที่ยอด หนี้เสียบัตรเครดิต มีเพิ่มขึ้นนั้นมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ใช่แต่เฉพาะวินัยทางการเงินของผู้ใช้บัตรเครดิตเองเท่านั้น หากเรามาลองวิเคราะห์กันจากสภาพความเป็นจริงเราจะพบเหตุผลของการที่คนเป็นหนี้บัตรเครดิตและยอดหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นนั้นมาเป็นปัญหาเรื้อรังที่หาทางแก้ได้ยากเพราะ
1.ย้อนหลังไป 15-20 ปีบัตรเครดิตทำได้ง่ายมาก ประชาชนที่มีรายได้น้อยก็เข้าถึงบัตรเครดิตได้ โดยจะเป็นการออกบัตรเครดิตจากกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร กลุ่มนี้จะปล่อยบัตรเครดิตให้กับลูกค้าได้ง่ายมาก โดยยึดฐานจากเงินเดือนลูกค้าที่ทำสินเชื่อเงินผ่อน หากมีประวัติดีจากบัตรผ่อนสินค้าจะอัพเกรดเป็นบัตรเครดิตได้ และหากมีเอกสารรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากที่เคยสมัครไว้ก็จะอัพเกรดวงเงินได้อีกด้วยซึ่งในช่วงนั้นถือว่าเป็นยุคของกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช้ธนาคารที่มีคนอยากทำบัตรเครดิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้กลุ่มธนาคารต้องออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและบังคับการกฎเกณฑ์ในการทำบัตรเครดิตว่าต้องมีเงิน 15,000 บาทขึ้นไป เพราะตอนนั้นมองว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยเหล่านี้ไม่มีวินัยการเงินทำให้มียอดหนี้เสียเพิ่มขึ้น และ กลุ่มสถาบันการเงินเหล่านั้นคิดอัตราดอกเบี้ยแพงเกินจริง ค่าบริการต่างๆแพงเกินกำหนด ทำให้ต้องมีการจัดระเบียบอีกทั้งในยุคนั้นการมีบัตรเครดิตของธนาคารเป็นเรื่องยาก
2.หลังจากมีการจัดระเบียบเรื่องบัตรเครดิตปัญหาหนี้คงค้างของบัตรเครดิตดูจะลดลง ประชาชนมีวินัยเรื่องการผ่อนชำระหนี้บัตร หนี้ผ่อนต่างๆมากขึ้นเพราะพิษดอกเบี้ยของกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารนั้นแพงทำให้หลายๆคนหวาดกลัวจึงอดทนผ่อนกันจนหมดและเลิกใช้บริการของสถาบันการเงินเหล่านั้น และหันมาใช้บริการของธนาคารมากขึ้น ทั้งบัตรเครดิต และสินเชื่อต่างๆ อีกทั้งรูปแบบการให้บริการบัตรเครดิตของธนาคารเปลี่ยนไป มีโปรโมชั่นต่างๆมากมายทั้งผ่อนชำระ และ แลกรางวัลและบางธนาคารบัตรเครดิตทำง่ายขึ้นทำให้ประชาชนที่มีรายได้ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่ทำบัตรเครดิตกันมากขึ้น และสภาพสังคมธุรกิจค้าขายต่างๆนิยมรับบัตรเครดิตทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เพลินกับการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ทำให้แต่ละคนมียอดหนี้สูงขึ้นและกลายเป็นปัญหาในปัจจุบัน
จากการมองจากความเป็นจริงทั้งสองข้อ จะเห็นได้ว่าทั้งสองข้อมีส่วนที่ทำให้ประชาชนกลุ่มคนถือบัตรเครดิตมียอดหนี้สูงขึ้นเพราะค่านิยมของการใช้บัตรเครดิต ไม่ว่าทุกวันนี้ไปที่ไหนจะเห็นแต่คนรูดบัตรเครดิตมากกว่าการจ่ายเงินสด เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิต
ทำให้คนที่ถือบัตรเครดิตใช้จ่ายจนเพลินบางคนที่ไม่มีวินัยเรื่องการเงินรูดกันจนเกินวงเงิน จ่ายจนจ่ายไม่ไหวจนกลายเป็นต้องยอมติดแบล๊คลิสต์ ยอมทิ้งบัตรเครดิต เพราะไม่มีปัญญาจะจ่ายเพราะหากจ่ายไปก็จะไม่มีเงินสดหมุนเวียนสำหรับตัวเองและครอบครัว
ซึ่งเชื่อว่า ณ ตอนนี้หลายๆคนที่ใช้บัตรเครดิตนั้นส่วนหนึ่งก็ยังคงไม่รับรู้ถึงปัญหานี้ ยังใช้จ่ายกันอย่างสนุกเพราะมันสะดวกและดูมีฐานะ แต่อีกหลายๆคนเริ่มตระหนักแล้วว่าการใช้บัตรเครดิตโดยไม่คิดนั้นจะส่งผลอย่างไรกับตัวเองในอนาคต และปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างนั้นเชื่อว่าก็ยังเป็นแบบนี้ต่อไปเพราะปัจจุบันธนาคารต่างๆสนับสนุนให้คนใช้บัตรเครดิตกันมากขึ้น ช่องทางการทำบัตรเครดิตทำได้ง่ายมากขึ้น และภาระแอบแฝงพวกค่าธรรมเนียมต่างๆในการใช้บัตรเครดิต , ประกันชีวิตที่พ่วงกับบัตรเครดิต , หรือ ได้สิทธิสินเชื่อต่างๆของธนาคารที่แถมมาให้จาการทำบัตรเครดิต หรือ ทำสินเชื่ออื่นๆที่มักพ่วงแถมบัตรต่างๆของธนาคาร ทำให้หลายๆคนกลายเป็นคนมีหนี้เกินตัว
อ่านเพิ่มเติม >> แก้ปัญหา หนี้บัตรเครดิต ง่าย ๆ ไม่นานก็หมดหนี้ ! <<
และที่น่าแปลกคือ ไม่มีการควบคุมการพ่วงบริการหรือผลิตภัณฑ์ของธนาคารเหมือนที่เราได้เห็นกระทู้กันบ่อยๆตามบอร์ดเรื่องการเงิน และทางแก้ทีดีที่สุดคือ คนที่ใช้บัตรเครดิตต้องมีวินัยในตัวเองต้องควบคุมการใช้บัตรเพื่อไม่ให้เป็นหนี้จนผ่อนชำระไม่ไหว เพราะธนาคารและสถาบันการเงินเหล่านั้นเขาได้รายได้จากการใช้บัตรของเรา แล้วเขาจะมาเตือนให้เราประหยัดหรือระวังการใช้บัตรทำไมจริงไหมล่ะ เราต้องเตือนตัวเองและจำไว้ว่า มีสติก่อนควักบัตรเครดิตเพื่อชีวิตจะได้ไม่เป็นหนี้