ทางพระท่านว่า สาเหตุแห่งทุกข์ เกิดจากอวิชชา คือความไม่รู้นั่นเอง คนเรามีความมืดบอดทางปัญญา ไม่เข้าใจในธรรมชาติ ทำให้เกิดความหลงและตกอยู่ในวังวนแห่งความโศกเศร้า ความทุกข์เกิดเพราะเราไม่รู้ในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง เราไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับตัวตนของคนอื่น จึงทำให้เราหลงผิดอยู่บ่อยๆ ความผิดหวังทำให้เราเป็นทุกข์ เนื่องมาจาก เราไม่ได้รับการตอบสนองจากสิ่งที่เราคาดหวัง
ในชีวิตประจำวัน มีเรื่องที่ผิดคาดอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเข้าไปใช้บริการอะไรสักอย่างจากหน่วยงานใดๆ เราก็จะมีความคาดหวังกับเรื่องบางเรื่อง หรืออะไรบางอย่างตามที่มีการบอกกล่าว ชักชวน หรือโฆษณากันไว้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นตรงกันข้าม เราย่อมผิดหวัง โกรธ ไม่พอใจ จนทำให้เป็นทุกข์ และอาจเกิดเรื่องบานปลายไปกันใหญ่ขึ้นมาก็ได้
การสอบเข้าเรียน การสอบเข้าทำงาน การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง เรื่องเหล่านี้มักเชื่อมโยงกับการคาดหวัง และมีโอกาสผิดหวังอยู่มากเช่นกัน เพราะมีคนหวังคล้ายๆกันเป็นจำนวนมาก โอกาสที่คนจะสมหวังมีเพียงหยิบมือ ก็จะเกิดเป็นความผิดหวังและความทุกข์ติดตามมาได้ง่าย จะมากน้อยขึ้นกับระดับความคาดหวังว่า หวังไว้สูงมากขนาดไหน ถ้าหวังสูงมากก็จะเสียใจมากมาย บางคนขยันทำงานและคิดว่าเจ้านายจะต้องเห็นดีเห็นชอบ หวังว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่เมื่อผลออกมาแล้วไม่ได้ ก็โวยวายร้องหาความยุติธรรม ซึ่งในความเป็นจริง ในทุกๆสถานที่ย่อมมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเป็นธรรมชาติของสันดานมนุษย์ ผู้ตัดสินซึ่งก็เป็นคนที่ยังตัดกิเลสไม่ขาดเหมือนกัน ย่อมมีการพิจารณา ตัดสินผิดพลาดหรือเอนเอียง จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาของคน
เรื่องที่มักจะผิดหวังกันบ่อยๆอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของความรักและการครองคู่ เริ่มจากเบาที่สุด เรารักเขา เขาไม่รักตอบ ต้องตกอยู่ในสภาพรักเขาข้างเดียว ก็ย่อมรู้สึกผิดหวัง โศกเศร้าเสียใจกันไปพองาม หนักขึ้นมาหน่อยก็เป็นเรื่องของคู่รักที่ตามจีบกันนานนมจนสำเร็จ คบหาเป็นแฟน อยู่มาวันหนึ่งเกิดมีคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนใจ อีกคนก็ผิดหวัง ช้ำรัก อกหัก ร้องไห้ฟูมฟาย กลายเป็นทุกข์ เพราะไม่สมหวังดังคาดคิดจะครองคู่กันจนถึงแต่งงาน หนักขึ้นมาอีกก็คือคู่สามีภรรยาที่คบหากันมาจนแต่งงานมีลูกมีเต้า แรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน อยู่ไปนานๆสันดานเริ่มออก เจ้าชู้ ไม่ซื่อสัตย์ ทำตัวผิดวิสัยไปจากเดิม ก็เริ่มทะเลาะเบาะแว้ง ร้องเรียกหาสัญญาแต่ครั้งก่อนเก่า ด้วยหวังว่าเขาควรจะเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนแปลง พอเขาเปลี่ยนไปจากสิ่งที่เราคาดและหวังไว้ สุดท้ายอาจถึงขั้นเลิกรากัน อันนี้เป็นทุกข์หนัก
ลำพังทุกข์ของคู่ครองทั้งสองฝ่ายไม่พอ ทุกข์ยังตกไปถึงลูกๆ ที่พ่อแม่ต้องหย่าร้างกัน สงสารเด็กๆ ยังเล็ก ต้องมาแบกรับในสิ่งที่พ่อแม่ไม่เข้าใจ มืดบอดทางปัญญา ได้แต่ร้องเรียกหาสิ่งที่ตัวเองคาดหวังและต้องการจากอีกฝ่าย ทำไมไม่เรียนรู้ธรรมชาติของคนที่ปนเปื้อนคราบกิเลส ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ ควรจะยอมรับในตัวตนของอีกฝ่ายจะดีไหม ไม่ต้องไปหวังอะไรจากเขามาก เขาจะทำอะไรเอาที่เขาสบายใจละกัน ฝึกฝนฝึกใจเราให้รู้ความเป็นไปของโลกและมนุษย์จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาคาดหวังอะไรนอกตัว ที่ทำให้เรามีโอกาสผิดหวังและเป็นทุกข์
สรุปคือเมื่อไหร่ที่เราคาดหวัง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดประตูเชื้อเชิญความผิดหวังและความทุกข์เข้ามาในชีวิต เมื่อเราคาดหวัง เราย่อมต้องการให้สิ่งต่างๆเป็นไปตามสิ่งที่เราอยากให้เป็น คืออยากสมหวัง แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา หวังมากก็ทุกข์มาก หวังน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่หวังเลยก็จะไม่ทุกข์ ต่อไปนี้ให้สนใจที่กระบวนการหรือขั้นตอนการกระทำดีกว่า ทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุดตามความสามารถของเรา ผลออกมาเช่นไร ก็ช่าง เพราะผลนั้นส่วนใหญ่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา จะทำการสิ่งใดๆ ขอเพียงไม่คาดหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง ไม่เป็นทุกข์และไม่เสียใจ