ปัจจุบันมีโลกออนไลน์ถือว่ามีความสำคัญต่อผู้คนอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่มุมของการทำธุรกิจ มีนักธุรกิจขนาดย่อยบางคนที่สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตนเองจากการเปิดเพจใน Facebook ที่เป็นสื่อสังคมโซเชียลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก เพียงแค่เพจเดียวแต่กลับสามารถที่จะสร้างรายได้อย่างมหาศาล ในบางรายสามารถที่จะสร้างจากสินค้าเล็ก ๆ เพียงชิ้นเดียว เพียงแต่อาศัยความขยันในการโพสต์ ก็สามารถที่จะสร้างรายได้ในเว็บเพจจนมีรายได้หลักล้านภายในไม่กี่เดือน และเมื่อมีผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจขนาดย่อมแบบนี้ได้ ก็ต้องมีการแชร์ถึงประสบการณ์ที่มีประโยชน์ด้านของการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของตนเองในเว็บไซต์ชื่อดัง เพื่อเป็นการให้ไว้เป็นกรณีศึกษาและยังเป็นการโปรโมทตัวเองไปด้วย
ซึ่งเว็บบอร์ดที่ได้รับความนิยมสูงและมีผู้เข้าใช้มากที่สุดอย่างเว็บไซต์พันทิป (Pantip) ที่มีคนที่สามารถจะประสบความสำเร็จในการทำงานรูปแบบต่าง ๆ มาเขียนลงความสำเร็จของตนเองมากที่สุด
กรณีศึกษา http://pantip.com/topic/33031625 จากผู้ใช้ท่านหนึ่งในเว็บไซต์พันทิพที่ใช้ชื่อ DrD ได้มีการนำเอาประสบการณ์ส่วนตัว แชร์ประสบการณ์ หาเงิน ผ่านการทำธุรกิจขายของออนไลน์ ที่สามารถขายจนได้ยอดที่ 9 แสนบาท ภายในเวลาเพียงแค่ 2 เดือนครึ่ง เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์และการแชร์ต่อความคิดที่มีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้คนอื่น ๆ จนมีคนเข้ามาขอการปักหมุดกระทู้นี้เอาไว้อ่าน
โดยผู้ที่เขียนได้กล่าวถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ไม่เคยทำงานนอกบ้านมาก่อนตั้งแต่เรียนจบ แต่เป็นคนที่มีหัวทางด้านการลงทุน ตั้งแต่การเล่นหุ้นและการลงทุนทางอสังหาริมทรัพย์ และเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการของทางการขายของออนไลน์มานาร่วม 10 ปี โดยลำพังแล้วเป็นเพียงแค่พ่อบ้านที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่มีความรู้ในเรื่องการขายของและการลงทุน จึงนำเอาทั้ง 2 อย่างมารวมกัน แล้วนำเอาความรู้ที่มีมาขายสินค้าชนิดหนึ่ง ที่เป็นสินค้าแบบเพียงชนิดเดียว ที่สามารถจะสร้างยอดขายได้ที่เฉลี่ยวันละ 10,000 – 50,000 บาท ซึ่งการขายของชนิดนี้มีการวางแผนการขายด้วยตัวเองมาก่อน ตั้งแต่การตลาด การจัดตำแหน่งสินค้า ศึกษาคู่แข่งและการวิเคราะห์มาก่อนแล้วทั้งสิ้น เมื่อมั่นใจแล้วถึงจะมีการลงมือทำการตลาดอย่างเต็มที่ และช่องทางการตลาดที่มีการใช้แค่ช่องทางเดียว คือ Facebook ด้วยการโปรโมทงานเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
ผลตอบแทนของการขายสินค้าในชิ้นแรกได้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วัน ด้วยการลงโฆษณาของทาง Facebook แค่เพียง 2 เดือนกว่า ด้วยต้นทุนการโฆษณาที่ไม่ถึง 2 หมื่นบาท ยึดหลักการทำคอนเท้นท์ที่น่าสนใจ และสามารถที่จะถูกใจเหล่าผู้บริโภคอย่างมาก เพื่อให้เกิดเป็นการบอกต่อของสินค้าแบบปากต่อปาก ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวนี้ล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการทางความคิดและการวางแผนมาจากผู้ใช้รายนี้แล้วทั้งสิ้น พร้อมทั้งมีสูตรในการขายที่น่าสนใจจนสามารถที่จะตีออกมาได้เป็นข้อ ๆ ตามลำดับที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ดังนี้
1.การขายสินค้าในราคา 500-1,500 บาท จะซื้อง่ายขายคล่อง ตรงนี้จะเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องของราคา ส่วนจะมีการซื้อมาน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจอีกที
2.หัวใจสำคัญ คือ การให้บริการ เพราะฉะนั้นการส่งของต้องรวดเร็ว ต้องให้ถึงมือลูกค้าภายใน 1-2 วัน และสินค้าจะต้องไม่เกินกล่องวัสดุของไปรษณีย์ และจะต้องไม่ชิ้นใหญ่หรือมีน้ำหนักมากจนเกินไป เพราะจะยิ่งไปเพิ่มภาระให้กับลูกค้าที่จะต้องมาเสียค่าส่งเพิ่ม ซึ่งสินค้าบางอย่างต้องเสียค่าส่งถึง 200 บาท จนอาจจะทำให้ลูกค้าต้องกลับมาคิดอีกมีว่าควรจะซื้อหรือไม่ และการแพ็คของไปให้ลูกค้าต้องมีความระมัดระวัง สินค้าต้องถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์ที่สุด สิ่งเหล่านี้ถ้าทำได้จะทำให้ลูกค้าที่อาจจะแค่สั่งมาทดลองดูก่อน กลายมาเป็นลูกค้าประจำแล้วบอกต่อได้อีกด้วย
3.รูปแบบสินค้า re-order ได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี เพื่อที่จะเป็นวิธีการแบบสินค้าเก่าขายลูกค้าใหม่ และสินค้าใหม่ขายลูกค้าเก่า ที่ผู้ใช้ท่านนี้ได้เห็นแล้วว่าสูตรสำเร็จอีก 1 ประการและทำให้เกิดความสบายอย่างมาก เพราะหากลูกค้าเก่ามีการสั่งซื้อสินค้ามาทุกเดือน นั่นก็หมายความว่าหลังจาก 1 เดือนที่เริ่มมีการขายของ เดือนถัดไปก็จะสามารถทำให้ออกแรงในการทำงานที่ลดลงไปอีก 20% เพราะมีฐานลูกค้าเก่ามีอยู่แล้ว
4.นำคู่แข่งให้ได้ที่ 1 ก้าว ใส่นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าไป หรือมีการเขียนเองราวให้เข้ากับตัวสินค้าที่ขายอยู่ พร้อมทั้งมีการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพจนคู่แข่งตามไม่ทัน หรือตัวสินค้ามีความน่าเชื่อถือ
5.หาแหล่งผลิตหรือนำเข้าที่ดูว่ายาก คือ การหาแหล่งที่ต้นทุนต่ำกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลาที่นานสักหน่อย เพื่อให้สามารถที่จะตัดสินใจซื้อได้ถูกที่ ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการตัดคู่แข่งออกไปได้อย่างสิ้นเชิง เพราะอะไรที่ได้มาง่าย มีต้นทุนที่ไล่เลี่ยกับคนอื่น ก็มักจะขายได้ยากและมีราคาที่ไม่ต่างกับร้านอื่นมากนัก
นอกจากกนี้ก็อย่าลืมที่จะมีการจัดโปรโมชั่น เพื่อที่จะให้สินค้าดูน่าสนใจ ซึ่งในการหาราคาขายที่ต่ำกว่าท้องตลาดที่ 30% และบวกกับกำไรจากต้นทุนต้องได้ที่ขั้นต่ำ 4.5 เท่า จัดโปรโมชั่นได้แบบที่ส่วนลดต่าง ๆ แล้วก็ยังเหลือกำไรถึง 3 เท่า และถ้ามีการขายส่งก็ยังได้กำไรที่ 1.5-2 เท่าเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม การอ่านกระทู้เหล่านี้ ต้องใช้วิจารณญาณประกอบด้วย เนื่องจากไม่มีผู้รับรองความถูกต้องของข้อมูล สิ่งที่น่าศึกษาคือความคิดเห็นต่าง ๆ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนกันอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ แนวคิดการทำธุรกิจ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องค้นหาความถนัดของตนเอง ประกอบกับทุนที่มีอยู่ รวมถึงการลงมือทำและปรับปรุงไปเรื่อย ๆ อย่าได้หวังความสำเร็จแบบทันใจ หรือคิดว่าเราจะต้องเหมือนเขา การอ่านกระทู้ลักษณะนี้ ก็เพื่อเป็นกรณีศึกษาและต้องมองให้ครบทุกด้าน และมองหาเทคนิคความรู้ที่จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ต่อไป