กระแสออนไลน์นับวันยิ่งเพิ่มความนิยมเป็นอย่างมาก จากที่เริ่มฮิตในกลุ่มของวัยรุ่นวัยเรียน ตอนนี้ก็เรียกว่า โซเชียลมีเดีย ได้เข้ามามีอิทธิพลกับคนกับทุกเพศทุกวัยไปแล้ว แม้แต่วัยผู้ใหญ่ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป ก็เริ่มติดโซเชียล อาจจะเป็นเพราะว่าสังคมได้เป็นแปลงเป็นยุคติจิตอลไปเกือบจะทั้งหมดแล้ว การติดต่อสื่อสารต่างๆ ล้วนผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Facebook/Line เป็นต้น
การที่ผู้คนเริ่มเข้าถึงช่องทางสื่อมีเดียต่างๆนั้น จะเรียกได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการธุรกิจทั้งที่เป็นรายใหม่เพิ่งเริ่มต้น หรือทั้งที่ทำมาก่อนนานแล้ว กระแสของโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางการตลาดที่นับว่ามีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าใครๆก็ให้ความสนใจเพราะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบจากในอดีต ถ้าต้องการหาซื้อสินค้าสักชิ้นต้องไปซื้อถึงที่แหล่งจำหน่าย ซึ่งหลายคนก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทางที่ไม่สะดวกสบาย และค่อนข้างที่จะลำบากในการซื้อหาสินค้าบางประเภท แต่เมื่อทุกอย่างสามารถขายได้ในโลกออนไลน์ ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้และสามารถหาได้ง่ายๆเพียงแค่กดคำค้นหาลงไป แล้วรายละเอียดสินค้าต่างๆก็จะแสดงขึ้นมาให้เห็น ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ แถมยังสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของเราได้มากขึ้น
ฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังจะทำธุรกิจออนไลน์หรือขายสินค้าออนไลน์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ต้องกลับมานั่งคิดแล้วว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าขายดิบขายดีทำกำไรให้เรามากที่สุด วันนี้เราก็ได้รวบรวมเอาเคล็ดลับต่างๆ วิธีรวยง่ายๆด้วยการขายสินค้าออนไลน์ มาฝากกันค่ะ
แน่นอนว่าตลาดออนไลน์นั้นนอกจากจะเป็นที่สนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นแหล่งกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มของผู้ประกอบการด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็น SMEs ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ฉะนั้นเมื่อตลาดมีขนาดที่กว้างขึ้น คู่แข่งแน่นอนว่าต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะการทำธุรกิจออนไลน์นั้นลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับการทำธุรกิจในแบบอื่นๆที่ต้องใช้ต้นทุนสูง ต้องมีในเรื่องของการเช่าซื้อสถานที่ในการจัดจำหน่าย เป็นต้น ในเมื่อส่วนแบ่งในตลาดมีมากขึ้น การที่จะก้าวให้ไปถึงขั้นประสบความสำเร็จและร่ำรวยผลกำไรจากการขายสินค้านั้น เราก็ต้องมีจุดแข็งของเราเอง อย่างเช่น
1.สินค้าของเราเจ๋งพอหรือไม่ ?
คำว่า เจ๋ง ณ ที่นี้ ไม่ได้อยู่ที่ความแปลกใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกค้าต้องการแบบไหน ? นี่จึงเป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์กันเยอะพอสมควร อย่างเช่น ถ้าเราจะทำแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิง เราออกแบบเอง และให้โรงงานรับไปตัดเย็บตามแบบที่เราวางไว้ เราก็ต้องมาศึกษาความต้องการของลูกค้าก่อนอันดับแรกว่า ชอบสไตล์ไหน เราอาจจะอิงจากฤดูกาลด้วย ดูเนื้อผ้าที่เหมาะสม คำนึงถึงจุดเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น เรื่องของขนาดและรูปร่าง สำคัญมาก เพราะลูกค้าย่อมต้องการที่จะซื้อหาเสื้อผ้านอกจากจะต้องรูปแบบที่สวยงามแล้ว ยังต้องมีขนาดไซส์ที่พอดีกับตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเราจะพลาดไม่ได้ ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเลยก็คือ ความมีคุณภาพของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน การผลิตที่ได้คุณภาพ ย่อมเป็นที่ยอมรับของตลาดและเพื่อการจำหน่ายในระยะยาว
2.ระบบการจัดส่งสินค้า
นอกจากจะแข่งกันที่ตัวสินค้าแล้ว บริการที่เกี่ยวกับการจัดส่งสินค้านั้นก็สำคัญ พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้นจะมีความพึงพอใจในบริการที่จัดส่งถึงบ้านอย่างรวดเร็วที่สุด เกิดการซื้อซ้ำกลับมาสั่งซื้อจากร้านนั้นๆอีกรอบ เป็นอีกข้อที่เราไม่ควรพลาด เพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจต่อลูกค้า เมื่อเขาได้รับการบริการอย่างดี มีความประทับใจ ก็มีส่วนที่จะจูงใจให้เกิดการกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง
3.การโฆษณาสินค้า
ขาดไม่ได้อีกเช่นกันค่ะ ยิ่งเป็นสินค้าออนไลน์ ยิ่งต้องมีกลยุทธ์ต่างๆเพิ่มมากขึ้น เน้นย้ำกันมากกับการโฆษณาที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย เพราะหลายคนที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก่า อาจจะเข้าใจว่า การโฆษณาแค่ให้เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก ก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริง ไม่ใช่แบบนั้น ถึงแม้ว่าจะการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากก็จริง แต่ถ้าลูกค้าไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย เขาก็ไม่มีแรงจูงใจในการซื้อ เพราะฉะนั้นจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยว่า คนกลุ่มไหนชอบอะไร ต้องการอะไร ซึ่งช่วงวัยหรือช่วงอายุที่ใกล้เคียงกันนั้น จะเป็นสิ่งที่บอกเราว่า คนวัยนี้จะสนใจสินค้าของเรามากน้อยแค่ไหน อย่างเช่น ถ้าเราขายสินค้าที่เป็นครีมบำรุงผิวพรรณแน่นอนว่า กลุ่มเป้าหมายของเราก็คือกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิง(ส่วนใหญ่) และอายุประมาณ 25-35 ปี ที่มีกำลังซื้อและมีการดูแลผิวพรรณเป็นประจำ การโฆษณาจึงต้องเจาะให้เข้าถึงกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านทางรูปภาพ ข้อความหรือสื่อวิดีโอ ก็ควรเน้นให้เข้าใจง่ายและตอบโจทย์ให้มากที่สุด กระแสการติดแฮชแท็ก #Hashtag ในInstagram/ Facebook/Twitter ก็เป็นอีกช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าให้เข้าถึงตัวลูกค้ามากขึ้น เช่นใน Instagram เวลาที่เราต้องการจะซื้อของสักชิ้น ก็มักจะค้นหาจากแฮชแท็กต่างๆ ในช่องค้นหา และเลือกเลื่อนดูตามลำดับต่างๆที่เราสนใจ ก็จะช่วยให้ร้านของเรา สินค้าของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นเอง
การสร้างเม็ดเงินจากการขายสินค้าออนไลน์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ไม่เชิง เพราะทุกอย่างต้องมีการวิเคราะห์และวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ง่ายๆเลยอย่างน้อยก็ลอง มองย้อนมาที่ตัวเราเองว่า ถ้าเราจะซื้อสินค้าออนไลน์สักชิ้นนั้น เราจะต้องพิจารณาจากส่วนไหนบ้าง หาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ ทดลองทำ และดูผลเป็นระยะ การตอบรับดีแค่ไหน ถ้าไม่ดี เรามีปัญหาหรือบกพร่องในเรื่องใดบ้าง เรื่องคุณภาพหรือการโฆษณาที่ยังไม่ตรงจุด หรือบริการจากทางร้านไม่เป็นที่ประทับใจ เราจะแก้ไขอย่างไร ? เพื่อกระตุ้นยอดขายนั้นๆ ให้ดีขึ้นมาได้ ฝากกันไว้คิดกันสักเล็กน้อยนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค้าขายร่ำรวยเจริญๆกันถ้วนหน้าจ้า.