ทุกๆ ปลายปีอย่างนี้ เรามักจะได้เห็นทุกวงการจัดอันดับต่างๆ ที่น่าสนใจ ล่าสุดวารสารการเงินธนาคารร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้จัดอันดับ เศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2558 โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศ ที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2558 จำนวน 6,712 ราย ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นแห่งปี 2558 ก็ยังคงเป็น “หมอเสริฐ” นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ครองแชมป์รักษาบัลลังก์เศรษฐีหุ้นไทยได้อีกเป็นปีที่ 3 ซึ่งในปีนี้หมอเสริฐถือครองหุ้นรวมมูลค่า 62,365.18 ล้านบาท รวยขึ้นจากปีที่แล้ว 4,455.70 ล้านบาท หรือ 7.69%
นอกเหนือจากหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่หมอเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 รวมมูลค่า 54,777.21 ล้านบาท และหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช มูลค่า 42.46 ล้านบาทแล้ว ปีนี้หมอเสริฐยังรวยขึ้นจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ด้วยมูลค่าการถือหุ้น 7,545.52 ล้านบาท
และจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นี้เอง จึงทำให้ตระกูลปราสาททองโอสถได้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์เป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยสร้างสถิติความมั่งคั่งสูงสุดถึง 88,086.34 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 22,771.37 ล้านบาท หรือ 34.86% ส่งผลให้ตระกูลจิราธิวัฒน์ แชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 2 ปีซ้อน หล่นไปอยู่อันดับ 2 โดยปริยาย ด้วยการถือครองหุ้นในตระกูล 44 คน รวมกันทั้งสิ้น 58,548.92 ล้านบาท
ซึ่งไม่นานมานี้นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ได้รับคัดเลือกให้เป็น THE TOP 100 EXECUTIVES OF THE YEAR 2015 ด้วยการทำงานที่มีหลักการ วางแผนงานอย่างรอบคอบ ถูกต้องรัดกุม ถูกวิธี โดยยึดทัศนคติที่ว่า “การทำในสิ่งที่เรารู้ เราถนัด” จึงทำให้หมอเสริฐประสบความสำเร็จ และต่อยอดธุรกิจได้อย่างงดงามมาจนถึงทุกวันนี้
นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ จบการศึกษาวิชาชีพแพทย์ แต่หันมาทำธุรกิจด้านวิศวกรรมก่อสร้าง โดยรับงานในสนามบินอู่ตะเภาเป็นโครงการแรก และต่อมาก็ได้ขยายธุรกิจขนส่งชิปปิ้งครบวงจร ทั้งรถบรรทุก เรือขนส่ง และเครื่องบินให้เช่า จนพัฒนามาเป็นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ในเวลาต่อมา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของสายการบินบางกอกแอร์เวย์นั่นเอง
ในระยะแรกของการบริหารสายการบิน หมอเสริฐต้องฟันฝ่าอุปสรรคการแข่งขันในธุรกิจนี้อย่างมหาศาล จึงทำให้ท่านต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนเป้าหมายลูกค้า และการบริการให้แตกต่าง โดยปรับเป็นสายการบินบูติกแอร์ไลน์ที่บินในระยะทางไม่ไกล ด้วยราคาต่ำ และการบริการที่เป็นเลิศ ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชมและไว้วางใจจากลูกค้าหันมาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง จนมีการบอกต่อถึงความประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากธุรกิจด้านสายการบินแล้ว หมอเสริฐยังได้บุกเบิกธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ประสบความสำเร็จ ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการรักษาโรคหัวใจ จนเป็นที่ยอมรับของคนไข้ตลอดมา แต่ท่านก็ยังไม่หยุดยั้งที่จะขยับขยายธุรกิจด้านการแพทย์ หมอเสริฐยังได้ซื้อหุ้นโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ทั้งกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล รวมถึงมีส่วนร่วมในการบริหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลกรุงธน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรงพยาบาลเอกอุดร
ธุรกิจของท่านยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กลยุทธ์ต่อไปของหมอเสริฐ ก็คือ การให้โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นโรงพยาบาลแห่งอาเซียน รองรับตลาด “อาเซียนส่วนบน” อันประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และมองไกลไปจนถึง “ตลาดจีนตอนใต้” อีกด้วย
จากผลงาน กลยุทธ์ วิธีคิด และการบริหารงานของนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ทำให้หลายคนไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหมอเสริฐจึงได้รับการยอมรับและคัดเลือกให้เป็นสุดยอดนักบริหาร และก้าวมาสู่อันดับ 1 ของเศรษฐีหุ้นไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาจนถึง ณ วันนี้ได้นั่นเอง
ที่มา
- www.thairath.co.th
- https://www.facebook.com/advancedbusinessmagazine/posts/393783870817714:0