อย่างที่เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าการลงทุนนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจขนาดใหญ่ก็ตามจะต้องมาพร้อม ๆ กับคำว่า “ความเสี่ยง” เสมอ การลงทุนเป็นเรื่องที่ดี แต่หากผู้ลงทุนไม่ได้มีความรู้หรือความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ แล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยว่าคุณต้องพบกับคำว่า “ความเสี่ยง” มากกว่าผู้ที่มีความรู้ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจที่ต้องการจะลงทุนอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นการลงทุนในรูปของอสังหาริมทรัพย์แล้วด้วย คุณควรมีความรู้เกี่ยวกับ การเลือกทำเลให้สามารถทำเงินได้ และทำให้การลงทุนของคุณได้ผลกำไรมากขึ้น สำหรับในบทความนี้ เราขอจะมาเปิดเผยเทคนิคเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เป็นแนวทางในการลงทุน ที่อาจช่วยให้คุณสามารถนำเอาเคล็ดลับดี ๆ นี้ไปลงทุนเพิ่มพูนผลกำไรตามที่คุณต้องการได้
วิธีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ได้กำไร ทำอย่างไร? ก่อนอื่นคุณควรเข้าใจเสียก่อนว่า “อสังหาริมทรัพย์” คืออะไร
เราขออธิบายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบสั้น ๆ ว่า “อสังหาริมทรัพย์” ก็คือ บ้าน และที่ดิน (ถ้าจะให้พูดกันแบบภาษาทางกฏหมายนั้นก็คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้) ในการลงทุนอสังหาฯ นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงิน จริงหรือ? ขอตอบว่าเป็นเรื่องจริงเพราะการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นสามารถใช้เงินผู้อื่นลงทุนได้ คุณเริ่มจะสงสัยแล้วใช่ไหมว่าจะลงทุนอย่างไรโดยไม่ต้องใช้เงิน (ตนเอง) วันนี้เราขออธิบายรายละเอียดง่าย ๆ ให้คุณพอเข้าใจอย่างคราว ๆ ดังนี้ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ต้องใช้เงิน (ของตนเอง) แต่เป็นการใช้เงินของผู้อื่น ซึ่งผู้อื่นในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นั้นก็คือ “เงินธนาคาร” เพราะว่าการลงทุนในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เราจำเป็นต้องขอกู้กับทางธนาคารเพื่อนำมาลงทุน ซึ่งหากคุณสามารถทำกำไรในอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ ได้ก็สามารถนำเงินส่วนนั้นไปจ่ายให้กับธนาคารได้ และคุณยังได้ผลต่างที่เหลือจากการจ่ายให้กับธนาคารแล้วอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนโดยไม่ต้องใช้เงินตนเอง
เทคนิคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมี 2 รูปแบบด้วยกันก็คือ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับตนเอง ให้มีอิสรภาพทางการเงิน กับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เอาไว้เก็งกำไรของส่วนต่างราคา โดยทั้งสองแบบนี้ คุณจะได้รับกำไรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการพัฒนาของพื้นที่นั้น ๆ โดยทั้ง 2 แบบนี้ก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกัน
- แบบที่หนึ่ง คือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้าน และ คอนโดมีเนียม
เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์มาเพื่อให้เช่า ก่อนอื่นคุณควรเลือกทำเลพื้นที่ตั้งว่า อสังหาริมทรัพย์ของคุณตัวนี้ อยู่ในสถานะที่เหมาะสำหรับการให้เช่าหรือไม่ หรือที่ตรงนี้มีความต้องการเช่าสูง เพราะถ้าหากอสังหาริมทรัพย์ที่คุณให้เช่า ไม่มีผู้ต้องการเช่า คุณก็อาจจะต้องเสียเงินก้อนใหญ่ให้กับธนาคารก็เป็นได้ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่านั้น คุณไม่ควรเลือกบ้าน และคอนโดมิเนียมมือหนึ่ง หรือเพิ่งก่อสร้าง เพราะนั่นมักจะมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งถือว่ามีราคาแพงเกินจริง แนะนำให้คุณมองหาบ้าน หรือคอนโดมีเนียมมือสองแทนเพราะคุณจะสามารถซื้อต่อได้ในราคาที่ถูกกว่า เทคนิคการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม คุณควรเลือกห้องที่มีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่จนเกินไปเพราะว่าจะมีผู้ต้องการเช่าน้อย การเลือกห้องเป็นเรื่องสำคัญ คุณควรพิจารณาห้องหัวมุม ส่วนขนาดของยูนิต ควรเลือกห้องที่มีขนาดสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 30 – 100 ตารางเมตร แต่หากคุณต้องการซื้อห้องใหญ่คุณควรเลือกทำเลที่ตั้ง และโครงการที่คุณมั่นใจว่าดีที่สุดจริง ๆ เท่านั้น
- แบบที่สอง คือ การลงทุนที่ดินเปล่า
เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไรในราคาส่วนต่าง คุณควรมองโดยรวมว่า บริเวณที่คุณลงทุนไปนั้น อนาคตจะมีการพัฒนามากน้อยเพียงใด และมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณจะได้ในราคาที่คุณต้องการหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ถ้าคุณสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ในราคาถูก แล้วขายในราคาแพง คุณก็จะได้ส่วนต่างราคาที่คุณต้องการอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินออม หรือเงินที่ไม่ได้ใช้จ่ายใด ๆ การซื้อที่ดินเปล่าเก็บไว้ ถือเป็นการออมเงินที่ดีที่สุด ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 ปีขึ้นไป ยังไงราคาก็ต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โอกาสที่ราคาที่ดินจะตกมีน้อยมาก ที่ดินเปล่าถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นทรัพย์ประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น คอนโดมีเนียมก็มีส่วนกลาง ค่าซ่อมแซม ในระยะยาวถ้าคุณหรือนิติบุคคล ดูแลไม่ดีเพื่อนบ้านไม่ดีราคาก็จะตกลงตามไปด้วย นั่นก็เป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมที่ควบคุมได้ยาก หรือหากปล่อยเช่า ก็จะเจอปัญหาในการทำตลาดเพื่อให้คนมาเช่าก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น การเลือกลงทุนที่ดินเปล่าคุณควรเน้นการเลือกทำเลที่น่าสนใจ อย่างเช่น แนวรถไฟฟ้า แต่หากเป็นทำเลในกลุ่มโครงการถไฟฟ้าที่เพิ่งได้รับการอนุมัติ ราคาจะสูง ต้องใช้เงินมากเพื่อซื้อ แต่หากรอเวลาในอนาคตไปซื้อที่ดินในทำเลของโครงการใหม่ที่รัฐบาลจะอนุมัติเพิ่ม คุณก็ยังมีโอกาสที่จะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า
อ่านเพิ่มเติม : ข้อคิด ก่อน กู้ซื้อที่ดินเปล่า
สำหรับการลงทุนในที่ดินเพื่อการเกษตร สิ่งที่ควรให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ พื้นที่ที่คุณจะลงทุนต้องมีดินที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำดี และเหมาะสำหรับทำการเกษตร เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ของคุณ หรือไว้ให้เช่าพื้นที่เพื่อการเกษตรคุณสามารถสร้างกำไร ก่อนที่คุณจะขายเพื่อเก็งกำไรในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามก่อนการตัดสินใจซื้อให้คุณตรวจดูเอกสารสิทธิ์ของที่ดินให้ดีเสียก่อน หากเป็น นส. 3 หรือ นส.3 ก. ให้ระวังเรื่องการเพิ่ม – การลดของพื้นที่ แต่ถ้าเอกสารเป็นโฉนด จะมีความเสี่ยงต่ำกว่า เมื่อซื้อมาแล้วให้วางแผนว่าจะดูแลที่ดินอย่างไร ไม่ให้มีการบุกรุก คุณอาจมีการหาเครือข่ายบริษัทใหญ่มาปลูกพืชบนที่ดิน และแบ่งผลกำไรร่วมกัน คุณก็สามารถทำได้เช่นกัน ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มของสหกรณ์การเกษตร ซึ่งสามารถเข้าไปร่วมในกลุ่มได้ ในสหกรณ์จะมีให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือเรื่องพืชพันธุ์ต่าง ๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำกำไรในพื้นที่ดินเปล่าของคุณ
ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ แบบใด คุณควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และทำความเข้าใจในเงื่อนไขของแต่ละที่ให้ดีเพราะว่าการลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ควรระมัดระวังกันให้มาก ๆ เพื่อทรัพย์สินและตัวของคุณเองขอให้โชคดีกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่คุณเลือกค่ะ
