อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน
ประโยคแรกจากบทกลอนมงคลชีวิต ที่หลายๆคนน่าจะคุ้นหูกันดี กับประโยคนี้ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงของการดำรงชีวิตในปัจจุบัน เพราะ การนอนตื่นสายจะทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ไปมากมาย แต่หลายๆคนที่ต้องทำงานเลิกดึกๆ หรือ เลิกเช้า อันนั้นก็ถือเป็นข้อยกเว้น แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือน มนุษย์เงินวัน ไม่ว่าลูกจ้าง หรือ เจ้านาย สิ่งที่ไม่ควรทำคือนอนตื่นสาย และ อายทำกิน ลองมาวิเคราะห์กันดูว่า อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน จะมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต นั้นจริงหรือไม่
หรือจะลองอ่านบทความนี้ >> วางแผนการเงิน อย่างไร มีเงินใช้ตลอดชีวิต <<
อย่านอนตื่นสาย
ประโยคแรก วรรคแรก ของมงคลชีวิต ซึ่งการนอนตื่นสายนั้น ถือเป็นเรื่องของคนขี้เกียจ ที่มักจะหาเหตุผลให้ตัวเองทั้งๆที่บางครั้งเหตุผลของการนอนตื่นสายมันไม่ใช่เรื่องที่ดี เช่น เล่นโซเชี่ยลจนดึกเข้าตื่นไม่ไหว หรือ ไปแฮงค์เอาท์จนหมดแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย เพราะการนอนตื่นสายจะทำให้ตารางชีวิตในวันนั้นรวนและส่งผลเสียได้ เช่น หากคุณเป็นคนทำงานตามออฟฟิศ วันไหนเผลอตื่นสายแน่นอนว่าทุกอย่างต้องรีบเร่งตั้งแต่อาบน้ำ จนถึงเดินทางไปทำงาน และหากเข้างานสาย คุณก็จะโดนเพ่งเล็ง นานๆครั้งคงไม่เท่าไหร่ แต่หากเป็นประจำล่ะก็ มีสิทธิโดนปลดออกจากงานอย่างแน่นอน
หรือ หากคุณมีกิจการร้านค้า การเปิดร้านสายๆ ลูกค้าอาจจะหายเพราะกิจการร้านค้าบางอย่าง ยิ่งเปิดเข้ายิ่งดี เช่น ร้านขายอาหาร หรือ ค้าขายในตลาดสด แม้แต่ร้านขายของชำการเปิดร้านเช้าๆก็จะได้ลูกค้าเพิ่ม และสิ่งที่เรามักจะเห็นกันคือ ร้านค้าเหล่านี้นิยมเปิดเช้าๆ แม้ว่าจะไม่มีลูกค้า เพราะเขายึดคติที่ว่า อย่านอนตื่นสาย โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของกิจการ เขามักเชื่อว่าการนอนตื่นแต่เช้าเป็นมงคลกับตัวเอง เพราะเช้าๆจะมีแต่เรื่องดีๆ เปิดร้านเช้าๆ ก็เหมือนการกวาดเงิน กวาดทองเข้าร้าน ตื่นสายๆ คนก็กวาดเงินกวาดทองไปหมดแล้ว
อย่าอายทำกิน
เป็นอีกประโยคที่หลายๆคนใช้ยึดถือปฏิบัติกันมา เพราะประโยคนี้ก็เป็นมงคลชีวิตเช่นเดียวกัน แต่ผู้คนในยุคปัจจุบันยิ่งคนรุ่นใหม่ๆ ส่วนมากมักจะ อายทำกิน เพราะถือเรื่องหน้าตาเป็นเรื่องสำคัญ บางคนอายไม่กล้าขายของ บางคนอายไม่กล้าไปสมัครงาน บางคนอายที่จะทำงานตามออฟฟิศเล็กๆ ซึ่งทำให้หลายคนตกงานและพลาดโอกาสดีๆในชีวิต คำว่า อย่าอายทำกิน หมายถึงให้เรากล้าที่จะทำงานโดยไม่อายว่าเราจะประกอบอาชีพอะไร ขอแค่ให้เป็นงานที่สุจริต ไม่ผิดกฎหมาย แต่สำหรับยุคนี้นั้นบางคนถือเรื่องหน้าตาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นเราจึงเห็นเด็กจบใหม่จำนวนไม่น้อยเลือกงาน เลือกเงินเดือน และ เลือกอาชีพเพราะคิดว่ามีความรู้ ดังนั้นงานที่จะทำต้องเชิดหน้าชูตาให้ตัวเองและครอบครัวได้ บางคนติดกับค่านิยมเก่าๆ ว่าจบปริญญาตรีเงินเดือนต้องดี ต้องเป็นข้าราชการ ต้องอยู่บริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น
ซึ่งมันสวนทางกับสภาพความเป็นจริงของการจ้างงานในบ้านเรา เพราะทุกวันนี้คนตกงานมีเป็นแสนคน การแย่งตำแหน่งงานมีการแข่งขันสูง ดังนั้นหากมัวแต่เลือกงาน เลือกเงินเดือน ก็อาจจะทำให้ไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ซึ่งการหางานทำสำหรับบางคนนั้นก็มีการตั้งเป้าหมายเช่น เลือกที่ใกล้บ้านเดินทางสะดวก เงินเดือนหักลบกลบค่าใช้จ่ายต่อวันแล้วเหลืออย่างน้อย 70% ขึ้นไป ตำแหน่งงานความรับผิดชอบและเงินเดือนสมน้ำสมเนื้อกัน ซึ่งหลายคนใช้สูตรนี้ในการหางานทำโดยไม่เลือกตำแหน่ง ไม่เลือกว่าบริษัทจะเล็กหรือใหญ่ แต่เลือกจากสภาพความเป็นจริงที่งานหายาก บางคนทำงานไม่ตรงกับที่ร่ำเรียนมาก็มี แต่ทุกอย่างมันหาประสบการณ์กันได้ ซึ่งคนที่ไม่เลือกงานนั้นมักจะไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว การหางานทำหากเปลี่ยนงาน หรือ ตกงาน เพราะเขาคิดว่ามีงานมีรายได้ดีกว่าไม่มีอะไรเลย และส่วนใหญ่จะถือคติที่ว่า เลือกนักมักได้แร่
จากมงคลชีวิตประโยคแรก อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน คงจะพอบอกพอสอนอะไรหลายๆคนได้บ้าง จากที่อธิบายมาคร่าวๆ เพราะทั้งสองประโยคถือเป็นคำสอนที่ดีที่เราควรทำตาม และ นำมาปฏิบัติในการใช้ชีวิต เพียงแต่ทำให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของเรา นำมาปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทั้งการทำงาน หรือ ในแต่ละวันของเรา รับรองว่าหากคือคติ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน คุณจะ มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต อย่างแน่นอน