ปัจจุบัน ธุรกิจบ้านเช่า นับเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งธุรกิจ เนื่องจากเปรียบได้กับการประกอบธุรกิจ แบบ “เสือนอนกิน” เพียงลงทุนครั้งแรกก็สามารถเก็บเงินค่าเช่าได้ แต่หากมองธุรกิจบ้านเช่าหรือธุรกิจห้องเช่า ให้ครบมุมแล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบอาชีพนี้ต้องพิจารณานั้นมีดังต่อไปนี้
ทำความรู้จักเบื้องต้นของการลงทุนของธุรกิจบ้านเช่า
การทำห้องเช่าจัดได้ว่าเป็นธุรกิจส่วนตัวที่ความเสี่ยงไม่มากเท่ากับการลงทุนแบบอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การเล่นหุ้น การลงทุนร้านกาแฟ เป็นต้น สำหรับการลงทุนและการคิดกำไรมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนี้
1.ระยะเวลาคืนทุน
ระยะเวลาในการที่ผู้ลงทุนจะได้เงินลงทุนคืนขึ้นอยู่กับการคิดค่าเช่าในแต่ละห้อง ซึ่งผู้ลงทุนควรคำนึงถึงในกรณีที่ตนเอง กู้เงินจากธนาคารและต้องเสียดอกเบี้ย หากว่ามีการเสียดอกเบี้ย ผู้ลงทุนอาจจะต้องคำนวณค่าเช่าในส่วนนี้ด้วย รวมไปถึงต้องคำนึงถึงภาษี ธุรกิจบ้านเช่าอีกด้วย ทั้งนี้การทำธุรกิจผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุด คือ รายได้ที่ได้จากธุรกิจ ของตนเองจะต้องเลี้ยงตนเองได้โดยไม่นำเงินส่วนอื่นมาเป็นค่าใช้จ่ายในธุรกิจ
2.การเลือกวัสดุก่อสร้าง
ผู้ลงทุนควรเลือกวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เนื่องจากในอนาคตหากมีการซ่อมแซมจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้เช่าเกิดความรู้สึกไม่ดีที่บ้านเช่าชำรุดและเสียหายบ่อยด้วย ผู้ลงทุนธุรกิจบ้านเช่าไม่ควรเสียดายเงินลงทุนในการเลือกวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้คือการลงทุนที่คุ้มค่านั่นเอง
3.ทำเลในการทำห้องเช่า
ผู้ลงทุนควรเลือกทำเลที่เหมาะสมในการทำธุรกิจบ้านเช่ารายวันหรือธุรกิจบ้านเช่ารายเดือน และเลือกแหล่งที่มี ผู้คนพลุกพล่าน อาจเป็นแหล่งใกล้โรงงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัยก็ได้เช่นกัน เนื่องจากการเลือกทำเลที่เหมาะสมจะทำให้การคืนทุนใช้ระยะเวลาที่น้อยกว่าเดิมและความเสี่ยงในการขาดทุนจากธุรกิจนี้เป็นไปได้ยากมากขึ้น
เทคนิคการสอบถามผู้มาเช่าห้อง
1.สอบถามถึงการย้ายที่อยู่
การสอบถามสาเหตุของการย้ายที่อยู่จะทำให้ผู้ให้เช่าบ้านรู้จักนิสัยของคนเช่าดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเป็นการพิจารณานิสัยเบื้องต้นของผู้เช่าด้วยว่าเหมาะจะให้เช่าหรือไม่ เนื่องจากผู้เช่าบางคนอาจค้างค่าเช่าที่อยู่เก่าหรือมีลักษณะนิสัยชอบจ่ายเงินล่าช้าก็เป็นได้
2.สอบถามระยะเวลาในการเช่า
ผู้ให้เช่าควรสอบถามว่าผู้เช่าจะอาศัยนานเท่าใดเพื่อเตรียมการให้พร้อม หากผู้เช่าอาศัยในระยะเวลาไม่นานเจ้าของบ้านจะได้เตรียมหาผู้เช่าใหม่เพื่อไม่ให้รายได้ขาดช่วง นอกจากนี้ผู้เป็นเจ้าของบ้านเช่าก็ควรที่จะทำสัญญามัดจำล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกันผู้เช่าหนีออกจากห้องเช่าโดยไม่ได้จ่ายเงิน
3.สอบถามอาชีพ
การสอบถามอาชีพของผู้เช่าจะเป็นการคัดเลือกคุณภาพของผู้เช่าได้ในอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากผู้เช่าบางคนไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นฐาน เมื่อเช่าห้องในระยะยาวอาจจะทำให้เกิดการค้างค่าเช่าก็เป็นได้ นอกจากนี้การสอบถามอาชีพยังเป็นเพิ่มความคุ้นเคยให้กับระหว่างผู้เช่ากับเจ้าของบ้านอีกด้วย
4.จำนวนผู้อยู่อาศัย
เจ้าของบ้านควรจำกัดจำนวนของผู้ที่เช่า เนื่องจากว่าหากมีจำนวนผู้อาศัยที่มากเกินขนาดของบ้านอาจทำให้บ้านเสื่อมสภาพมากกว่าเดิม จัดเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านได้ในอนาคต
5.การเลี้ยงสัตว์
บ้านเช่าบางแห่งไม่นิยมให้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้เป็นเจ้าของบ้านว่าสามารถยอมรับการอยู่อาศัยของสัตว์ได้หรือไม่ หากเป็นห้องเช่าการเลี้ยงสัตว์อาจต้องระมัดระวังสักนิด เนื่องจากสัตว์อาจรบกวนผู้เช่าข้างเคียงและเกิดปัญหาระหว่างกันได้
วิธีการเพิ่มมูลค่าบ้านเช่า
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุที่ธุรกิจบ้านเช่าเป็น “เสือนอนกิน” ทำให้หลาย ๆ คนหันมาสนใจในธุรกิจนี้มากขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันสูงมากกว่าเดิม ซึ่งหากต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านเช่านั้น ผู้ลงทุนควรใช้เทคนิคดังต่อไปนี้
1.สิ่งอำนวยความสะดวก
การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้เช่าอย่างครบถ้วนจะทำให้ผู้เช่าตัดสินใจเช่าห้องได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม ยกตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ถนนภายในบ้านที่เทคอนกรีต น้ำประปาและไฟฟ้าที่สามารถใช้สอยอย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงการติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งจัดเป็นปัจจัยสำคัญในยุคนี้ไว้สำหรับผู้เช่าห้อง หากผู้ลงทุนประกอบธุรกิจบ้านเช่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนก็จะทำให้การเพิ่มมูลค่าห้องเช่าเป็นเรื่องง่าย
2.มีการเพิ่มเฟอร์นิเจอร์
หากผู้เป็นเจ้าของบ้านมีเฟอร์นิเจอร์พร้อมใช้อยู่ภายในบ้านจะทำให้การตัดสินใจเช่าของผู้เช่าเอนเอียงมาเพื่อเช่าบ้าน หากพิจารณาแล้วการลงทุนด้วยเฟอร์นิเจอร์นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าบ้านเช่าหรือห้องเช่าได้อีกทางหนึ่งอย่างแน่นอน
3.ซ่อมแซมบ้านให้น่าอยู่
แม้จะยังไม่มีผู้มาขอเช่า แต่หากเจ้าของบ้านพยายามซ่อมแซมและทำความสะอาดให้บ้านดูน่าอยู่ และอบอุ่น จะทำให้ ผู้เช่าต้องการเช่าอย่างแน่นอน หากบ้านเช่ามีความสกปรกหรือขาดการดูแลเอาใจใส่ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือผู้ตัดสินใจเช่าอาจไม่ตอบตกลงก็เป็นได้
4.สภาพแวดล้อมรอบบ้าน
ผู้เป็นเจ้าของบ้านควรพยายามทำความสะอาดรอบบ้านให้สวยงามและเป็นระเบียบอยู่เสมอ เนื่องจากความรกร้างอาจนำพามาซึ่งสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยก็เป็นได้
หากผู้ลงทุนพยายามมองให้ครบมุมของการทำธุรกิจบ้านเช่าและหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอก่อนจะลงมือในธุรกิจนี้ เชื่อได้ว่าผู้ลงทุนจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบ้านเช่าอย่างแน่นอน