การเล่นหุ้นในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเมื่ออดีตอีกต่อไป เนื่องจากด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเอื้ออำนวยประโยชน์ให้ผู้เล่นหุ้นเข้าถึงการเล่นหุ้นได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากแอพพลิเคชั่นซื้อขายหุ้น การดูกราฟเทคนิค การสอนเทคนิคเทรดหุ้นทางคลิปวิดีโอ รวมไปถึงสื่อต่าง ๆ ที่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนมองว่าการเล่นหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก เท่าใดนัก แต่สำหรับผู้ที่เป็น มนุษย์เงินเดือน แต่อยากเล่นหุ้น อาจจะกำลังตั้งคำถามกับตนเองว่าต้องเล่นหุ้นอย่างไร ในกรณีที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งการศึกษาจากตัวอย่างนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดก่อนจะตัดสินใจเล่นหุ้นจริง
กรณีศึกษา
กระทู้ มนุษย์เงินเดือน ต้องมีทุนเท่าไหร่ครับ ถึงสามารถเล่นหุ้น หารายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท แบบระยะสั้น
สมาชิกหมายเลข 1144902 ได้เข้ามาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Pantip เพื่อถามสมาชิกในเว็บไซต์ว่า ตนเองเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาแต่ต้องการหารายได้เสริม ซึ่งตัวของเขานั้นเคยหารายได้เสริมหลายต่อหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้ามือสอง การขายอะไหล่รถยนต์ การซื้อสินค้าและจำหน่ายออกไป รวมไปถึงการขายสินค้าแบรนด์เนมทางอินเทอร์เน็ต แต่จากที่ประกอบอาชีพเสริมมาทั้งหมดดังที่กล่าวข้างต้น พบว่าการบริหารเวลาไม่ดีพอ เนื่องจากกว่าจะได้เงินแต่ละจำนวนนั้นต้องเสียไปกับเวลาอย่างไม่คุ้มค่า สิ่งที่เขาพิจารณาและย้อนมองกลับมาคือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้เงินทำงาน พร้อมกันนั้นเจ้าของกระทู้ก็ตั้งข้อสงสัยว่ามนุษย์เงินเดือนต้องมีเงินทุนในการเล่นหุ้นเท่าใด จึงจะสามารถหารายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท โดยเป็นการเล่นหุ้นแบบสั้น ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้บอกว่าตนเอง ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเล่นหุ้นมาก่อนและยังไม่เคยศึกษาจากหนังสือ แต่ต้องการถามผู้ที่เคยมีประสบการณ์ก่อน ที่ตนเองจะลงสนามจริง
แนวทางการแนะนำ
สำหรับคำแนะนำที่สมาชิกเว็บไซต์ Pantip ให้คำแนะนำนั้นมีอยู่หลาย ๆ คำแนะนำที่น่าสนใจ ซึ่งหากต้องการเก็บสาระไปประยุกต์ใช้กับตนเองนั้นสามารถสรุปได้เป็นประเด็น ๆ ดังต่อไปนี้
1. สมาชิกท่านหนึ่งของเว็บไซต์ Pantip ได้บอกว่าการจะซื้อหรือขายหุ้นไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าใดนัก ขอแค่มีความตั้งใจและลองซื้อขายหุ้นเพียงหนึ่งอาทิตย์ก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว แต่สิ่งที่ยากกว่าการซื้อขายหุ้น คือ การวิเคราะห์เพื่อเลือกหุ้นและการตัดสินใจเพื่อซื้อหรือขาย ทั้งนี้ สมาชิกท่านนี้ได้บอกว่าหากทดลองเองในเวลาประมาณ 2 ปี โดยไม่ท้อแท้ก็สามารถค้นหาแนวทางและสไตล์การเล่นของตนเองได้อย่างแน่นอน
2. สมาชิกของเว็บไซต์ Pantip ได้แนะนำกับเจ้าของกระทู้ว่าหากต้องการให้ได้เงินจำนวน 20,000 บาทต่อเดือนนั้น เงินต้นจะต้องมีจำนวนมากถึง 8,000,0000 ถึง 10,000,0000 บาท ในกรณีที่เงินปันผลร้อยละ 3 ซึ่งหากการเล่นในกรณีหวังเงินปันผลนั้น ค่อนข้างจะต้องใช้เงินต้นสูงไม่ใช่น้อย
3. สมาชิกบางท่านของเว็บไซต์ Pantip ได้ให้คำแนะนำว่าแม้ตนเองจะเป็นมือใหม่สำหรับการเล่นหุ้นอยู่ แต่ก็ต้องการให้เจ้าของกระทู้เปลี่ยนแนวความคิดของการลงทุนในหุ้นว่าเป็นเรื่องง่ายและไม่ว่าใครก็ทำได้ เนื่องจาก การเล่นหุ้นนั้น เมื่อมีผู้เล่นได้กำไรก็ต้องมีผู้ที่เล่นแล้วขาดทุนเช่นกัน เพราะมีนักลงทุนรุ่นก่อนหน้านี้ที่ล้มเลิกความตั้งใจและเดินออกจากตลาดหุ้นเพื่อไปประกอบอาชีพอีกครั้ง ส่วนคนรอบตัวของสมาชิกท่านนี้ก็ขาดทุนกันหลายต่อหลายคน
4. ในส่วนของบางความคิดเห็นบอกกับเจ้าของกระทู้ว่าการจะเล่นหุ้นนั้น ควรเริ่มต้นด้วยการอ่านหนังสือและ การทดลองเล่นในเว็บไซต์ Click2win หากสามารถเอาชนะการเล่นในเว็บไซต์ Click2win ได้ก็สามารถลงทุนในการเล่นหุ้นจริงได้
5. มีผู้มากประสบการณ์ในการเล่นหุ้น ได้ให้คำแนะนำจากเจ้าของกระทู้ว่าหากต้องการเล่นแบบเก็งกำไรนั้น หากผู้เล่นได้กำไร 0.75 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ถือว่าประสบความสำเร็จ และหากมีเงินต้นจำนวนมากถึง 3,000,0000 บาทแล้วได้กำไรเดือนละ 20,000 บาท ก็นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่อง แต่เจ้าของความคิดเห็นนี้แนะนำเจ้าของกระทู้ว่า ตัวเจ้าของกระทู้ไม่มีเวลาในการเฝ้าหุ้นสักเท่าใดนัก ควรมองหาเพื่อลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีโดยเลือกหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอต่อปีมากกว่า 4 เปอร์เซ็น โดยหุ้นที่เลือกต้องมีการซื้อขายง่ายหรือที่เรียกในศัพท์หุ้นว่ามีสภาพคล่อง พร้อมกันนั้นเจ้าของกระทู้ก็ควรมองหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่ไม่แพงจนเกินไปนัก จากนั้นจึงถือหุ้นที่ตนเองซื้อมาเป็นเวลา 6 เดือน จนกระทั่งถึง 2 ปี เพื่อให้ได้รับเงินปันผล ในกรณีที่หุ้นของตนขึ้นก็สามารถขายออกไปเพื่อรับกำไร
6. สำหรับบางความคิดเห็นบอกเจ้าของกระทู้ว่า หุ้นจะให้ผลตอบแทนกับผู้ลงทุนมากหรือน้อยอยู่ที่เวลา ในการเรียนรู้ รวมไปถึงจังหวะที่เข้าตลาดอีกด้วย ทั้งนี้หากเจ้าของเงินลงทุนซื้อหุ้นถูกจังหวะก็จะทำให้ได้กำไร แต่ในกรณีของผู้เริ่มต้นนั้น ควรเลือกเริ่มจากเงินทุนจำนวนน้อย ๆ และทำใจให้เย็นที่สุด ไม่ควรต้องการได้เงินเร็วเพราะจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้ นอกจากนี้ก็ควรกำหนดเป้าหมายให้เหมาะสมกับการลงทุนของตนเอง เพื่อให้การลงทุนในหุ้น เป็นการสร้างกำไรได้มากที่สุด