ว่าด้วยเรื่องการวางแผนอนาคตเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับชีวิตของเรานะคะ เพราะนอกจากเราจะต้องมีเงินเหลือไว้สำหรับใช้จ่ายเรื่องฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรือแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ อาการเจ็บป่วยต่างๆก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทั้งสิ้น การออมเงินจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการออมเงินแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินฝากธนาคาร สำหรับบัญชีฝากประจำ หรือการนำเงินไปเล่นหุ้น หรือแม้แต่การลงทุนทำธุรกิจต่างๆเพื่อให้เงินงอกเงยขึ้น แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่เป็นช่องทางการออมเงินช่องทางใหม่ที่สะดวกต่อเรามากขึ้นค่ะ
เราเชื่อว่าในปัจจุบันหลายๆคนมีการทำบัตรเครดิตไว้ใช้กันไม่มากก็น้อย ซึ่งการใช้บัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่หลายๆคนเลือกใช้กัน เพราะการผ่อนของขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงหลายคนไม่อยากเสี่ยงโดยการจ่ายเงินสดเต็มจำนวน เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหลังจากที่เราได้จ่ายเงินสดจำนวนมากไปแล้วนั้น เราอาจมีเรื่องฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินสดขึ้นมาอีกก็ได้ นอกจากนี้ การซื้อจับจ่ายซื้อของผ่านบัตรเครดิตในปัจจุบันมีส่วนลดมากมาย อย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆคือ “การผ่อนแบบ 0% 10 เดือน” นั่นเองค่ะ หรือในบางกรณีห้างร้านบางแห่ง รีสอร์ตหรือแม้กระทั่งโรงแรมบางแห่งก็มีแคมเปญสำหรับบัตรเครดิตไว้ว่า “หากจ่ายผ่านบัตรเครดิต รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10-20%” เป็นต้น ข้อดีของบัตรเครดิตไม่ได้มีไว้แค่สำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการต่างๆเท่านั้นนะคะ ในปัจจุบัน บัตรเครดิตยังสามารถออมเงินให้เราได้อีกด้วย นั่นคือการซื้อประกันผ่านบัตรเครดิตนั่นเองค่ะ
เราเชื่อว่าหลายๆท่านที่มีบัตรเครดิตอาจจะเคยได้รับการติดต่อให้ซื้อประกันชนิดนี้ผ่านทางโทรศัพท์กันมาบ้าง ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะโทรมาเสนอในรูปแบบของ “โครงการออมเงินพิเศษ” หรือ “การออมเงินผ่านบัตรเครดิต” ก็ตาม เราเชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะตกลงทำประกันชนิดนี้ไปแล้ว แต่ก็คงมีอีกหลายท่านที่ตอบปฏิเสธเพราะต้องการศึกษาข้อมูลของประกันชนิดนี้ให้ดีก่อนการเริ่มลงทุนนั่นเองค่ะ
“โครงการออมเงินพิเศษ” หรือ “การออมเงินผ่านบัตรเครดิต” นั้น แท้จริงแล้วก็คือการซื้อประกันออมทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์นั่นเองค่ะ ซึ่งจะมีการหักเบี้ยประกันจากบัตรเครดิตเราไปในทุกๆเดือน ถือเป็นการสร้างวินัยทางการเงินให้เราและเป็นวิธีการออมเงินที่เพิ่มมาอีกหนึ่งช่องทาง ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่เราคิดจะออมเงินด้วยวิธีการซื้อประกันผ่านบัตรเครดิตนั้น เราต้องคำนวนค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าเบี้ยประกันต่างๆให้ครบถ้วนเสียก่อนว่าเรามีกำลังพอที่จะส่งเบี้ยประกันในระยะยาวหรือไม่ เพราะหากเราชำระเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด เราอาจจะต้องเสียดอกเบี้ยให้กับทางบริษัทประกัน หรือทำไปแล้วหากต้องการยกเลิกกรมธรรม์เราเป็นฝ่ายขาดทุนแน่นอนค่ะ ดังนั้นเราจึงควรศึกษาข้อมูลของประกันที่เราต้องการซื้อให้ดีก่อนนะคะ
ขอบคุณบทความจาก Rabbit Finance