สำหรับคนที่เริ่มทำงานไม่ว่าจะงานประจำ งานพาร์ทไทม์ ทุกคนต่างก็ทำงานเพื่อหารายได้ไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือเพื่อจ่ายภาระต่าง ๆ ที่มีอยู่ เช่น ค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ เงินที่ได้มาเหล่านั้นมักจะหมดไปกับค่าใช้จ่ายประจำบวกกับค่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เช่น ค่าดูหนัง แฮงค์เอาท์กับเพื่อนสมัยเรียนหรือเพื่อนร่วมงาน คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนใหม่ ๆ มักไม่คิดออมเงินตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงาน ส่วนใหญ่มักนำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น ๆ กันก่อน กว่าจะรู้ตัวว่าควรเก็บออมก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน เหตุการณ์เหล่านั้นเป็นการเตือนสติเรื่องการออมให้กับพวกเขาได้ดีแต่ก็ต้องเสียเวลาไปกับการใช้จ่ายเที่ยวเตร่ไปกับจำนวนเงินที่มากมหาศาลเช่นกัน
เรื่องของการออมเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนั่นหมายถึงการการันตีถึงอนาคตว่าเมื่อคุณมีเงินเก็บ คุณอาจจะไม่ลำบากในยามเกษียณ หรือเมื่อยามที่ตกงาน แม้ว่าคุณจะมีเงินสวัสดิการอย่างเงินชราภาพหรือบำเหน็จ บำนาญ แต่มันก็ไม่พอให้ยังชีพได้ในอนาคตเพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าการออมเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยการันตีได้ว่าคุณจะมีชีวิตที่ไม่ลำบากได้ในส่วนหนึ่ง ซึ่งข้อดีของ เริ่มเก็บเงิน สามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ดังนี้
1. การออมเงินคือความมั่นคงของชีวิต
เพราะในอนาคตนั้นค่าครองชีพจะสูงขึ้น เงินสวัสดิการต่าง ๆ ที่คุณได้รับ อาจไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ดังนั้นหากคุณมีเงินออมสำรองไว้จะการันตีได้ว่าคุณจะมีเงินเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตในอนาคต ซึ่งสัดส่วนของเงินออมนั้นควรเริ่มต้นที่ 10% ของรายได้ในทุก ๆ เดือนและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณมีความสามารถในการหารายได้ให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จะต้องนำกำลังกายและประสบการณ์มาคิดคำนวณสำหรับเงินออมในแต่ละปีด้วย โดยรูปแบบของการออมเงินนั้นหลากหลายทั้งการฝากธนาคาร การซื้อกองทุน การเล่นหุ้น การซื้อทรัพย์สินประเภทที่ดิน การลงทุนเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณมีความมั่นคงในอนาคตได้
อ่านเพิ่มเติม >> นิสัยการออม รากฐานแรกสู่การเงินมั่นคง <<
2. ออมเงินไว้สำรองยามฉุกเฉิน
คุณไม่มีทางรู้เลยว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินเท่าไหร่หรือจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้นมาบ้างที่ทำให้จำเป็นต้องใช้เงิน ดังนั้นการแบ่งเงินออมมาเป็นเงินสำรองฉุกเฉินจะช่วยให้คุณผ่านวิกฤตการเงินของแต่ละคนไปได้โดยที่ไม่ต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินหรือธนาคารซึ่งต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มจากเงินต้นอีก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนมักมองข้ามและมักหาเงินสำรองจากการกู้ยืมมากกว่าเงินออม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีเพราะการกู้เงินคือการนำเงินในอนาคตที่ควรมีมาใช้นั่นเอง
3. ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน
นี่เป็นเรื่องจริงที่หลาย ๆ คนคงเคยประสบมากับตัว เมื่อคุณทำงานและได้เงินเดือนดี มีเงินเก็บพอจะดาวน์บ้านดาวน์รถ มีความสามารถที่จะเป็นบัตรเครดิตหลายใบ เมื่ออายุงานมีความมั่นคงพอ จึงทำเรื่องเพื่อขอสินเชื่อในการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ แต่อยู่ดี ๆ ก็โดนเลิกจ้าง ซึ่งมาจากเหตุผลหลายประการ เช่น ธุรกิจไม่สามารถดำเนินการได้ต่อไปเนื่องจากประสบการขาดทุน หลายคนฆ่าตัวตายกันมาแล้วจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะไม่ได้มีแผนการสำรองเผื่อต้องโดนเลิกจ้าง อีกทั้งช่วงทำงานไม่มีการเก็บออมเงิน สร้างแต่หนี้ คุณอาจได้รับเงินบางส่วนจากสวัสดิการประกันสังคมหรือเงินชดเชยจากบริษัท เงินส่วนนี้อาจจะสามารถนำไปชำระหนี้ได้บ้างส่วน บางคนต้องเก็บไว้เป็นทุนหางานทำหรือเป็นทุนเพื่อทำกิจการเล็ก ๆ เช่น ค้าขาย หลายคนยอมเสียเครดิตไม่ชำระหนี้ไปเลยก็มี ซึ่งเหตุเพราระตอนทำงานไม่รู้จักออมเงิน ไม่วางแผนทางการเงิน เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่มีเงินสำรองสำหรับตัวเองและครอบครัว ดังนั้นควรเก็บเงินออมไว้เสมอเพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
แม้ว่าการออมเงินจะดูยากไปสักนิดสำหรับบางคน แต่ให้คิดเสมอว่าออมวันนี้ดีกว่าลำบากวันหน้า การออมไม่จำเป็นจะต้องออมทีละมาก ค่อย ๆ ออมไว้ทีละน้อย ๆ เท่าที่ทำได้และเพิ่มไปตามกำลังของเงินที่หาได้ สะสมไปเรื่อย ๆ ด้วยการเลือกรูปแบบการออมที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง เช่น การฝากประจำ ฝากออมทรัพย์ธรรมดา ซื้อสลากออมสิน ทำประกันชีวิตหรือแม้แต่เก็บในรูปทรัพย์สินอื่น ๆ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายหรือสามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้ เช่น ซื้อที่ดิน ซื้อทอง ซื้อหุ้น ซื้อกองทุนต่าง ๆ หากเริ่มทำการออมตั้งแต่เริ่มทำงาน รับรองว่าเมื่อถึงวัยเกษียณ คุณก็ยังมีเงินเลี้ยงตัวเองไปจนแก่หรือมีทุนสำหรับการเริ่มต้นกิจการเล็ก ๆ และอาจกลายเป็นมรดกให้ลูกหลานได้อีก
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้คุณยังไม่มีนิสัยการออมในวันนี้ เมื่อได้อ่านบทความนี้ คุณจะมีแรงกระตุ้นที่จะออมเงินมากขึ้นเพื่ออนาคตสำหรับตัวคุณเอง การออมเงินยังเป็นเรื่องที่ดีและควรปลูกฝังต่อลูกหลานหรือสมาชิกครอบครัวในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะยุคไหนการออมเงินคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคน ช่วยให้มีหลักประกันในการใช้ชีวิตและยังช่วยให้คุณเป็นคนวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น
หากใครที่กำลังหลงอยู่กับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อย่างน้อยควรหันมาฉุกคิดถึงอนาคตกันได้แล้ว เริ่มออมวันละเล็กละน้อยตามกำลังที่ทำได้ เมื่อออมเงินเล็ก ๆ เหล่านี้ไปทุกวัน เงินออมก้อนเล็กในวันนี้จะกลายเป็นเงินออมก้อนใหญ่ในอนาคตที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงหรืออาจจะสร้างรายได้ให้กับคุณในวันข้างหน้าของคุณ