หลายคนคงจะมีการวางแผนทางการเงินกันอยู่บ้างแล้ว ซึ่งบางคนอาจจะทำโดยที่ไม่รู้ตัวอย่างการฝากเงิน การซื้อบ้าน การซื้อกองทุน คอนโดฯ หรือซื้อที่ดิน รวมถึงการทำประกัน ซึ่งเป็นการวางแผนเรื่องการเงินในอนาคต การที่คุณให้เวลาและใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้น อย่างคิดว่าหากมีเป้าหมายว่าจะใช้เงินทำอะไรหรือจะทำยังไงจึงจะหาเงินมาออมเพิ่มได้ ก็คงจะช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริงเร็วยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำในการวางแผนทางการเงินก็คือ มีการกำหนดเป้าหมายหรือกำหนดสิ่งที่คุณต้องการก่อน
ซึ่งเป้าหมายของแต่ละบุคคล อาจจะแตกต่างกันไปตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถคันใหม่ บ้านใหม่ คอนโดฯ ใหม่ หรือการไปท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือบางคนอาจจะมีการวางแผนที่คิดอยากจะเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งไม่ว่าจะมีความต้องการแบบใดก็ตามให้ลองเลือกความมุ่งมั่นหรือเป้าหมายมาสักข้อ สองข้อแล้ววางแผนเรื่องอนาคตและการเงินควบคู่กันไป เพื่อที่จะไปถึงมันให้ได้จะช่วยให้คุณมีกำลังใจในการดำเนิน การตามแผนที่วางไว้มากขึ้น
ต้องมีเป้าหมายชัดเจน
การวางแผนทางการเงินในอนาคต จะต้องมีเป้าหมายที่จะทำให้คุณเองได้เห็นถึงความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน และจะช่วยทำให้สามารถคาดคะเนระยะเวลาที่จะต้องเก็บออม หรือมีการลงทุน เพื่อทำให้เกิดการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และยังเป็นตัวกำหนดให้คุณได้รู้จักคิดคำนวณล่วงหน้าว่าจะสามารถวางแผนการใช้เงินอย่างไรในอนาคต และจะทำให้มีเงินเก็บอย่างไร จะกระทบกับแผนที่เราวางไว้หรือไม่ โดยการกำหนดเป้าหมายอาจจะแบ่งออกเป็นเป้าหมายระยะสั้น และ เป้าหมายระยะยาว ซึ่งเป้าหมายระยะสั้นเป็นการวางแผนการเงินสั้นๆ ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เพราะหากมีการวาง แผนเฉพาะระยะยาวเพียงอย่างเดียวแล้ว อาจจะทำให้คุณเกิดอาการท้อขึ้นมาได้ เพราะเห็นว่าการออมเงินมีระยะเวลาที่นานเกินไป ทำให้รู้สึกว่าไม่บรรลุเป้าหมายสักที ทำให้การเก็บเงินออมด้วยการตั้งเป้าหมายระยะสั้น จึงเป็นเหมือนการให้รางวัลชิ้นเล็กๆ สำหรับตัวเองเพื่อให้มีกำลังใจที่จะทำตามแผนต่อไป อย่างการวางแผนเก็บเงินก้อนในช่วงเวลาสามเดือน อาจจะเก็บเอาไว้เพื่อการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ หรือเก็บเงินไว้สำหรับเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ แม้กระทั้งการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เพื่อทำการตกแต่งบ้าน ฯลฯ
ส่วนการวางแผนทางการเงินที่เป็นแบบเป้าหมายระยะยาว คือ การวางแผนการเงินของคุณสำหรับสิ่งที่ต้องการในอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรืออาจจะเป็น 2 ปี ขึ้นไปจนถึง 10 ปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งการวางแผนที่เป็นเป้าหมายระยะยาวถือเป็นเป้าหมายหลักที่ทำให้คุณต้องมาลงมือทำเรื่องการวางแผนทางการเงิน เพราะความต้องการหรือความจำเป็นในสิ่งที่ต้องใช้เงินเยอะ ยิ่งหากต้องการความสุขมากเท่าไหร่เราก็ต้องการเงินเยอะขึ้นเท่านั้น ทำให้ต้องมีแผนการออม หรือการลงทุน ที่รัดกุมและรอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายระยะยาวที่หลายคนคิดไว้คือ การซื้อรถยนต์ บ้าน หรือคอนโดฯ แม้แต่การส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งยังรวมถึงการเก็บเงินสำหรับแต่งงาน ฯลฯ เมื่อคุณตั้งเป้าหมายเพื่อการเงินในอนาคตแล้ว จะทำให้ทราบว่ารายการไหนที่จะต้องการทำก่อนหรือหลัง หรือรายการไหนมีความจำเป็นมากหรือน้อยเพียงใด เมื่อเลือกได้แล้วให้จัดเรียงแบ่งประเภท แล้วทำการวางแผนทางการเงินในอนาคต เพื่อให้เป้าหมายได้ประสบความสำเร็จอย่างง่ายๆ
สิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการวางแผนให้ถึงเป้าหมาย
สำรวจความต้องการของตัวเอง
สิ่งที่จะต้องทำและต้องยอมรับให้ได้คือการเข้าใจและสำรวจความต้องการของตัวเอง ซึ่งเป็นการยอมรับและรู้จักนิสัยทางการเงินของตัวเอง ที่มีเงื่อนไข และข้อจำกัดรวมทั้งความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงจากการลงทุนหรือการออมเงินในรูปแบบต่างๆ ได้มากหรือน้อยเพียงใด ซึ่งจะได้นำมาปรับใช้ในการวางแผนการเงินที่เหมาะสม หากเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ก็ต้องใช้ความระมัดระวังสูงตามไปด้วย โดยต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจให้ดีเพราะหากพลาดจะมีโอกาสสูญเสียเงินมากกว่าที่จะได้รับเงินก็ได้
กำหนดระยะเวลาและเป้าหมายที่แน่นอน
ควรกำหนดสิ่งที่สามารถเป็นจริงได้ โดยการกำหนดเป้าหมาย ไม่ใช่การกำหนดในสิ่งที่เพ้อฝัน เช่นคุณอยากจะเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นการกำหนดเป้าหมายที่ไม่สามารถเป็นไปได้ ตรงกันข้ามอาจทำให้เป้าหมายของคุณล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น การกำหนดเป้าหมายการเงินในอนาคตจะต้องดูระยะเวลาที่ดี ต้องคำนึงถึงว่าคุณมีความต้องการอะไร อยากมีความเป็นอยู่อย่างไร และต้องใช้เงินเท่าไร ฯลฯ ลองเขียนรายการเหล่านี้ออกมาดูและดูเป้าหมายที่เป็นไปได้ โดยอาจจะหาวิธีลงทุนที่มีผลตอบแทนมากกว่าเพื่อให้สำเร็จตามที่ต้องการ
กำหนดสัดส่วนเพื่อใช้เงินอย่างเหมาะสม
เมื่อมีรายได้เข้ามาก็ควรกันเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำที่จำเป็นก่อน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ผ่อนค่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์ ซึ่งหลังจากมีเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแล้ว จะทำให้คุณมีจำนวนเงินที่อยู่ในใจ และต้องหาวิธีที่จะให้ได้เงินก้อนนั้นมา ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดสัดส่วนรายได้ รายจ่ายให้เหมาะสม ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษแยกออกมา ซึ่งก็ควรจะแบ่งเงินออมออกมาให้เป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น จะได้ไม่ปะปนกัน และจะทำให้แยกเงินเก็บได้ง่ายขึ้น
เมื่อทำทุกขั้นตอนแล้วก็อย่าลืมลงมือทำและปรับแผน เพราะเมื่อเกิดความคิดดีๆ ก็ต้องรีบลงมือทำด้วยจึงจะประสบความ สำเร็จ เพราะไม่ว่าคุณจะวางแผนดีเพียงใดหากไม่ลงมือทำก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยในช่วงที่มีการดำเนินตามแผนอาจจะต้องมีการปรับเรื่องการวางแผนหรือแนวโน้มทางการเงินที่อาจจะเกิดในอนาคต ซึ่งจะต้องอยู่บนพื้นฐานที่มีความเป็นไปได้และมีความสุขทั้งปัจจุบันและในอนาคต