วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องคนเรียนเก่งกับโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิตว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ทุกคนจะต้องอยากให้ลูกของตนเองเรียนเก่ง ไม่มีใครอยากให้ลูกเรียนไม่เก่งหรอก เพราะการเรียนเก่งเป็นการแสดงออกให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่าลูกเรียนหนังสือรู้เรื่อง เรียนแล้วเข้าใจ สามารถทำข้อสอบ บททดสอบต่าง ๆ ได้คะแนนดี หากลูกใครเรียนไม่ดีถึงขนาดต้องสอบตกต้องซ่อม พ่อแม่ก็คงต้องกุมขมับว่าต่อไปลูกเราจะเอาตัวรอดได้หรือไม่
คนเราเมื่อทำอะไรสักอย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ หากเราอยากทราบว่าเราทำเรื่องนั้นได้ดี ประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็จะมีตัวชี้วัดไว้คอยบอกเราว่าเราอยู่ในระดับไหน อาจเป็นการเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เรียนด้วยกัน หรือทำงานด้วยกัน สำหรับการเรียนหนังสือ ตัวชี้วัดที่จะเป็นตัวบอกอย่างหนึ่งว่าเราเรียนได้ดีหรือไม่ก็คือคะแนนหรือเกรด เมื่อผลคะแนนหรือเกรดออกก็จะรู้ว่าคนไหนเรียนเก่งหรือคนไหนเรียนไม่เก่ง ในฐานะของพ่อแม่การอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงวิธีการวัดผลจากคะแนนหรือเกรดเพื่อให้ลูกได้รับรู้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและควรทำ แต่ก็ไม่ใช่เน้นให้เรียนเพื่อให้ได้คะแนนดีเพียงอย่างเดียว การเป็นคนเรียนเก่งหมายถึงต้องตั้งใจเรียน เรียนแล้วเข้าใจในสิ่งที่ครูสอน หากไม่เข้าใจก็พยายามอ่านหรือซักถาม หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจ รับผิดชอบในการอ่านหนังสือก่อนที่จะเข้าสอบ เพราะถือเป็นหน้าที่ของเด็กทุกคน เมื่อเราได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ตามความสามารถของเราแล้ว ผลคะแนนหรือเกรดที่ได้จะเป็นอย่างไร เราก็เกิดความภูมิใจ การเรียนเก่งไม่ได้หมายถึงการได้คะแนนเต็ม การต้องเป็นที่ 1 การเรียนเก่งคือเราแข่งกับตัวเอง ทำให้เต็มที่และดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ถือว่าเก่งจริง
อ่านเพิ่มเติม : ไม่จำเป็นต้องเก่งสักด้าน แต่ ประสบความสำเร็จ ได้
ผู้เขียนเองเชื่อโดยตลอดว่า วัยเด็กควรเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ เรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เขาอยากเรียน การเรียนรู้เกิดได้ทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน การท่องเที่ยว การซักถาม ใฝ่รู้ ช่างสังเกต พ่อแม่คนใกล้ชิดก็มีส่วนสำคัญในขบวนการเรียนรู้เหล่านี้ เด็กที่เรียนเก่งเท่ากันหมายถึงได้คะแนนหรือเกรดเท่ากัน ในขณะที่คนหนึ่งเรียนพิเศษอย่างหนักทุกเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์ ความเก่งเกิดจากการเรียน เรียน เรียน เน้นทำแบบฝึกหัดกับข้อสอบแต่เพียงอย่างเดียว กับเด็กอีกคนที่อ่านหนังสือก่อนสอบพอสมควร คือ อ่านให้จบเล่มและทำความเข้าใจ มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายสมอง พ่อแม่พาไปสถานที่ที่เป็นองค์ความรู้ต่าง ๆ ในการเปิดโลกทัศน์ให้กับเด็ก เช่น พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจต่าง ๆ ท้องฟ้าจำลอง เป็นต้น แม้แต่สวนสัตว์ก็เป็นสถานที่เรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ได้ หนังสือการ์ตูนเองสมัยนี้ก็เป็นองค์ความรู้ได้เช่นเดียวกัน หากเด็กชอบอ่านแล้วได้ความรู้ ก็ไม่ได้ผิดที่ควรจะส่งเสริม คนเรียนเก่งที่จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุขน่าจะเป็นแบบเด็กคนหลังมากกว่า
คนที่เรียนเก่งที่จริงแล้วมีโอกาสที่จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตในอนาคตได้มากกว่าคนที่เรียนไม่เก่ง เนื่องจากตั้งแต่เล็กพ่อแม่มีการปลูกฝังให้ต้องรับผิดชอบในเรื่องการเรียนซึ่งถือเป็นหน้าที่ของเด็กอย่างเดียวที่สำคัญและต้องทำให้ได้ดี บริบทรอบ ๆ การเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรงต่อเวลาเมื่อไปโรงเรียน การรักษาระเบียบวินัย เริ่มง่าย ๆ ในเรื่องของการแต่งกายให้ถูกระเบียบ การทำการบ้านส่งครูทุกครั้งให้เสร็จเรียบร้อยและทันเวลา เมื่อโตขึ้นมาก็รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องให้พ่อแม่คอยจ้ำจี้จ้ำไชหรือต้องคอยบอกให้ทำอะไรตอนไหน ยิ่งหากคนเรียนเก่งเป็นคนหัวดีเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจอะไรได้ง่าย ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบที่จะสามารถทำงานและอะไรต่าง ๆ ได้ดีในอนาคต
การเรียนเก่งหรือเรียนดีทำให้มีโอกาสในการเลือกเรียนในสาขาที่เราชอบซึ่งอาจสอบเข้ายากไม่ได้ง่ายสำหรับเด็กทั่วไป มีโอกาสในการเลือกอาชีพที่เราชอบและอยากทำ ทำให้มีทางเลือกมากกว่า บางอาชีพที่ต้องสอบแข่งขัน ต้องได้คะแนนดี เช่น แพทย์ วิศวกร เป็นต้น หากเรียนไม่ดีเรียนไม่เก่งตั้งแต่เล็ก ๆ โอกาสที่จะได้ทำอาชีพอย่างที่เราฝันไว้ก็คงไม่มี
อาจมีคำถามว่า เราเห็นคนเรียนไม่เก่งก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกันนะ อันนี้ไม่เถียง แน่นอน อย่างที่ว่าการเรียนเก่งเป็นเพียงปัจจัยเดียวเท่านั้นที่จะประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงโอกาสต่าง ๆ ที่อาจผ่านเข้ามาในชีวิตของเราที่แตกต่างกันก็ได้ เพียงแต่การเรียนเป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้ดีได้ตั้งแต่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ง่ายกว่าปัจจัยอื่น ๆ เราก็เพียงแต่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้น ไม่ควรคิดและเอาตัวอย่างของคนที่เรียนไม่จบหรือไม่เก่งแต่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ มาเป็นข้ออ้างในการไม่ตั้งใจเรียนในตอนนี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนเก่งเรียนดีเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้เป็นการรับประกันถึงการจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เนื่องจากการประสบความสำเร็จในชีวิตหรือการทำงานต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างมาช่วยอำนวย เช่น การบ่มเพาะนิสัยที่ดี การรู้จักเข้าสังคม ทัศนคติในการมองโลก เป็นต้น มีปัจจัยอีกมากมายที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ดังนั้น นอกจากการเรียนซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ปัจจัยอื่น ๆ ต้องมีการบ่มเพาะและพัฒนาไปในทางที่ดีตั้งแต่ยังเล็ก โดยพ่อแม่ควรดูแลให้ลูกมีองค์ประกอบของความเป็นมนุษย์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ฝึกนิสัยที่ดี ทั้งเรื่องรับผิดชอบและการตรงต่อเวลา การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักการเรียนรู้ใฝ่รู้ รู้จักวางแผนชีวิต ทุกอย่างเป็นสิ่งที่สำคัญ ทัศนคติในการมองโลกก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการที่คนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่ คนเรียนเก่งหรือคนเก่งต้องให้โอกาสผู้อื่นด้วย และไม่คิดว่ามีเราเก่งเพียงคนเดียวจนอยากทำตัวเป็นผู้นำตลอดเวลา ไม่ฟังใคร ทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงานนอกจากเก่งต้องเข้าใจถึงความเป็นไปของโลกและคนรอบ ๆ ข้าง ใช้ความถนัดและความเก่งของเราให้ถูกต้องถูกทาง รับรองว่า หากทำได้แบบนี้เราก็จะสามารถทั้งเรียนเก่งและประสบความสำเร็จในชีวิตได้แน่นอน