ในทุกๆวัน ความสำเร็จเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนล้วนใฝ่ฝันว่าอยากจะมี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ที่จะพาตัวเองให้พบกับความสำเร็จ โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกิจด้วยแล้ว เรียกได้ว่ามีความยากลำบากอย่างมากเลยล่ะกว่าจะพาธุรกิจของตัวเองสู่จุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จและในยุคนี้ก็ดูเหมือนว่าการมีวิสัยทัศน์ที่ดีและมีความอดทนก็ไม่ใช่สิ่งที่เพียงพอต่อการสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหากเรามองนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหรือมองคนอื่นๆที่ประสบความสำเร็จ เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีสิ่งบางสิ่งที่คล้ายๆกันอยู่ และสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นมีคล้ายๆกันก็คือ
-
ไม่ท้อถอยกับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
เมื่อพูดถึงคำว่าความสำเร็จจากธุรกิจหรือความสำเร็จจากการประกอบอาชีพอื่น สิ่งหนึ่งที่ทุกคนล้วนต้องเจอเหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นก็คือความล้มเหลว เพียงแต่จะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่มีความร่ำรวยมหาศาล พวกเขาเหล่านั้นก็เจอความล้มเหลวอย่างมากมายมหาศาลเช่นกัน ซึ่งถ้าหากว่าเราเลือกที่จะท้อถอยกับความล้มเหลวที่เจอ รับรองได้ว่าเราจะไม่มีทางที่จะได้เห็นหนังสือ Harry potter ของ J.K. Rowling โลดแล่นออกมาให้ชมอย่างแน่นอน เพราะเธออาจจะเลือกที่จะกลับบ้านแล้วก็วางต้นฉบับไว้ที่บ้านมากกว่าเดินหาสำนักพิมพ์เพื่อที่จะเสนอหนังสือที่เธอเขียนขึ้นมา ฉะนั้นแล้วเราไม่ควรท้อถอยเมื่อเจอความล้มเหลวไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม
-
ศึกษาจากความล้มเหลวนั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอความล้มเหลว สิ่งหนึ่งที่เราจะได้รับจากมันก็คือบทเรียน บทเรียนที่ว่าเพราะอะไรเราถึงล้มเหลว บทเรียนที่ว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่าถึงทำให้ล้มเหลว และเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ในคำตอบเหล่านั้น สิ่งหนึ่งที่เราควรทำต่อจากนั้นก็คือการเรียนรู้เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นกับเราในอนาคตอีกครั้ง
-
มีการวางแผนที่ดี
การวางแผนในการสร้างกำไรของแต่ละบริษัทนั้น ก็อาจจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันหรือแตกต่างกันไปตามความคิดและวิสัยทัศน์ของ CEO อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือที่เมื่อรู้ว่ารุ่นไหนก็ตามที่สามารถสร้างรายได้ได้มากหรือขายได้ดี ทางบริษัทก็จะทำสินค้าชิ้นนั้นออกวางจำหน่ายเรื่อยๆ แต่สำหรับ Apple กลับสั่งยกเลิกที่จะผลิตของชิ้นนั้นหลังจากที่วางจำหน่ายได้เพียง 2-3 เดือน เพื่อภาพลักษณ์และกระตุ้นยอดขายของสินค้าเมื่อมีการวางจำหน่ายสินค้าชิ้นต่อไป
-
เลือกวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ในการแก้ปัญหา ก็จะมีการแก้ปัญหาอยู่ 2 แบบที่เห็นได้ชัดเลยก็คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับการแก้ปัญหาในระยะยาว บ่อยครั้งที่หลายๆบริษัทเลือกที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพราะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายและเห็นผลในทันที แต่ก็มักจะนำพามาซึ่งปัญหาที่ยุ่งยากกว่าเดิม แต่ในทางกลับกันหากเราเลือกที่จะแก้ปัญหาแบบระยะยาวล่ะ แรกๆอาจจะเห็นผลช้าหน่อยแต่ไม่ผิดหวังแน่นอน
-
มองหามืออาชีพในการช่วยทำงาน
ในการทำงาน แน่นอนว่าไม่มีใครที่เก่งในทุกๆด้านอย่างแน่นอนหรืออาจจะมีแต่น้อยมาก ซึ่งการเลือกที่จะหามืออาชีพในการช่วยแก้ปัญหาหรือเป็นแบบอย่างในการพัฒนาบริษัท ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยเราได้มากเลย
-
สร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
การสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ไม่จำเป็นที่ต้องสร้างระหว่าง CEO กับ CEO ด้วยกันเอง แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์เรากับคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บริษัทคู่แข่ง เพื่อนร่วมงาน เจ้าของธุรกิจอื่นๆ ซึ่งทุกๆคนที่เราสร้างความสัมพันธ์ด้วยนั้นจะมีบทบาทอย่างมากเลยล่ะในอนาคตเพราะเราอาจจะได้ขอความคิดเห็นหรือขอความช่วยเหลือนะ
-
เลือกสังคมที่จะอยู่
หากเราอยากมีความรู้ มีความสามารถในด้านการทำอาหาร สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเราได้อย่างมากเลยก็คือการพาตัวเองไปอยู่ในสังคมของการทำอาหาร แน่นอนว่าในสังคมนั้นก็จะมีการพูดถึงวิธีการทำอาหารต่างๆรวมไปถึงให้คำปรึกษาด้วยนะ แล้วถ้าหากว่าเราเปลี่ยนจากการทำอาหารเป็นธุรกิจล่ะ มั่นใจได้เลยว่าการพาตัวเองไปอยู่ในสังคมนักธุรกิจ จะช่วยให้เราก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่นๆอย่างมากเลยล่ะ
-
ทำงานมากกว่าคนทั่วๆไป
ความสำเร็จที่มากกว่าคนอื่นๆ ล้วนมาจากความพยายามที่มากกว่า ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยล่ะถ้าเราอยากจะเป็นนักร้องมืออาชีพโดยที่ไม่ผ่านการพยายามหรือพยายามเท่าๆกับคนอื่น แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราฝึกร้องเพลงมากกว่าคนอื่น โอกาสที่เราจะพบเทคนิคหรือรู้เคล็ดลับในการร้องเพลงก็จะมากกว่าคนอื่นเช่นกัน และเมื่อพูดถึงในเชิงธุรกิจแล้ว แน่นอนว่าคนที่ทำงานมากกว่าคนอื่นๆ ย่อมเข้าใจงานและรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองทำ จนนำไปสู่เทคนิคการทำงานที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่าอีกด้วยนะ