ขอสินเชื่อยังไงให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถวางแผนการเงินได้ หลาย ๆ คนมักเลือกจะขอสินเชื่อจากธนาคาร เพื่อนำเงินก้อนมาหมุนต่อในยามฉุกเฉิน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ค่อนข้างมาก ทำให้หลายคนไม่ผ่านการอนุมัติ ในวันนี้เราจึงมาแนะนำเคล็ดลับ ขอสินเชื่อยังไงให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อ
อยากบอกทุกคนว่า ปัญหาสำคัญในการยื่นขอสินเชื่อให้ผ่าน อาจไม่ใช่แค่เพียงคุณสมบัติของผู้ สมัครสินเชื่อ และไม่ใช่แค่เพียงมีเงื่อนไขตรงตามที่ธนาคารกำหนดเพียงเท่านั้น แต่อีกหนึ่งเรื่องที่มี ความสำคัญไม่แพ้ข้อใดเลย นั่นก็คือการเตรียมเอกสารการสมัครสินเชื่อให้พร้อมสมบูรณ์ที่สุด สำหรับใคร ที่กำลังวางแผนขอสินเชื่อ ไปดูเคล็ดลับ ขอสินเชื่อยังไงให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? และเกณฑ์ พิจารณาสินเชื่อมีอะไรบ้าง?
1.เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด
ข้อนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก คือ การเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด โดยการเปรียบเทียบอัตรา ดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารต่าง ๆ จากข้อมูลหลายธนาคาร เพื่อเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำที่สุด
2.ระยะเวลาสัญญากู้ยาวนานที่สุด
ควรเลือกสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระนานที่สุด เหตุผลเพราะว่า ยิ่งระยะเวลาผ่อนนานเท่าไหร่ ยอด ชำระต่อเดือนก็ไม่สูงเกินไปช่วยลดภาระหนี้ในการผ่อนต่องวดน้อยลง โดยปกติ ธนาคารจะกำหนดระยะ เวลาผ่อนชำระหนี้ 15-30 ปี จากการพิจารณาอายุของผู้กู้ประกอบนั่นเอง
3.การช่วยเหลือลูกหนี้ของทางธนาคาร
แนะนำว่าผู้ขอสินเชื่อควรเลือกธนาคารที่มีการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตาม สัญญากู้เงินที่เคยทำไว้กับทางธนาคารอีกต่อไปได้ เช่น ธนาคารให้ปรับโครงสร้างหนี้ได้ เป็นการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ใหม่ให้เหมาะสมกับรายได้ที่ลดลง หรือตามความสามารถในการชำระหนี้โดยไม่ผิด นัดชำระหนี้ เช่น การขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ หรือลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับข้อนี้ ผู้กู้สามารถขอปรับ โครงสร้างหนี้ได้ทุกธนาคาร
ขอสินเชื่อยังไงให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
1.หาข้อมูลของสินเชื่อเพื่อเปรียบเทียบ
ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ควรหาข้อมูลของสินเชื่อแต่ละธนาคารเพื่อนำมาเปรียบเทียบเป็นทางเลือกที่ หลากหลาย เช่น อัตราดอกเบี้ย เมื่อเลือกได้แล้วก็มาศึกษาขอมูลของสินเชื่อที่สนใจ เพื่อจะได้ทราบถึง เงื่อนไข และคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ฐานเงินเดือน เป็นต้น
2.ตรวจสอบภาระหนี้ต้องไม่เกิน 40% ของรายได้
การขอสินเชื่อนั้น ธนาคารจะพิจารณาถึงภาระหนี้ที่มีอยู่เดิมนั้น ต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน เพราะหากต้องอนุมัติสินเชื่อให้ไป ย่อมมีความเสี่ยงสูงต่อการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต แต่หากผู้ขอ สินเชื่อไม่มีภาระหนี้ ย่อมมีโอก่าสได้รับอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น
3.เว้นระยะห่างการขอสินเชื่อใหม่
สำหรับกรณีที่เคยขอสินเชื่อไปแล้ว แต่ไม่ผ่านอนุมัติ หรือถูกปฎิเสธ ขอแนะนำว่า ควรเว้นระยะเวลาห่าง ในการยื่นขอสินเชื่ออีกครั้งไปประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างประวัติทางการเงิน หรือทำรายการเดือนบัญชีใหม่ให้พร้อมมากขึ้น
4.เตรียมเอกสารการสมัครให้พร้อม
ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการสมัครสินเชื่อ เพราะการเตรียมเอกสารให้ครบสมบูรณ์ ช่วยให้ธนาคาร พิจารณาสินเชื่อนั้นรวดเร็วขึ้น เช่น หลักฐานทางการเงินสำหรับพนักงานประจำ ได้แก่ สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน กรณีเจ้าของธุรกิจ หรือประกอบอาชีพอิสระ ควรเตรียม Statement ย้อนหลัง หรือบัญชีเงินฝากเพื่อประกอบการขอสินเชื่อด้วย
ธนาคารใช้เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ อะไรบ้าง
ปัจจัยสำคัญหลัก ๆ ที่ใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ มีดังนี้
- พิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ เช่น ต้องไม่มีประวัติการค้างชำระ 12 เดือนย้อนหลัง หรือ ไม่ให้สิน เชื่อแก่ลูกค้าใหม่ในกลุ่มอาชีพ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
- วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ธนาคารจะใช้ประกอบการพิจารณาในการขอสินเชื่อ เพื่อใช้เป็นข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต เช่น ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำ ธุรกิจ หรือลงทุนขยายโรงงาน เป็นต้น
- ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้หลัก 5Cs ธนาคารจะประเมินสถานะ ของผู้ขอสินเชื่อจากรายได้ ความมั่นคงของนายจ้าง ภาระหนี้สินเดิม และวงเงินที่ขอสินเชื่อ เป็นต้น
- กรณีผู้ขอสินเชื่อมีการค้ำประกัน หรือมีหลักประกัน ใช้ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ เพิ่มโอกาสในการ อนุมัติ หรือได้วงเงินที่มากขึ้น หลักประกัน เช่น เงินฝาก, พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ในกรณีมีบุคคลค้ำประกัน ธนาคารจะพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ ของผู้ค้ำประกันร่วมด้วย
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังวางแผนขอสินเชื่อให้ผ่านอนุมัติง่ายขึ้น และเพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสมัครสินเชื่อ ทั้งในเรื่องการเลือกสินเชื่อให้คุ้มค่า เข้าใจในหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และที่สำคัญเตรียมเอกสารการสมัครสินเชื่อได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด