บัตรเครดิต vs Pay Later ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า?
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวการช้อปก่อนจ่ายทีหลัง ไม่ว่าจะผ่าน บัตรเครดิต หรือ Pay Later ที่กลายมาเป็นหนึ่งในวิธีหลักของคนส่วนใหญ่ และได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนน่าจะสงสัยว่า บัตรเครดิต vs Pay Later ต่างกันยังไง แล้วแบบไหนดีกว่ากัน หากพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันเลย
บัตรเครดิต
เป็นเครื่องมือทางการเงินจากธนาคารที่ให้คุณรูดใช้ก่อน จ่ายทีหลังตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยสามารถซื้อสินค้า/บริการ แล้วชำระคืนภายในกำหนดเวลา โดยมีระยะปลอดดอกเบี้ยที่ประมาณ 45–55 วัน หากจ่ายเต็มจำนวนตรงเวลา บัตรเครดิตก็เป็นตัวช่วยจัดการเงินได้ดี แต่ถ้าชำระแค่ขั้นต่ำหรือผิดนัดชำระ จะมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง (ไม่เกิน 16% ต่อปี)
Pay Later
หรือชื่อเต็ม ๆ อย่าง Buy Now Pay Later (BNPL) ซึ่งแปลตรงตัวเลยก็คือ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เป็นสินเชื่อรูปแบบใหม่ที่ให้ซื้อสินค้าก่อนได้ แล้วชำระคืนตามวันเวลาที่กำหนด พร้อมให้ผ่อนชำระแบบรายเดือนได้ โดยมีจุดเด่นที่สมัครง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน หรือเอกสารซับซ้อน และมักไม่มีดอกเบี้ยถ้าชำระตรงเวลา หากผิดนัดชำระก็ต้องเจอกับดอกเบี้ยที่แพงกว่าบัตรเครดิต (ไม่เกิน 25% ต่อปี)
บัตรเครดิต vs Pay Later ต่างกันยังไง?
รายละเอียด | บัตรเครดิต | Pay Later (BNPL) |
ขั้นตอนสมัคร | ต้องใช้สลิปเงินเดือน เอกสารแสดงรายได้ |
สมัครง่ายผ่านแอป ใช้แค่บัตร ปชช. หรือบัญชีธนาคาร |
วงเงิน | 1.5 – 5 เท่าตามรายได้ และเครดิต | ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายในแอป |
การอนุมัติ | ใช้เวลาหลายวัน และตรวจสอบจากเครดิตบูโร |
อนุมัติเร็วในไม่กี่นาที |
ดอกเบี้ย | ไม่เกิน 16% ต่อปี | ไม่เกิน 25% ต่อปี |
สิทธิประโยชน์ | มีโปรผ่อน 0% ส่วนลด คะแนนสะสม หรือ cashback | ผ่อนชำระ 0% (ไม่ทุกอย่าง) |
ผลต่อเครดิต บูโร |
มีผลต่อประวัติเครดิตชัดเจน | ส่วนใหญ่ไม่มีผล ยกเว้นผิดนัดชำระบ่อย |
เลือกจ่ายแบบไหนดีกว่า?
บัตรเครดิต เหมาะกับผู้ที่:
- มีรายได้ประจำ และต้องการวงเงินสูง
- มีวินัยการเงินดี และสามารถจ่ายเต็มทุกเดือน
- อยากได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ผ่อน 0%, คะแนน, ส่วนลดต่าง ๆ
ควรเลือก Pay Later หากว่า:
- ยังไม่มีบัตรเครดิต หรือมีรายได้ไม่แน่นอน
- ต้องการซื้อสินค้าด่วนโดยไม่ต้องยื่นเอกสาร
- พร้อมชำระเงินตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ
บัตรเครดิตแม้จะได้สิทธิประโยชน์มาก แต่ถ้าไม่มีวินัยก็อาจกลายเป็นหนี้ก้อนโต ในขณะที่ Pay Later แม้ดูเข้าถึงง่ายกว่า และสมัครได้ไม่ยุ่งยาก แต่ก็อาจทำให้เราซื้อของเกินตัวได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกใช้บัตรเครดิต หรือ Pay Later สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจ่ายคืนให้ตรงเวลา เพราะหากผิดนัดอาจต้องเจอดอกเบี้ย ค่าปรับ หรือเสียเครดิตในระยะยาว กล่าวคือควรเลือกแบบที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้จ่าย และอย่าลืมวางแผนชำระคืนทุกครั้งที่ตัดสินใจใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เพื่อให้ควบคุมการเงินได้อย่างมั่นคง