แน่นอนว่าการซื้อของด้วยเงินสดนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เรารู้ตัวเองว่ามีเงินในการจับจ่ายใช้สอยเท่าไร มีเงินเหลือในกระเป๋าอีกเท่าไร แต่บางครั้งบัตรเครดิตก็เป็นเพื่อนที่ดีได้เหมือนกันหากเรารู้จัก ใช้บัตรเครดิตให้เป็น รู้จักเงื่อนไขต่างๆ ว่ามีการคิดดอกเบี้ยยังไง มีการให้แต้มสำหรับแลกของ บางครั้งก็ยังมีโปรโมชั่นรวมกับร้านค้าต่างๆ มากมาย เพียงแต่ต้องรู้ตัวเสมอว่าทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิต เราจะต้องกันเงินสดไว้สำหรับจ่ายคืนตามกำหนดจ่ายเงินที่ธนาคารแจ้งมาเท่านั้นเอง ซึ่งบัตรเครดิตมีเงื่อนไขต่างๆ ที่เราสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
สามารถยืมเงินใช้ได้ฟรีไม่มีดอกเบี้ย
รู้หรือเปล่าว่าบัตรเครดิตมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 45-55 วัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เราสามารถขอยืมเงินจากบัตรเครดิตไปใช้นานถึง 45-55 วัน และเราคืนเงินได้ครบจำนวนภายในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยที่ว่ามานี้ เราก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยสักบาท แต่ถ้าค้างชำระก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 20% ต่อปี ของยอดเงินที่ใช้ไปจนกว่าจะจ่ายคืนเงินจนหมด ง่ายๆ ก็คือ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ใช่แบบลดต้นลดดอก
ได้รับความคุ้มครองพิเศษ
มีสิ่งดีๆ บางอย่างซ่อนอยู่จากการเป็นผู้ถือบัตรเครดิต เช่น การประกันภัยการเดินทาง ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุในต่างประเทศ ความคุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า คุ้มครองกระเป๋าเดินทางล่าช้าหรือสูญหาย มีแผนประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ และการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ซึ่งก็จะแล้วเงื่อนไขการให้บริการของธนาคารเจ้าของบัตรแต่ละบัตรนั่นเอง
ใช้สร้างเครดิตให้ตัวเองได้
ใครจะรู้บ้างว่าการใช้บัตรเครดิตก็สามารถนำมาช่วยในเรื่องการขออนุมัติสินเชื่อบางประเภทก็ได้ ถ้าเราเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตและสามารถชำระเงินได้ตรงตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากเวลาที่เราจะขออนุมัติสินเชื่อ เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจ เพราะเจ้าหนี้หรือธนาคารจะใช้ข้อมูลเครดิตที่ดีของเราประกอบการพิจารณาด้วย
ช่วยลดราคา
บางครั้งเราก็ไม่ต้องรอช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อให้มีการลดราคาสินค้าจากห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่างๆ เพราะบางครั้งผู้ให้บริการบัตรเครดิตก็มักจะให้สิทธิพิเศษต่างๆ กับผู้ถือบัตรเครดิต แล้วถ้ายิ่งเป็นช่วงเทศกาลลดราคาสินค้า เราที่ถือบัตรเครดิตอยู่ก็อาจจะได้สิทธิประโยชน์บวกเพิ่มเข้าไปอีกเป็น 2 ต่อ 3 ต่อ ด้วย
บางครั้งก็มีเงินคืน
ถ้าเราใช้บัตรเครดิตประเภทที่มีโปรแกรมคืนเงินหรือบัตรเครดิตประเภท Cash Back ดังนั้นทุกครั้งที่หยิบบัตรเครดิตใบนี้มาใช้ เราจะได้เงินกลับคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิต ตามอัตราที่ธนาคารผู้ออกบัตรกำหนด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.4-5% ของยอดใช้จ่าย
มีคะแนนสะสม
อย่าลืมว่าการใช้บัตรเครดิตเราจะได้รับคะแนนสะสมทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร โดยจำนวนคะแนนจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารผู้ออกบัตรอีกเหมือนกัน ซึ่งบางคนก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงแล้วคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตก็มีประโยชน์เหมือนกัน เช่น ให้เราได้กินฟรี ไปเที่ยวฟรี เดินทางฟรี หรือบางครั้งก็สามารถนำแต้มที่มีอยู่ไปแลกเป็นเงินสดเพื่อไปลดยอดเงินที่ใช้บัตรเครดิตก็ได้
และสิ่งที่จะย้ำเตือนกันอยู่เสมอก็คือ เมื่อใช้บัตรเครดิตไปซื้อของอะไรก็แล้วแต่ ต้องกันเงินไว้ทันทีสำหรับจ่ายคืนทั้งจำนวนที่ใช้บัตรไป และจะต้องจ่ายให้ตรงเวลา ไม่เช่นนั้นจากเพื่อนที่ดีก็จะกลายเป็นเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยสุดโหดก็เป็นไป เพราะว่าการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นจะคิดจากเงินต้นทั้งหมดที่รูดบัตรไป และจะคิดดอกเบี้ยจากเงินก้อนนี้ไปจนกว่าจะใช้หนี้หมด ย้ำกันอีกทีดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ใช่ แบบลดต้นลดดอก แต่จะเป็น ใช้ต้นมาคิดตลอดจนกว่าจะจ่ายหมด
อ่านเพิ่มเติม : หลักการคิด ดอกเบี้ยบัตรเครดิตแบบลดต้นลดดอก
เห็นหรือเปล่า ว่าบางครั้งบัตรเครดิตก็เป็นเพื่อนที่ดีของเราได้เหมือนกัน เพียงแต่เวลาใช้บัตรเครดิตเราต้องมีสติในการใช้ มีการวางแผนและควบคุมการใช้วงเงินให้ดี โดยทุกครั้งที่ใช้เราจะต้องระลึกเสมอว่าใช้เท่าไรก็ต้องมีเงินสดจ่ายคืนเท่านั้น ห้ามจ่ายแบบขั้นต่ำเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะต้องเสียน้ำตาไปกับเพื่อนที่ดีของเราก็ได้ เพราะใช้บัตรเครดิตจนเพลินจนลืมนึกถึงเวลาการจ่ายคืน ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ดีแน่