โดนระงับบัญชี ตาม พ.ร.ก. ไซเบอร์ ต้องทำยังไงบ้าง?
ในยุคที่การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ เหล่ามิจฉาชีพจึงใช้กลโกงต่าง ๆ หลอกล่อให้เราโอนเงินไปหลักแสน หลักล้านในทุกวัน รวมถึงปัญหาบัญชีม้าที่ตามไม่ถึงต้นตอของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางรัฐบาลจึงออก พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อควบคุม และลดปัญหาดังกล่าว จึงทำให้หลายครั้งบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวทางการเงินไม่ปกติจะถูกอายัดบัญชีโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ในวันนี้เราจะพาไปดูกันว่า โดนระงับบัญชี ตาม พ.ร.ก. ไซเบอร์ ต้องทำยังไงบ้าง? เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้กลับเป็นปกติ
พ.ร.ก. ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
พระราชกำหนดการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เป็นกฎหมายที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การฉ้อโกงออนไลน์ การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการแพร่กระจายข้อมูลที่เป็นอันตราย
- การควบคุมการใช้บัญชีธนาคารและบัญชีการเงิน
มีมาตรการในการตรวจสอบและควบคุมการใช้บัญชีธนาคารหรือบัญชีการเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพื่อป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
- การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน และประชาชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานงานเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- การกำหนดบทลงโทษ
กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดความยับยั้งและป้องกันการกระทำผิดในอนาคต
ทำไมถึงโดนระงับบัญชี?
ด้วยปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ สั่งบล็อกโอนบัญชีม้า หรือบัญชีที่ต้องสงสัยสูง และป้องกันก่อนสูญเสียด้วยการขอความร่วมมือระหว่างธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยจะมีการระงับบัญชีต้องสงสัยดังกล่าวทันที ซึ่งมีสาเหตุเบื้องต้นดังต่อไปนี้
- เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ เช่น การรับ หรือโอนเงินจำนวนมากภายในระยะเวลาสั้น ๆ
- มีชื่อหรือข้อมูลที่ตรงกับผู้ต้องสงสัย ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- ได้รับแจ้งจากบุคคลอื่น ว่าบัญชีเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง หรือการกระทำผิด
โดนระงับบัญชี ตาม พ.ร.ก. ไซเบอร์ ต้องทำยังไงบ้าง?
- ติดต่อธนาคารทันที: สอบถามสาเหตุที่บัญชีถูกระงับ และขอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป
- รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง: เช่น บัตรประชาชน หลักฐานการทำธุรกรรม เอกสารแสดงที่มาของรายได้ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณได้
- ยื่นคำร้องขอปลดล็อกบัญชี: ส่งเอกสารและคำร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร หรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- ติดตามผลการดำเนินการ: สอบถามความคืบหน้าเป็นระยะ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
- ตรวจสอบบัญชีอื่น ๆ: หากคุณมีบัญชีธนาคารหรือบัญชีการเงินอื่น ๆ ควรตรวจสอบว่ามีการระงับหรือไม่ และดำเนินการเช่นเดียวกันหากพบปัญหา
วิธีป้องกันไม่ให้บัญชีถูกระงับในอนาคต
- ไม่ให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตน: การให้ผู้อื่นใช้บัญชีอาจทำให้คุณตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาจให้เฉพาะคนในครอบครัวเป็นกรณี ๆ ไป เช่น พ่อ-แม่ หรือบุตร เป็นต้น
- ตรวจสอบธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ: หากพบธุรกรรมที่ไม่รู้จัก ควรแจ้งธนาคารทันที
- รักษาข้อมูลส่วนตัว: ไม่เปิดเผยข้อมูลบัญชีหรือรหัสผ่านให้กับบุคคลอื่น
- ติดตามข่าวสาร และประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: เพื่อรับทราบมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง
การถูกระงับบัญชีตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนหากมีธุรกรรมทางการเงินที่เข้าข่ายกระทำความผิดตามที่กำหนด ทั้งนี้หากพบว่าตนเองถูกระงับบัญชี ควรรีบติดต่อธนาคารที่บัญชีถูกระงับโดยเร็วที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์ และทรัพย์สินของตนเอง พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำข้างต้น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว